Tuesday, 22 April 2025
นักท่องเที่ยวต่างชาติ

ห้างใหญ่เซี่ยงไฮ้ ‘กระตุ้นชอปปิง-ท่องเที่ยว’ ชาวต่างชาติ แค่แสดงหนังสือเดินทาง รับคูปองส่วนลด 5,500 บาท

(23 ก.ค.67) ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของจีน ได้แจกบัตรของขวัญให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติไว้ใช้จับจ่ายซื้อของเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว

โดย สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีนรายงานว่า ห้างสรรพสินค้าใหญ่บนถนน อีสต์ นานจิง แหล่งท่องเที่ยวสำคัญในนครเซี่ยงไฮ้ แจกบัตรของขวัญให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ เพียงแค่แสดงหนังสือเดินทาง ก็จะได้รับคูปองที่ไม่มีเงื่อนไขมูลค่า 8 หยวน หรือประมาณ 40 บาท และคูปองส่วนลดอีก 2 ใบ มูลค่า 1,100 หยงน หรือประมาณ 5,500 บาท ไว้ใช้จับจ่ายซื้อของเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว ขณะที่บรรดานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ต่างพอใจกับมาตรการแจกคูปองดังกล่าว เพราะจะช่วยให้พวกเขาตัดสินใจซื้อสินค้าและกิจกรรมต่าง ๆ ขณะท่องเที่ยวในเซี่ยงไฮ้ได้ง่ายขึ้น

ซึ่งมาตรการแจกบัตรของขวัญให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติดังกล่าว เป็นหนึ่งในกิจกรรมหลากหลายเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติของนครเซี่ยงไฮ้ หลังจากจีนประกาศใช้นโยบายวีซ่าฟรี แก่นักท่องเที่ยวจาก 15 ประเทศทั่วโลก คาดว่าการให้ส่วนลดในการช้อปปิ้ง จะทำให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายและบริโภคมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมจูงใจอื่น ๆ เช่น การทำให้ผู้ถือบัตรเครดิตธนาคารต่างประเทศสามารถชำระเงินได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

ขณะที่ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนนครเซี่ยงไฮ้แล้วมากกว่า 2 ล้านคน คิดเป็น 2.8 เท่าจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนในช่วงครึ่งปีแรก มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาจีนกว่า 14 ล้านคนเพิ่มจากเมื่อปีที่แล้วกว่า 150% ในจำนวนนี้ มากกว่า 8 ล้านคนเข้าประเทศด้วยนโยบายวีซ่าฟรี

'ททท.' คาด โค้งสุดท้ายปี 67 นทท.แห่เข้าไทย 12.22 ล้านคน หนุนยอดทั้งปีนี้เฉียด 36 ล้านคน สร้างรายได้ประเทศ 1.8 ลลบ.

(2 ก.ย. 67) ช่วงเวลาที่ผ่านมา นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดท่องเที่ยวต่างประเทศ 4 เดือนสุดท้ายของปี 2567 (ก.ย.-ธ.ค.) เดินทางเข้าประเทศไทย มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว คาดว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 12,226,500 คน หรือขยายตัวเพิ่มขึ้น 20% สร้างรายได้ 652,826 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% เทียบช่วงเดียวกันของปี 2566 ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายที่กำหนด 4 เดือนสุดท้ายของปี 2567 คิดเป็นสัดส่วน 97% ของเป้าหมายที่ตั้งไว้ทั้งปีที่รายได้ 673,738 ล้านบาท

สำหรับ คาดการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยในช่วง 4 เดือนสุดท้าย ยังคงเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวตลาดหลักจากเอเชียตะวันออก รองลงมาคือกลุ่มภูมิภาคยุโรป และเอเชียใต้ ส่วนที่เหลือจากตลาดในภูมิภาคอื่นๆ เช่น โดย 10 อันดับแรกของประเทศที่เดินทางเที่ยวไทยมากที่สุด ได้แก่ จีน 2.03 ล้านคน มาเลเซีย 1.83 ล้านคน อินเดีย 7.07 แสนคน เกาหลีใต้ 7.4 แสนคน รัสเซีย 6.98 แสน ลาว 4.34 แสนคน สิงคโปร์ 4.28 แสนคน ไต้หวัน 3.77 แสนคน ญี่ปุ่น 3.46 แสนคน และสหรัฐ 3.41 แสนคน

