Wednesday, 23 April 2025
บัตรประชารัฐ700

'สันติ' จัดเต็ม!! ชูชุดนโยบายพลังประชารัฐแบบเต็มสูบ มั่น!! บัตรประชารัฐ 700 ผสาน 'อีสานประชารัฐ' พาเฮ!!

'สันติ' โชว์กึ๋น!! ยกนโยบายพลังประชารัฐ มุ่งมั่นแก้ปัญหาความยากจน ชู!! บัตรประชารัฐ 700 บาท พร้อมเผย 'อีสานประชารัฐ' เมกะโปรเจกต์หยุดแลนด์สไลด์ ช่วยประชาชนต้องอยู่ดี กินดี อย่างยั่งยืน

เรียกว่าเป็นอีกดีเบตเอาใจกองเชียร์ 2 ลุง (ป้อม-ตู่) แห่งพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กับ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่มาแลกหมัดกันเอง ผ่านรายการ 'คมชัดลึก Debate แลกหมัดนโยบาย' เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2566

แน่นอนว่าทั้ง 2 พรรคนี้ ล้วนมีบุคลากรที่เคยอยู่ร่วมรัฐบาลเดียวกัน หากแต่ปัจจุบัน ต่างฝ่ายต่างก็เดินตามเส้นทางการเมืองของตนผ่านพรรคที่แตกต่าง เพียงแต่สิ่งที่น่าสนใจในวันนี้ คือ ในบางนโยบายอาจจะมีความเหมือนหรือคล้ายคลึงกัน จะแย่งฐานเสียงกันเองมากแค่ไหน? หรือไม่?

อย่างไรก็ตามจากดีเบตในครั้งนี้ ทาง THE STATES TIMES ได้ตามเกาะติดชุดนโยบายที่กำลังสร้างกระแสอย่างมากในช่วงนี้จาก 'พรรคพลังประชารัฐ' ที่ครั้งนี้ได้ นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ มาแสดงวิสัยทัศน์ ไว้ได้อย่างน่าสนใจ...

นายสันติ เปิดฉากในรายการว่า “หลายๆ ท่าน (2 พรรค) เคยอยู่ร่วมกัน แม้ตอนนี้ต้องแยกกันไปในทิศทางการเมืองของตน แต่สำหรับรวมไทยสร้างชาติ และท่านหัวหน้าพรรค พลเอกประยุทธ์ ก็เป็นที่เคารพรักของพี่น้องในพรรคพลังประชารัฐอย่างมาก แต่ว่าในเรื่องของการเมืองเป็นเรื่องของพี่น้องประชาชน ฉะนั้นในเมื่ออยู่คนละพรรคเราก็ขอมาช่วยกันรังสรรค์ นำเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนเพื่อก้าวข้ามปัญหาต่างๆ

"อะไรที่สามารถสนับสนุนเพื่อช่วยเหลือ สร้างงาน สร้างอาชีพแก่พี่น้องประชาชนในบางส่วนที่เป็นกลุ่มเปราะบาง เราก็มีหน้าที่ที่จะต้องดูแล จุนเจือให้เขาสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้ในอนาคต เพื่อให้พวกเขาได้ก้าวข้ามความยากจนให้ได้ ภายใต้นโยบายของแต่ละพรรค ที่มุ่งมั่นคิดถึงแต่ความอยู่ดีกินดีของประชาชน” 

เมื่อถูกถามว่า นโยบายของพรรค พปชร.ด้านใดที่กำลังมัดใจประชาชนได้ดีที่สุด? นายสันติ กล่าวถึงเรื่องบัตรสวัสดิการของพลังประชารัฐ ซึ่งมีรายละเอียดแตกต่างกันกับทางรวมไทยสร้างชาติ ว่า...

“จะพรรคไหนก็ตามแต่ หากมองเห็นว่าบัตรประชารัฐหรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน เราก็ควรช่วยกันส่งเสริม ผมเองในฐานะที่อยู่กระทรวงการคลัง และเป็นประธานคณะกรรมการบัตรประชารัฐบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมาก่อน มองเห็นมิติในเนื้อนโยบาย ระเบียบ และกฎเกณฑ์แบบรอบด้าน ซึ่งบัดนี้ได้ถูกพัฒนาและมีการปรับกฎเกณฑ์โดยพรรคพลังประชารัฐให้มีความทันสมัยขึ้น ดียิ่งขึ้น

"อย่างเช่น ค่าโดยสารในระบบขนส่งมวลชนของรัฐและเอกชนร่วม ซึ่งกำหนดไว้ให้ 750 บาทต่อเดือนมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมานั้น ก็จะปรับขึ้นเป็น 1,500 บาท เพื่อให้พี่น้องประชาชนทั้งชาวต่างจังหวัดและชาวกรุงเทพฯ ได้ใช้บริการรถโดยสารหลากรูปแบบด้วยความเสมอภาค ทั้งรถตู้ รถไฟฟ้าบนดิน ใต้ดินหลากสี

