Tuesday, 22 April 2025
บ้านพิบูลธรรม

‘กฤษนะทัวร์ยกล้อ’ พาชม ‘บ้านพิบูลธรรม’ ที่ทำงานสุดเข้มขลังของ ‘พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค’

(17 พ.ค.67) จากช่องยูทูบ ‘Krisana Lalai’ ได้โพสต์คลิปวิดีโอสำหรับการพาเปิดบ้าน ‘พิบูลธรรม’ ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานสุดเข้มขลังอลังการของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ‘นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค’ ผ่านรายการกฤษนะทัวร์ยกล้อ วันอาทิตย์ที่ 19 พ.ค.67 ทาง NationTV ช่อง 22 เวลา 10.00 - 10.30 น. 

แฟนคลับพี่ตุ๋ย ห้ามพลาด!!

‘พีระพันธุ์’ สวมบท ‘พี่ตุ๋ย’ คุยเรื่องอนาคตพลังงาน ในวันหยุด พาน้องๆ ล้อมวงคุย!! นั่งโต๊ะทำงาน สนุกสนานเป็นกันเอง

(19 ต.ค.67) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เปิดกระทรวงพลังงาน ซึ่งตรงกับวันหยุดราชการ เพื่อพานักเรียน เยาวชน ของสภานักเรียน ที่มีความสนใจในด้านพลังงานของไทย เข้าศึกษาดูงานในสถานที่จริงและเพื่อเป็นการเรียนรู้ข้อมูลด้านพลังงาน พร้อมเป็นทูตพลังงานในอนาคต

โดยในช่วงเช้า เป็นการบรรยายให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับพลังงาน โดย ดร. ประเสริฐ สินเสริมสุขสกุล หัวหน้ากลุ่มน้ำมันและก๊าซปิโตรเลียมเหลว และน.ส.กนกวรรณ เส้งประถม นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ สำนักงานนโยบายและแผน กระทรวงพลังงาน

จากนั้น นายพีระพันธุ์ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้พูดคุยล้อมวงกับนักเรียน เยาวชน โดยสวมบทบาท พี่ตุ๋ย ที่มาชวนพูดคุยบอกเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับกระทรวงพลังงาน ตั้งแต่ประวัติศาสตร์ด้านพลังงานทั้งของโลกและของประเทศไทย ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความเป็นกันเองและสนุกสนานในความรู้ที่นักเรียน เยาวชน ได้รับโดยตรงจากรัฐมนตรีที่ดูแลกระทรวง ซึ่งนายพีระพันธุ์ ในบทบาท พี่ตุ๋ย ได้อธิบายเรื่องที่ยากของการทำงานด้านพลังงานให้เข้าใจด้วยภาษาที่ง่ายและสนุกสนาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกองทุนน้ำมัน การสำรองน้ำมันของประเทศ อีกทั้งยังได้อธิบายถึงปัญหาการทำงานในฐานะของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน 

นอกจากนี้ นายพีระพันธุ์ ยังได้อธิบายถึงการเตรียมการออกกฎหมายเพื่อประชาชน ในการลดขั้นตอนการติดตั้งอุปกรณ์โซลาร์เซลล์ เนื่องจากที่ผ่านมานั้น ภาครัฐออกกฏหมายควบคุมที่มีความซับซ้อน และยุ่งยาก

ซึ่งหลังจากนี้ เมื่อมีการออกกฎหมายฉบับที่กำลังดำเนินการนั้น ประชาชนสามารถทำการติดตั้งได้โดยที่ไม่ต้องผ่านขั้นตอนการขออนุญาตที่มีหลายขั้นตอนแบบในอดีตที่ผ่านมา และจะส่งผลดีกับการใช้พลังงานทางเลือก 

หลังจากนั้น นายพีระพันธุ์ ได้ พาเยาวชนของสภานักเรียนเยี่ยมชมพื้นที่ของ บ้านพิบูลธรรม ซึ่งเป็นอาคารที่ทำการของกระทรวงพลังงาน เป็นหนึ่งในโบราณสถานที่ได้รับการขึ้นทะเบียนโดยกรมศิลปากร รวมทั้งยังได้เปิดห้องทำงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่ไม่ได้เปิดให้ได้ชมบ่อยครั้ง และยังพานักเรียนนั่งร่วมโต๊ะทำงาน พร้อมกับเปิดร่างกฎหมายด้านพลังงานที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมความพร้อมนำเสนอ ให้นักเรียน เยาวชน ได้ชมเป็นกลุ่มแรกของประเทศอีกด้วย 

