Friday, 5 July 2024
บัตรทอง

‘อนุทิน’ ดูแล ‘ผู้ติดเชื้อเอชไอวี-ผู้ป่วยเอดส์’ ผ่านบัตรทอง เร่งดันผู้ป่วย เข้าสู่กระบวนการรักษาอย่างทั่วถึง

‘อนุทิน’ ย้ำรัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุข เร่งดูแลผู้ป่วยเอดส์ผ่านระบบหลักประกันสุขภาพต่อเนื่องและครอบคลุม สปสช.เตรียมบรรจุชุดตรวจคัดกรองเอชไอวีในสิทธิบัตรทอง หนุนการตรวจทั่วถึงเข้าสู่การรักษาเร็ว ตอกย้ำเสียงชื่นชมไทยผู้นำการรับมือโรคเอดส์ระดับโลก

(16 มี.ค.66) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ได้เน้นย้ำถึงนโยบายการดูแลผู้ติดเชื้อเอชไอวี และผู้ป่วยเอดส์ที่ทั่วถึง ซึ่งรัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุขได้เร่งขับเคลื่อนการดูแลผ่านระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการรักษาอย่างเท่าเทียม ไม่ถูกเลือกปฏิบัติ โดยให้ความสำคัญตั้งแต่การให้ความรู้เพื่อป้องกัน การคัดกรองที่ทั่วถึง เพื่อให้ผู้ติดเชื้อรู้ตัวและเข้าสู่กระบวนการรักษาที่รวดเร็ว

โดยล่าสุดกระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) อยู่ระหว่างเตรียมบรรจุบริการชุดตรวจคัดกรองการติดเชื้อเอชไอวีด้วยตนเอง ให้อยู่ในระบบบัตรทองด้วย ซึ่งการกำหนดเรื่องนี้ได้ผ่านการอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ (คช.ปอ.) แล้ว สปสช. อยู่ระหว่างการจัดทำหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ขณะที่กรมควบคุมโรคเตรียมกำหนดวันเริ่มให้บริการ หน่วยบริการที่ประชาชนสามารถรับชุดตรวจและจะประกาศให้ประชาชนทราบต่อไป

ครม.มอบ ‘หมอชลน่าน’ ตั้ง กก.ยกระดับบัตรทอง-ระบบสาธารณสุข ไฟเขียว ให้ผู้ป่วยเลือก รพ.ได้เอง ย้ำ ยึดผู้ใช้บริการเป็นศูนย์กลาง

13 ก.ย. 66 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรก ว่า ภารกิจทางด้านสาธารณสุขนั้น ได้มอบหมายให้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไปแต่งตั้งคณะทำงานยกระดับมาตรฐานการบริการโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) เช่น ในการไปรับบริการที่โรงพยาบาล จากเดิมที่ต้องรอคอยนานเป็นวันเพื่อพบแพทย์เพียง 2 นาที จากนี้จะเป็นระบบการนัดหมายเข้ารับบริการ เพื่อจะได้ไม่ต้องรอคอยที่โรงพยาบาลทั้งวัน หรือในบางกรณีที่เป็นเพียงการนัดหมาย เพื่อติดตามอาการ หรือรับยาเท่านั้น อาจไม่จำเป็นต้องเดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลแล้ว แต่สามารถให้ญาติ ประสานผ่านระบบอินเทอร์เน็ตเพื่อขอรับยาที่ร้านขายยาใกล้บ้านได้

นายชัย กล่าวว่า นอกจากนี้ในเรื่องของการส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลที่มีศักยภาพสูงกว่า ซึ่งจากเดิมจะต้องมีการขอใบส่งตัวจากโรงพยาบาลต้นทาง ที่มีความยุ่งยาก และใช้เวลานาน ต่อจากนี้ไม่ต้องไปขอใบส่งตัวแล้ว เพราะข้อมูลผู้ป่วยมีอยู่ในฐานระบบที่เชื่อมโยงกันอยู่

นายชัย กล่าวว่า ที่สำคัญจากนี้ไม่ต้องมีโรงพยาบาลประจำแล้ว จากนี้หากผู้ป่วยอยู่ใกล้โรงพยาบาลไหน หรือชอบใจ มั่นใจโรงพยาบาลไหน ก็สามารถไปได้เลย เหมือนประกันเอกชนคอยดูแลสามารถเลือกไปโรงพยาบาลไหนก็ได้ นี่คือเวอร์ชันใหม่ เป็นเวอร์ชันที่เอาผู้ใช้บริการเป็นศูนย์กลาง ให้ประชาชนมีความสะดวก ไม่ใช่ให้ผู้ให้บริการมีความสะดวก นี่เป็นเรื่องใหม่มากๆ เป็นการยกระดับอย่างเห็นได้ชัด


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top