‘บิ๊กตู่’ ลุยปราศรัยใหญ่ที่ภูเก็ต ชาวบ้านส่งเสียงเชียร์กระหึ่ม ตอกย้ำความนิยม ‘รทสช.’ โค้งสุดท้าย ชี้!! กระแสดีไม่มีตก
ชาวภูเก็ตแห่ฟัง ‘ลุงตู่’ ปราศรัยกว่า 4 หมื่นคน ส่งเสียงเชียร์กระหึ่ม ตอกย้ำกระแสความนิยมโค้งสุดท้าย ขณะที่เจ้าตัวชี้ มีคนไล่ให้ไปเลี้ยงหลานเพราะแก่แล้ว แต่ยืนยันยังไม่แก่และไม่มีหลาน ก็เลยต้องอยู่ทำงานเพื่อบ้านเมืองต่อ ย้ำ!! มีหัวใจสีม่วงของคนใกล้ตายที่จะไม่โกหก แตกต่างกับบางคนที่ใกล้ตายแต่กลับโกหก กลับไปกลับมาไม่น่าเชื่อถือ อ้อน คนภูเก็ตเลือก ‘รทสช.’ จะได้นโยบายสนับสนุนคนทุกช่วงวัยอย่างแน่นอน
(7 พ.ค. 66) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ ประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เดินทางพร้อมด้วยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค, นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค, ดร.ธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรค, นายอนุชา บูรพชัยศรี รองหัวหน้าพรรค และแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมตัวแทนผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ จังหวัดภูเก็ต ประกอบด้วย
เขต 1 นายปิยะ สีดอกบวบ เบอร์ 8
เขต 2 นางนวลจันทร์ สามารถ เบอร์ 3
เขต 3 ว่าที่ร้อยตรีชาญณรงค์ ประทีป ณ ถลาง เบอร์ 7
ร่วมเดินทางไปสักการะอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร บริเวณวงเวียนสี่แยกท่าเรือ ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมพบปะประชาชนที่เดินทางมารอต้อนรับก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังลานเวทีกลางสะพานหิน จ.ภูเก็ต เพื่อขึ้นปราศรัยท่ามกลางผู้สนับสนุน และประชาชนชาวภูเก็ตที่มารอฟังการปราศรัยและส่งเสียงเชียร์นับหมื่นคน พร้อมมอบดอกไม้ให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะ รวมถึงตัวแทนผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคทั้ง 3 คน
พล.อ.ประยุทธ์ ได้ขึ้นเวทีปราศรัย โดยกล่าวทักทายประชาชนระบุว่า ตนเดินทางมาภูเก็ตหลายครั้งแล้ว หวังว่าทุกคนคงจำหน้าตนได้ ก่อนที่จะแนะนำตัวผู้สมัครของพรรครวมไทยสร้างชาติ ทั้ง 3 คนได้แก่ เขต 1 นายปิยะ สีดอกบวบ เบอร์ 8, เขต 2 นางนวลจันทร์ สามารถ เบอร์ 3, เขต 3 ว่าที่ร้อยตรีชาญณรงค์ ประทีป ณ ถลาง เบอร์ 7 รวมทั้งเบอร์ 22 เบอร์พรรคลุงตู่
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่าในช่วงสถานการณ์โควิด 19 จ.ภูเก็ต เคยเงียบเหงา แต่ตนตัดสินใจที่จะเปิด จ.ภูเก็ต เป็นที่แรกเพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยว สามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจให้ทุกคนลืมหน้าอ้าปากได้ และหลังจากนี้จะยังมีการจัดงานเอ็กซ์โปด้วย จึงอยากให้ทุกคนให้โอกาสเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติให้มาทำงานต่อ เพราะที่ผ่านมาเป็นผลงานที่เชื่อว่าทุกคนจำได้ดีและพรรคเองก็ยังมีนโยบายที่จะทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคงในทุกเรื่องด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญนอกจากธรรมชาติที่สวยงามของภูเก็ตแล้ว ยังเป็นรอยยิ้มของคนภูเก็ต ตนเป็นทหารมาก่อน รังเกียจตนหรือไม่ และทหารที่ดูแลบ้านเมืองก็เป็นลูกหลานของทุกคนทั้งสิ้น อย่าให้ใครมาบอกว่าข้าราชการคือช้างป่วย ถ้าทหารและข้าราชการเป็นช้างป่วย ประเทศจะมั่นคงอย่างนี้หรือไม่ ดังนั้น จึงควรยุติเรื่องความแตกแยกภายในประเทศ เพราะเป็นสิ่งที่อันตรายมาก พร้อมยกบทกลอน
“อันศึกนอกศึกในนั้นไม่ห่วง แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง”
ขออย่าให้ใครมาทำให้เกิดความแตกแยก โดยเฉพาะการแตกแยกในครอบครัว พ่อทะเลาะกับลูก แม่ทะเลาะกับลูก อย่างนี้ทำไม่ได้ ดังนั้น อย่าให้ใครมาปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยกนี้