อย่างไรก็ดี นับตั้งแต่ นายพีระพันธุ์ เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ตั้งสมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน และดำรงตำแหน่งต่อเนื่องในรัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้ใช้บ้านพิบูลธรรม เป็นที่ทำการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

สำหรับประวัติของบ้านพิบูลธรรม เดิมชื่อว่า บ้านนนที สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 ช่วงปี 2240 ซึ่งเป็นตัวอาคารที่ 1 ที่อยู่ใกล้กับคลองผดุงกรุงเกษม จนในรัชสมัยต่อมารัชกาลที่ 6 พระราชทานเงินเพื่อก่อสร้างบ้านหลังนี้ให้มีอาคารเพิ่มเติม เป็นส่วนอาคารที่ 2 พระราชทานให้กับเจ้าพระยาธรรมาธิกรณาธิบดี (หม่อมราชวงศ์ปุ้ม มาลากุล) เสนาบดีกระทรวงวัง สร้างประมาณ พ.ศ. 2456 อันเป็นปีที่เจ้าพระยาธรรมาธิกรณาธิบดี ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ โปรดเกล้าฯ เป็นเจ้าพระยา

ที่บ้านหลังนี้มีชื่อว่าบ้านนนทีนั้น ตั้งตามชื่อวัวพระนนทิการ ซึ่งเป็นเทวพาหนะของพระอิศวร ซึ่งเป็นตราประจำเสนาบดีกระทรวงวัง คือตราพระมหาเทพทรงพระนนทิการ เจ้าพระยาธรรมาธิกรณาธิบดีอยู่ที่บ้านหลังนี้จนถึงแก่อสัญกรรมเมื่อ พ.ศ. 2485

จะเห็นว่าสไตล์การออกแบบส่วนใหญ่มีความประณีตงดงามด้วยฝีมือสถาปนิกชาวอิตาลี เนื่องจากเป็นยุคที่ไทยกำลังเปิดรับอารยธรรมตะวันตกเข้ามาในหลายๆ ด้าน

จนกระทั่งเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2484 บ้านนนทีถูกระเบิดเสียหายอย่างหนักเกินกว่าจะซ่อมแซม เจ้าของบ้านจึงขายให้รัฐบาล ช่วงเวลานั้นจอมพล ป. พิบูลสงครามได้อนุมัติให้ซื้อไว้ในปี พ.ศ. 2498 และปรับปรุงซ่อมแซมเพื่อใช้เป็นสถานที่รับรองแขกเมือง และขนานนามใหม่ว่า ‘บ้านพิบูลธรรม’

ต่อมาในปีพ.ศ. 2501 จึงมอบให้เป็นที่ทำการของการพลังงานแห่งชาติและเคยเป็นที่ทำการของกระทรวงพลังงาน ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน 

‘พีระพันธุ์’ เปิดอาคาร 100 ปีให้นักเรียน เตรียมปั้น ‘ยุวทูตพลังงาน’ ส่อง ตำนาน ‘บ้านพิบูลธรรม’ ศูนย์บัญชาการ รื้อ ลด ปลด สร้าง พลังงานไทย

(21 ต.ค. 67) เมื่อวันเสาร์ 19 ต.ค. 67 ที่ผ่านมา ‘พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค’ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้เปิด ‘บ้านพิบูลธรรม’ ศูนย์บัญชาการของกระทรวงพลังงาน เพื่อให้คณะนักเรียนและเยาวชน จากสภานักเรียนไทยได้เยี่ยมชม 

การศึกษาดูงานบนพื้นที่ที่ใช้ทำงานจริงในครั้งนี้คงสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้เข้าเยี่ยมชมได้ไม่มากก็น้อย ไม่แน่ว่าหลาย ๆ ในวันหน้าคนที่เข้ามาศึกษาดูงานคงจะได้มีโอกาสใช้ ‘บ้านพิบูลธรรม’ แห่งนี้เป็นที่ทำงานในอนาคตก็ได้ 

