‘บิ๊กป้อม’ ยัน พร้อมเป็นนายกฯ คนที่ 30
เมื่อวานนี้ (17 ม.ค. 66) ที่งานเปิดตัวนโยบายแรก ‘เพิ่มเงินบัตรสวัสดิการ 700 บาทต่อเดือน’
ของพรรคพลังประชารัฐ ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม พล.อ.ประวิตรว่า พร้อมที่จะเป็นนายกฯ คนที่ 30 หรือไม่

เมื่อวานนี้ (17 ม.ค. 66) ที่งานเปิดตัวนโยบายแรก ‘เพิ่มเงินบัตรสวัสดิการ 700 บาทต่อเดือน’
ของพรรคพลังประชารัฐ ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม พล.อ.ประวิตรว่า พร้อมที่จะเป็นนายกฯ คนที่ 30 หรือไม่
วันก่อนนั่งอ่านคำพยากรณ์ของโหรฯ โสรัจจะ นวลอยู่ เจ้าของฉายา ‘นอสตราดามุสเมืองไทย’ แกบอกว่าปี 2567 เป็นปีมังกรไฟ นอกจากจะเกิดภัยพิบัติมากมายมหาศาลแล้ว ยังจะเกิดความขัดแย้งของคนในชาติ และหน่วยงานของรัฐชนิดแตกหัก แกยกตัวอย่างชัด ๆ ว่าจะเกิดสงครามระหว่างกระทรวงการคลังกับธนาคารแห่งประเทศไทย หรือแบงก์ชาติ
และที่สุดบ้านเมืองอาจเกิดรัฐประหาร ทหารต้องย่ามสามขุมมารัฐประหารอีกครั้ง แถว ๆ เดือนมิ.ย.
เฮ่อ…ฟังแล้วสยอง…ยิ่งสยองกว่าเดิมเมื่อเห็นปรากฏการณ์วันที่ 19 ม.ค. ท่านเลขานุกา รมว.คลัง ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมาให้ความเห็นแบบดับเครื่องชนแบงก์ชาติ 6 ข้อ
‘เล็ก เลียบด่วน’ ขออนุญาตฉายหนังตัวอย่าง 2 ข้อ
1.ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ติดลบ 14 เดือนติด สัญญาณอันตรายภาคการผลิตของประเทศ และยอดขายรถเชิงพาณิชย์ ตัววัดสำคัญของการลงทุน ติดลบ 4 ไตรมาสติด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนโยบายการเงินที่ผ่านมา เพิ่มต้นทุนการเงินเอกชน เป็นลบต่อการลงทุนในวงกว้างหรือไม่
ข้อ 2.....3.....4.....5..... ขอไม่เอ่ยถึง
มาต่อกันที่ข้อที่ 6.นโยบายการคลัง (รัฐบาล) และนโยบายการเงิน (ธปท.) ควรสอดประสานกันหรือไม่ ปัจจุบันรัฐบาลเห็นความจำเป็นในการกดคันเร่งนโยบายการคลัง (ซึ่ง Digital Wallet เป็นหนึ่งในนั้น) แต่นโยบายการเงินยังคงอยู่ในช่วงการกดเบรกหรือไม่ และการขับรถคันเดียวกัน ขาหนึ่งกดคันเร่ง ขาหนึ่งกดเบรก พร้อมกัน รถจะพังหรือไม่ ประเทศจะมีปัญหาหรือไม่...
พูดกันชัด ๆ ตรงนี้ หลังจากที่ร่างเอกสารข้อเสนอแนะเรื่อง Digital Wallet 177 หน้า ของ ป.ป.ช. ที่มีท่านสุภา ปิยะจิตติ เป็นประธานคณะทำงานหลุดรอดออกมา เมื่อวันที่ 16 ม.ค. อ่านกันกี่ตลบก็ต้องบอกว่าโครงการแจก 1 หมื่นบาทผ่าน Digital Wallet มีความเสี่ยงทางกฎหมายสูงยิ่ง และเอาเข้าจริงภาวะเศรษฐกิจก็ไม่ถึงขั้นวิกฤต...