“แนวโน้มปี 2567 คาดมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยจำนวน 35.99 ล้านคน เพิ่มขึ้น 28% ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่ ททท. กำหนดไว้ไม่น้อยกว่า 35 ล้านคน ส่วนรายได้ทางการท่องเที่ยวคาดประมาณ 1.818 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบปีก่อนหน้า”

สำหรับปัจจัยบวกต่อภาคการท่องเที่ยวไทย มีทั้งนโยบายผลักดันการเดินทางผ่านมาตรการ Ease of Traveling ของประเทศไทย อาทิ การผ่อนคลายวีซ่าประเภทท่องเที่ยว การขยายเวลาพำนักในไทยนานขึ้น การยกเว้นยื่นใบ ตม.6 บริเวณด่านชายแดนทางบกทั่วประเทศ เพื่อจูงใจและอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่กำลังวางแผนจะเดินทางให้สามารถตัดสินใจเดินทางมาเที่ยวไทยง่ายขึ้น
รวมถึงปัจจัยจำนวนที่นั่งโดยสาร (Seat Capacity) เส้นทางระหว่างประเทศ มีจำนวนรวม 46 ล้านที่นั่ง คิดเป็นการฟื้นตัว 82% ของจำนวนที่นั่งโดยสารระหว่างประเทศเมื่อปี 2562 ก่อนโควิด-19 ระบาด และเติบโตขึ้น 24% เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีจำนวนที่นั่งโดยสารประมาณ 37 ล้านที่นั่ง

สอดคล้องกับแนวโน้มความต้องการการเดินทางท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น รวมถึงเทศกาลและกิจกรรมสำคัญ อาทิ วันชาติจีน (1 ต.ค.) เทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ และการเดินทางท่องเที่ยวตามรอยอินฟลูเอนเซอร์ ศิลปินชื่อดังของชาวไทยและต่างชาติ ผ่านการนำเสนอคอนเทนต์ สถานที่ถ่ายทำซีรีส์ คอนเสิร์ต หรือแฟนมีตติงศิลปินไทยและต่างชาติ

ส่วนปัจจัยท้าทายที่คาดว่าจะกระทบต่อการท่องเที่ยวของไทย อาทิ การส่งเสริมตลาดเชิงรุกของคู่แข่งในตลาดเอเชียแปซิฟิก เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน และเวียดนาม ที่จัดโปรโมชันดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มเดียวกับไทย รวมถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและความเสี่ยงเศรษฐกิจขนาดใหญ่ชะลอตัว ความขัดแย้งระหว่างประเทศ ได้แก่ สงครามอิสราเอลกับปาเลสไตน์ อิหร่านกับอิสราเอล รัสเซียกับยูเครน หากยืดเยื้ออาจส่งผลกระทบต่อราคาบัตรโดยสารเครื่องบินแพงขึ้น

นอกจากนี้ ภัยคุกคามจากภัยพิบัติธรรมชาติและภัยก่อการร้าย มีแนวโน้มเพิ่มความถี่เกิดบ่อยครั้งหรือรุนแรง โดยเฉพาะอุณหภูมิโลกมีแนวโน้มสูงขึ้นจากผลของวิกฤติคลื่นความร้อน (เอลนีโญ) แผ่นดินไหว น้ำท่วมใหญ่ จนอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สิน แผนการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวออกต่างประเทศ หรือมาตรการความปลอดภัยในการเดินทาง

นางสาวฐาปนีย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับภาพรวมสถานการณ์ท่องเที่ยวตลาดในประเทศ 4 เดือนสุดท้ายของปี 2567 (ก.ย.-ธ.ค.) มีการเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือน 72.47 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 6% หรือคิดเป็น 92% ซึ่งเข้าใกล้เป้าหมายจำนวน 4 เดือนสุดท้ายของปี 2567 ที่ตั้งไว้ และมีรายได้รวม 335,240 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา หรือคิดเป็นสัดส่วน 83% ของเป้าหมายรายได้ 4 เดือนสุดท้ายของ ปี 2567 ที่ตั้งไว้