แล้ว ‘บ้านพิบูลธรรม’ มีความเป็นมาอย่างไร ทำไมจึงถูกเลือกให้เป็นออฟฟิศหลักของกระทรวงพลังงานในยุคที่มีเจ้ากระทรวงที่ชื่อว่า ‘พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค’ ครั้งนี้ The States Times จะพาทุกคนหาคำตอบ 

จากคำบอกเล่าของหม่อมหลวงปุ่ม มาลากุล ระบุว่า บ้านแห่งนี้เริ่มก่อสร้างเมื่อประมาณ พ.ศ. 2440 ในสมัยรัชกาลที่ 5 แต่เดิมมีเพียงอาคารหลังเดียว โดยบ้านแห่งนี้ ‘พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานให้ ‘เจ้าพระยาธรรมธิกรณาธิบดี’ ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่ง ‘พระยาอนรักษราชมณเฑียร’ ก่อนในสมัยรัชการที่ 6 เจ้าพระยาธรรมาธิกรธิบดี ได้รับพระมหากรุณาธิคุณให้ดำรงตำแหน่ง ‘เสนาบดีกระทรวงวัง’ และหลังจากนั้นอีกไม่นานนัก รัชกาลที่ 6 ได้พระราชทานเงินให้สร้างตึกอีกหลังหนึ่งอันเป็นตึกหลักในปัจจุบัน พร้อมทั้งมีชื่อของบ้านในขณะนั้นว่า ‘บ้านนที’

ต่อมาในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วยระยะห่างจากสถานีรถไฟกรุงเทพ หรือที่เรียกติดปากว่าสถานีรถไฟหัวลำโพงอันเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในช่วงสงคราม จึงมีระเบิดหลายลูกถูกทิ้งพลาดเป้ามาลงที่ ‘บ้านนที’ ทำให้เกิดความเสียหายอย่างหนัก 

ต่อมาในปี 2498 รัฐบาลในสมัยที่นายกรัฐมนตรีมีชื่อว่า ‘จอมพล ป. พิบูลสงคราม’ ได้ซื้อบ้านหลังนี้พร้อม ๆ กับบ้านอีกหลายหลัง อาทิ บ้านพิษณุโลก บ้านนรสิงห์  โดยบ้านหลังนี้ใช้เป็นที่รับรองแขกบ้าน-แขกเมือง พร้อม ๆ กับเปลี่ยนชื่อจากบ้านนที สู่ บ้านพิบูลธรรม 

โดยบ้านหลังนี้ได้รับรองแขกบ้านแขกเมืองที่มีความสำคัญหลายท่าน อาทิ พระยากัลยาณไมตรี (Dr. Francis Bowes Sayre), ริชาร์ด นิกสัน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา และเจ้าสุวรรณภูมา แห่งราชอาณาจักรลาว 

ต่อมาบ้านพิบูลธรรม ได้ทำหน้าที่เป็นสถานที่ทำงานของกรมพลังงานแห่งชาติ หรือกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานในปัจจุบัน มาตั้งเเต่วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2502

บ้านพิบูลธรรม มีอาคารเก่าแต่แรกสร้างซึ่งมีความงดงามทั้งด้านสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมอยู่ 2 หลัง และศาลาไม้อีกหลังหนึ่ง คือ อาคารสํานักงานเลขานุการกรมซึ่งอยู่หลังหน้า และ อาคาร กองควบคุมและส่งเสริมพลังงานตั้งเยื้องไปด้านหลัง ส่วนศาลาไม้อยู่ด้านขวาของอาคารสํานักเลขานุการกรมและด้านหน้าของอาคารกองควบคุมและส่งเสริมพลังงาน อาคารทั้งสองหลังสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมยุโรป ที่นิยมในยุคนั้น ลักษณะเหมือนปราสาท เป็นอาคาร 2 ชั้น รูปทรงตามปีกอาคารสองข้าง และมีส่วนโค้งส่วนหักมุมและเฉลียง ต่างกันแต่ได้สัดส่วนกลมกลืน ประดับลายปูนปั้นตามผนังตอนบน หัวเสา ขอบหน้าต่าง และลูกกรงระเบียง ประตูหน้าต่างไม้สลักลาย มีรูปประติมากรรมหน้าวัวหรือพระโคนนที ติดอยู่ที่เหนือประตู เฉลียงที่มุมขวาของตึกหน้า และที่ผนังข้างประตูหน้าและเหนือประตู เฉลียงข้างของตึกหลังมีสะพานคอนกรีต เชื่อมชั้น ๒ ของอาคารทั้ง 2 หลัง