นี่แหละเป็นเหตุให้ ท่านจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง, หมอมิ้งค์ พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ และดร.เผ่าภูมิ ดาหน้ากันออกมาชน ป.ป.ช. และเลยไปถึง ‘แบงก์ชาติ’
ถึงขั้นนี้ก็ต้องฟันธงว่าอย่างไรเสียพรรคเพื่อไทยไม่ถอยแน่ แม้จะไม่ทัน เดือนพ.ค. ส่วนจะปรับรูปแบบเป็นอย่างไรนั้นต้องตามไปดูกันอีกครั้ง...
ขอกลับไปที่คำพยากรณ์เรื่องรัฐประหารของโหรฯ โสรัจจะอีกครั้ง ก็ต้องขอบอกว่าอีกโหรฯ หนึ่งที่คาดว่าอาจมีรัฐประหารในปี 2567 ก็คือ อาจารย์ภิญโญ พงศ์เจริญ ที่ระบุว่าอาจจะเกิดแถว ๆ เดือน ก.ย.
ส่วนโหรฯ อีกคู่หนึ่ง ทำนายเหมือนกันว่าจะมีการเปลี่ยนนายกฯ ในปีนี้ และนายกฯ คนใหม่ที่ว่านี้ ‘ไม่ใช่ผู้หญิง’ ซึ่งแปลว่าไม่ใช่ ‘อุ๊งอิ๊ง’ แพทองธาร ชินวัตร นั่นเอง
โหรฯ สองท่านที่ว่าคือ ซินแสภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล และวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ โหรฯ คมช. โดยโหรฯ วารินทร์เรียกนายกฯ ผู้ชายคนที่กำลังจะมาว่า ‘ผู้ที่มีหน้าที่ที่แท้จริง’ ซึ่งหากใครที่รู้ปูมหลังของโหรฯ วารินทร์ และอ่านที่ท่านให้สัมภาษณ์เต็ม ๆ ทำให้ใบหน้าผู้ชายที่ละม้ายคล้าย ‘ลุงตู่’ ประยุทธ์, อนุทิน และพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ลอยมาเข้าตา…แบบเต็ม ๆ ตา
ส่วนจะเป็นใครโหรฯ วารินทร์ไม่บอก บอกเพียงว่าเป็นผู้ที่มั่นคงในชาติ ศาสน์ กษัตริย์
เมื่อไม่นานมานี้ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (ดร.เอ้) รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้โพสต์วิดีโอในช่องติ๊กต็อก @aesuchatvee พร้อมระบุแคปชันว่า “นายกรัฐมนตรีแสดงวิสัยทัศน์ ‘IGNITE Thailand’ มุ่ง 8 เป้าหมายพัฒนาประเทศ ในงาน ไม่มีเรื่อง ‘เป้าหมายการศึกษา’ และ ‘การพัฒนาทักษะคนไทย’ แม้แต่ข้อเดียว น่าเสียใจ”
โดยภายในวิดีโอได้พูดและแนะนำถึงสิ่งที่นายกรัฐมนตรีควรให้ความสำคัญ ไม่น้อยกว่าการไปเยือนต่างประเทศ โดยกล่าวว่า… “สําหรับการเดินทางไปต่างประเทศของนายกฯ คนใหม่เป็นสิ่งจําเป็น เพราะต้องแนะนําตัวและนโยบายของประเทศตอนนี้ว่าเป็นอย่างไร ผมว่าเรื่องพวกนี้มีความจําเป็น แต่ท่านต้องไม่ฉาบฉวย มีภาพท่านที่ออกมาในลักษณะที่มีคนร้องเรียนทีนึง เมื่อไปดู แล้วก็หาย ไปอีกตรงหนึ่ง ท่านก็หาย กลายเหมือนกับว่า ไม่ได้โฟกัสอะไร…”
ดร.เอ้ กล่าวต่อว่า “จริง ๆ แล้วท่านต้องโฟกัส และต้องจัดอันดับเรื่องของปัญหา ยกตัวอย่างเช่น วันนี้ประเทศไทยไม่พ้นความยากจน ประเทศไทยมีปัญหาหลายเรื่องที่มาจากเรื่องของการศึกษา แต่ท่านไม่พูดเลย”
ดร.เอ้ ได้ยกตัวอย่างประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์ที่กำลังจะมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ คือ ‘ลอว์เลนซ์ หว่อง’ ที่ได้พูดเรื่องการศึกษามาเป็นเรื่องแรก ๆ