"เช่นเดียวกันกับค่าครองชีพผู้ถือบัตรสวัสดิการ ที่เดิมจะอยู่ที่ 200-300 บาท ซึ่งไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพในยุคนี้แล้วนั้น ก็จะขยับเพิ่มเป็น 700 บาท โดยงบประมาณที่จะนำมาใช้เพื่อเพิ่มวงเงินในบัตรประชารัฐภายใต้พรรคพลังประชารัฐนั้น จะเป็นการนำมาจากงบประมาณในช่วง 3 เดือนสุดท้าย ของงบประมาณปี 2566 หลังจากได้รับเลือกตั้ง โดยจะมีผู้ได้รับสิทธิ์ ประมาณ 18 ล้านคน จากเดิมที่ปัจจุบันได้รับกันอยู่ราว 14.5 ล้านคน คาดว่าจะต้องใช้งบประมาณเดือนละ 1.2 หมื่นล้านบาท"

อย่างไรก็ตาม นายสันติ มองว่า พลังประชารัฐก็ไม่ได้มองว่าบัตรประชารัฐที่ถูกยกระดับเพื่อเติมให้แก่ประชาชนในกรอบ 22 ล้านคนบ้าง หรือ 14.5 ล้านคนบ้างนั้น จะถูกใช้เป็นกลไกเดียวในการช่วยเหลือปัญหาปากท้องประชาชน หากแต่ทางพรรคยังได้เตรียมแนวทางอื่นไว้อีกด้วย โดยเฉพาะแนวทางในการเร่งมอบเงินเพิ่มให้ในบัตรอีก 30,000 บาท แก่ผู้ที่ถือบัตรประชารัฐ ให้สามารถเอาไปเป็นเงินเพื่อสร้างงานสร้างอาชีพได้

"นอกเหนือจากการเพิ่มเงินให้ผู้ถือบัตรเป็น 700 บาทต่อเดือนเพื่อนำมาใช้จ่ายพยุงฐานะในครอบครัวให้สามารถมีความเป็นอยู่พอไปได้แล้วนั้น ทางพรรคพลังประชารัฐก็เตรียมทุนให้กับผู้ถือบัตรประชารัฐอีกคนละ 30,000 บาท ได้นำไปต่อยอด สร้างงาน สร้างอาชีพโดยนำทุนไปประกอบสัมมาอาชีพต่างๆ ได้ แต่เราไม่ได้ให้เปล่านะ เพราะเขาจะต้องมาฝึกอาชีพก่อน ไม่ว่าจะเป็นอาชีพขายก๋วยเตี๋ยว ขายอาหาร เปิดร้านของชำ เป็นเกษตรกร ปลูกพืชไร่ ปลูกผักปลูกผลไม้ อะไรต่างๆ เหล่านี้ พอเข้ามาฝึกแล้ว เราก็จะเติมทุนให้ เพื่อที่จะไปมีอาชีพ แล้วจะพ้นจากความยากจนต่อไป"

ไม่เพียงแค่นโยบายการเติมค่าครองชีพและต่อยอดอาชีพโดยพรรคพลังประชารัฐเท่านั้น นายสันติ ยังกล่าวถึงอีกแนวนโยบายสำคัญ ซึ่งถือเป็นไฮไลต์ที่จะช่วยพลิกความเป็นอยู่ของคนอีสานแบบขนานใหญ่ ผ่านโครงการเมกะโปรเจกต์แห่งภาคอีสานในชื่อ 'อีสานประชารัฐ' ผ่านเวทีแห่งนี้อีกด้วย

"สำหรับแรงผลักดันสำคัญของ 'อีสานประชารัฐ' นั้น ก่อนอื่นผมคงต้องเรียนแบบนี้ว่า โครงการดังกล่าวถูกคิดขึ้นมาจากท่านพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคของเรา หลังจากที่ท่านได้ลงไปทำงานดูแลเรื่องน้ำของทั่วประเทศ ไม่ว่าจะน้ำแล้ง หรือแม้แต่น้ำท่วมในภารเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ ซึ่งท่านก็ไปแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำตลอดเวลา 4 ปีที่ผ่านมา รวมถึงการดูแลเรื่องที่ทำกินเรื่องที่ดิน ด้วยการนำที่ดินเสื่อมโทรมที่อยู่ในป่าสงวน มาทำเป็นเอกสารสิทธิให้พี่น้องประชาชนนำไปใช้เพาะปลูกเพื่อทำมาหากินหลายล้านไร่ โดยไม่ถูกส่วนราชการจับไปดำเนินคดี เหล่านี้เป็นแรงผลักดันที่ทำให้ท่านพลเอกประวัตร อยากเห็นโครงการที่จะช่วยพัฒนาโครงสร้างประเทศที่จะนำมาสู่ความยั่งยืนแก่ประชาชนและประเทศ

"อีสานประชารัฐ จึงเป็นโครงการที่ท่านต้องการพัฒนาให้พื้นที่ภาคอีสาน กลายเป็นพื้นที่สร้างอาชีพ สร้างงาน ให้คนถิ่น ได้ทำงานที่บ้านเกิด ซึ่งตนยังไม่เคยเห็นว่าพรรคไหนคิดในเรื่องของการพัฒนาภาคอีสานเพื่อให้พี่น้องประชาชนชาวภาคอีสานได้มีการสร้างงานสร้างอาชีพ ให้อยู่ดีกินดี เพิ่มทักษะความรู้ความสามารถแบบนี้ ยังไม่มีใครมีนโยบายเหล่านี้จริงๆ แต่พรรคพลังประชารัฐมีนโยบายเหล่านี้ นโยบายที่จะทำให้พี่น้องชาวอีสาน ได้สามารถประกอบสัมมาอาชีพได้อย่างเต็มที่ ทำจริง ทำทันที เพื่อคนอีสาน"


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top