อาคารทั้งสองหลังตกแต่งภายใน อย่างวิจิตรด้วยลายไม้แกะสลักตามเพดานและผนังห้อง ประตู และหน้าต่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาคารในซึ่งตอนหน้าส่วนกลางก่อเป็นห้องชั้นที่ 3 อีกห้องหนึ่งนั้น ด้านหลังเป็นอาคารชั้นเดียว จัดเป็นห้องโถงเอกของบ้าน โดยโถงหน้า เป็นทางเชื่อมจากส่วนหน้าของอาคารสู่โถงในซึ่งมีปีกเป็นรูปโค้งมน รูปทรงของห้องโถงนี้ จึงเหมือนตัว T แต่มุมหักมน นับเป็นความงามเยี่ยมทางสถาปัตยกรรม ภายในห้องโถงนี้ กึ่งกลางเพดานประดับภาพจิตรกรรมแบบตะวันตกเรื่องรามเกียรติ์ โถงนอกรูปรามสูร เมขลา โถงในรูปทศกัณฐ์ลักนางสีดากําลังต่อสู้กับนกสดายุ เพดานรอบๆ ภาพเขียนประดับ ด้วยหูช้างไม้สลักเรียงรายตลอด ถัดลงมาเป็นภาพจิตรกรรมเถาไม้ดอกสีสดสวย ผนังจาก ระดับขอบประตูบนลงมาประดับไม้สลักลาย ตามขอบสลักลายเถาผลไม้ เสาไม้กลมตั้งบน ฐานสี่เหลี่ยมสลักลาย พื้นปูหินอ่อน ห้องโถงนี้ปัจจุบันใช้เป็นห้องเลี้ยงรับรอง ห้องด้าน หน้าทางปีกซ้ายของอาคารหลังนี้ ซึ่งปัจจุบันใช้เป็นห้องทํางาน มีภาพจิตรกรรมแบบเดียว กันประดับที่ฝาผนังด้านขวา จับภาพตอนพระรามตามกวาง ส่วนเพดานห้องเขียนรูปหมู่กามเทพเด็กแบบฝรั่ง แต่มีลักษณะเป็นคนไทย 

และจากการตัดสินใจใช้ ‘บ้านพิบูลธรรม’ เป็นศูนย์บัญชาการหลักของกระทรวงพลังงานในยุคที่มี ‘พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค’ ดำรงตำแหน่งเจ้ากระทรวง ทำให้ต้องมีการจัดหาอุปกรณ์และเครื่องใช้สำนักงานมาใช้ I อาคารดังกล่าว โดยมีหลายชิ้นต้องค้นหาจากห้องเก็บของของกระทรวงพลังงาน

และจำนวนไม่น้อยมาจากของสะสมส่วนตัวของ ‘พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค’ ที่ชื่นชอบเฟอร์นิเจอร์ช่วงจอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นพิเศษ ด้วยลักษณะเด่นที่การผสมผสานระหว่างศิลปะตะวันตกและศิลปะไทยอย่างลงตัว จึงมีหลายชิ้นใน ‘บ้านพิบูลธรรม’ ที่มีเจ้าของชื่อว่า ‘พีระพันธุ์’ ตามคำบอกเล่าของเจ้าตัวในรายการกฤษณะทัวร์ติดล้อ

และทั้งหมดนี้คือที่มาของ ‘บ้านพิบูลธรรม’ ศูนย์บัญชาการ ‘รื้อ ลด ปลด สร้าง’ พลังงานไทย เพื่อสร้างความเป็นธรรมและเสถียรภาพของพลังงานไทย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top