ดร.เอ้ ระบุต่อว่า “แต่นายกฯ เศรษฐาไม่พูดเลย ท่านไปดูตรงไหน ท่านก็พูดแต่เรื่องฉาบฉวย แต่ความสามารถในการแข่งขัน การสร้างคนซึ่งเป็นเรื่องที่จําเป็นที่สุด ท่านไม่เคยพูด”
สุดท้ายดร.เอ้ ได้พูดถึงประเด็นที่นายกฯ เดินทางไปต่างประเทศบ่อยครั้งว่า “เรื่องท่านไปต่างประเทศ ผมไม่ว่า แต่งานที่สําคัญที่สุดคือ ‘เรื่องของรากลึกของสังคมไทย’ เรื่องการศึกษา ท่านไม่พูดเลย อีกทั้งเรื่องการแก้ปัญหา ท่านต้องไม่โยนให้กับกระทรวงอื่น แต่ท่านต้องแสดงบทบาทผู้นําว่าท่านหยิบจับอะไรมันก็สําเร็จ ไม่ใช่จับแล้วปล่อย ๆ แบบนี้ ผมว่าท่านจะต้องปรับปรุง”
เมื่อวานนี้ (5 ก.ค. 67) ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พบหารือกับ นายหวัง ชวนฟู (Mr. Wang Chuanfu) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีวายดี จำกัด (BYD) โดยภายหลังการหารือ นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีขอบคุณที่บริษัทฯ เห็นศักยภาพ เลือกลงทุนในประเทศไทยซึ่งจะเป็นการเพิ่มการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้ และได้กล่าวถึง 3 ประเด็นหลักในการหารือครั้งนี้
1. ขอให้บริษัทคำนึงถึงผู้ผลิต ผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพ ใช้ Supply Chain ในประเทศไทยมากที่สุด
2. ขอให้บริษัทผลิตเต็มจำนวน Capacity ตามที่ได้ตกลงกันไว้
3.การบริหารความคาดหวังของผู้บริโภคในด้านราคาเป็นประเด็นสำคัญ ขอให้พิจารณาการคุ้มครองผู้บริโภคไทย อย่างเหมาะสม
นายหวัง ชวนฟู กล่าวว่า ขอบคุณคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ของนายกรัฐมนตรีอย่างยิ่ง โดยบริษัท BYD ให้ความสำคัญกับตลาดไทย ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพ โดยทางบริษัทฯ ได้ใช้ Supply Chain จากประเทศไทยมากกว่าข้อบังคับ และมีการผลิตชิ้นส่วนหลายตัวในประเทศไทย และนำการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีใหม่มาผลิตในประเทศไทยด้วย ทั้งนี้ ความสามารถในการผลิตของโรงงาน BYD ในประเทศไทยคือ 1.5 แสนคันต่อปี
โดยจะใช้เวลา 2 ปี เพื่อผลิตอย่างเต็มความสามารถ ทั้งนี้ นอกจากขายในประเทศไทย บริษัทฯ มีนโยบายที่จะส่งออกขายในภูมิภาคอาเซียน อินโดนีเซีย และเวียดนามด้วย
ในส่วนของการกำหนดราคารถยนต์นั้น บริษัทฯ รับปากนายกรัฐมนตรีว่าจะพิจารณาตามที่นายกรัฐมนตรีแนะนำ คือปรับราคาในอนาคตให้มีรูปแบบและความถี่ที่เหมาะสม ให้ตลาดปรับตัวได้ทัน รวมทั้ง สัญญาที่จะหามาตรการในการเยียวยาลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ
โดยในโอกาสนี้ บริษัทฯ ยืนยันกับนายกรัฐมนตรีว่าประเทศไทยมีศักยภาพ และเป็นตลาดที่พร้อมเติบโต จึงพร้อมขยายการลงทุน รับพนักงานเพิ่ม และพร้อมอบรมพนักงานด้วยเทคโนโลยีทันสมัย โดยขอเชิญนายกรัฐมนตรีเดินทางไปที่บริษัทฯ ในช่วงเวลาที่นายกรัฐมนตรีเห็นเหมาะสม