‘ไตรรงค์’ ลั่น!! ‘บิ๊กตู่’ สมัครปาร์ตี้ลิสต์ อันดับ 1 ของรวมไทยสร้างชาติ
(1 ก.พ. 66) เนื่องในโอกาสครบรอบ 2 ปี สถานีข่าวท็อปนิวส์ เดินหน้าเข้าสู่ปีที่ 3 อย่างเป็นทางการ ได้มีการปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ ‘อนาคตประเทศไทย หลังการเลือกตั้ง 2566’
ช่วงหนึ่งของการพูดคุย ‘สันติสุข มะโรงสี’ ผู้ประกาศข่าวสถานีข่าว Top News เป็นผู้ดำเนินการเสวนา ได้สอบถามความเห็นจาก ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองนายกรัฐมนตรีและที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ถึงภาพรวมการเมืองปี 2566 โดยเริ่มจากการพูดติดตลกว่า “เท่าที่ดูผมมอง จะมีคนติดคุก เพิ่มขึ้น” ก่อนจะพูดถึงการทำงานของรัฐบาลว่า “ผมไม่อยากชมรัฐบาลนะ แต่มองว่าเป็นจริง จากการศึกษากับกระทรวงการคลัง องค์กรต่าง ๆ นักเศรษฐศาสตร์ดัง ๆ ในประเทศไทย เห็นตรงกันปี 66 เศรษฐกิจสหรัฐฯ ก็แย่ ยุโรปก็ตกต่ำ ดูเหมือนว่าประเทศไทย อีกหนึ่งประเทศที่ดีขึ้น เราแพ้ชาติเดียวคือจีน ดังนั้นใครมาเป็นรัฐบาล ก็คงสามารถดูแลพี่น้องที่ยากจนได้ดีขึ้น เพราะไทยเราสามารถฝ่ามรสุมเศรษฐกิจโลกมาได้แล้ว และการท่องเที่ยวจะช่วยเราได้เยอะจากนี้”
และเมื่อ ‘สันติสุข มะโรงสี’ ผู้ประกาศข่าวสถานีข่าว Top News เป็นผู้ดำเนินการเสวนา ถามว่า ใครจะได้เป็นนายกฯ ‘สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ท็อปนิวส์ ดิจิทัล มีเดีย จำกัด ให้ความเห็นว่า “ถ้าวันนี้เราจะมองว่า ใครได้เป็นนายกฯ คนต่อไป ในระบบรัฐสภาฯ มีความจริงที่เราต้องยอมรับก่อน คือ พรรคเพื่อไทย มีโอกาสจะได้รับการเลือกตั้งเป็นอันดับหนึ่ง แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ จะเป็นการใช้เงินมากที่สุด ที่เคยมีมา”
ถามว่าทำไมเพื่อไทย ถึงจะมาเป็นอันดับหนึ่ง จะมีส.ส.มากที่สุด ต้องกลับไปดูข้อมูล คะแนนนิยมของ ภาคอีสาน ตามมาด้วยภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคใต้ และกทม. เพราะเพื่อไทยเขาคุมอีสานมาตลอด ต้องเรียนดร.ไตรรงค์ว่า มันเป็นความผิดพลาดของพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเดิมที่ท่านเคยอยู่ พรรคนี้ไม่ได้รุกในภาคอีสานเลย ต่อมาในภาคกลาง ผู้ที่คุมพื้นที่คือพรรคพลังประชารัฐ รัฐมนตรีสุชาติ ก็ทำหน้าที่ดูแลภาคกลาง พรรคประชาธิปัตย์ภาคใต้เสื่อมทรุดเป็นครั้งแรก
แต่ประเด็นสำคัญ คือ การเลือกตั้งท้ายที่สุดแล้ว ใครจะพูดว่าไม่แบ่งขั้ว ปรองดอง ต้องบอกเลยเป็นไปไม่ได้ เพราะการเมืองปัจจุบันมันแยกเป็นขั้ว ภาคบังคับอยู่ที่แถลงการณ์ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่ออกมาสนับสนุน แบม-ตะวัน กลุ่ม 3 นิ้ว ที่เรียกร้องทั้ง 3 ข้อ ในการขอยกเลิกมาตรา 112 และอ้างว่า พรรคไหนเสนอยกเลิก 112 จะเลือกพรรคการเมืองนี้ แต่พอเป็นแบบนั้น ปรากฏว่า พรรคฝ่ายค้านส่วนใหญ่ แถลงยอมรับใน 2 ข้อแรกของตะวัน-แบม แต่ไม่แตะมาตรา 112 แต่เพียงเท่านี้ก็เหมือนการยอมรับแล้ว ว่าคนพวกนี้ทำถูกต้อง ทั้ง ๆ ที่มีการพูดจาไม่เหมาะสมต่อสถาบันฯ
ส่วนในแง่ของการประกาศจุดยืนของพรรคการเมือง พรรคพลังประชารัฐ จุดยืนของพลเอกประวิตร เชื่อว่าไม่เอาเพื่อไทยแน่นอน เพราะท่านเป็นผบ.ทบ.มาก่อน เคยดื่มน้ำพระพิพัฒน์สัตยา จึงเชื่อว่าจะไม่มีวันทำร้ายสถาบันฯ แน่นอน ดังนั้น การเมืองมีขั้วและขั้วนั้น คือไม่เอาทักษิณ ไม่จับมือเพื่อไทย
เมื่อถามว่า ในพรรคไทยสร้างไทย จัดว่าอยู่ในขั้วไม่เอาทักษิณด้วยหรือไม่ ‘สนธิญาณ’ กล่าวว่า หญิงหน่อยก็เหมือนจตุพร ที่ไม่เอาทักษิณแล้ว รับไม่ได้กับพฤติกรรมที่หลอกลวงสารพัด วีรกรรมร้ายแรงเยอะ