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มทั้งจำนวนและรายได้ตลาดในประเทศปี 2567 จะยังคงเป็นไปตามคาดการณ์ไว้ โดยมีปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ มาตรการการกระตุ้นท่องเที่ยวจัดผ่านอีเวนต์ การท่องเที่ยวโดยซอฟต์พาวเวอร์ อาทิ อาหาร ภาพยนตร์และซีรีส์ แฟชั่น มวยไทย และเฟสติวัล โดยนโยบายส่งเสริมท่องเที่ยวในประเทศภายใต้แคมเปญ “สุขทันที...ที่เที่ยวไทย” และโครงการ “365 วันมหัศจรรย์เมืองไทย ...เที่ยวได้ทุกวัน” 

'นิวซีแลนด์' ขึ้นค่าธรรมเนียม 3 เท่า สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ หนุนบริการสาธารณะ-ประสบการณ์ท่องเที่ยวดีๆ จากนิวซีแลนด์

(4 ก.ย.67) รัฐบาลนิวซีแลนด์ออกแถลงการณ์ว่า จะมีการขึ้นค่าธรรมเนียมสำหรับนักเดินทางต่างชาติ การอนุรักษ์และการท่องเที่ยว จากเดิม ราคา 742 บาท เพิ่มเป็น 2,232 บาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นเกือบ 3 เท่า เริ่มมีผลตั้งแต่ 1 ต.ค. นี้เป็นต้นไป เพื่อให้มั่นใจว่านักท่องเที่ยวได้มีส่วนสนับสนุนบริการสาธารณะ และประสบการณ์ดี ๆ ที่ได้รับ จากการท่องเที่ยวในประเทศ

ที่ผ่านมา นิวซีแลนด์เองก็เผชิญกับปัญหานักท่องเที่ยวล้น จนกระทบกับสภาพแวดล้อม ธรรมชาติ และโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ไม่ต่างจากที่อีกหลายประเทศเผชิญอยู่

สำหรับค่าธรรมเนียมเข้าประเทศ 742 บาท ถูกบังคับใช้มาตั้งแต่ ก.ค.ปี 2019 แต่จำนวนดังกล่าวยังไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น จากการรับมือกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่มากเกินไป

รัฐบาลระบุว่า ค่าธรรมเนียมยังอยู่ในระดับที่แข่งขันได้ และมั่นใจว่านิวซีแลนด์จะยังเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม สมาคมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของนิวซีแลนด์ เชื่อว่าค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นจะทำให้นักท่องเที่ยวยิ่งไม่อยากเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศ ท่ามกลางการฟื้นตัวที่ช้ากว่าประเทศอื่น ๆ หลังมีการใช้มาตรการปิดพรมแดนอย่างเข้มงวด ช่วงโควิด-19 ระบาด

อย่างไรก็ตาม จำนวนนักท่องเที่ยวในปัจจุบัน ยังอยู่ที่ 80% เมื่อเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวช่วงก่อนใช้มาตรการปิดพรมแดน

คนขับสิบล้อ จอดรับ!! ชาวต่างชาติ ติดรถไป ‘ชุมพร’ ด้วยกัน ดูแลอย่างดี!! มีน้ำบริการ ให้นอนหลับพักผ่อน อย่างสบาย

(17 พ.ย. 67) อีกหนึ่งเรื่องราวที่ถูกแชร์ต่อกันในโลกโซเชียล หลังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นโชเฟอร์ขับรถบรรทุก ได้จอดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติระหว่างทาง

ชายชาวต่างชาติคนดังกล่าวได้โบกรถ พร้อมถือป้ายจากลังกระดาษที่เขียนข้อความว่าชุมพร ซึ่งโชเฟอร์รถบรรทุกก็เรียกขึ้นมาแต่โดยดี

ระหว่างทางโชเฟอร์ยังยื่นน้ำสมุนไพรชนิดหนึ่งให้นักท่องเที่ยวดื่ม ซึ่งเมื่อพอกินไปนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวดูคล้ายถูกใจในรสชาติอีกด้วย

หลังคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ ได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมายในเรื่องความมีน้ำใจของโชเฟอร์ แม้อุปสรรคทางภาษาจะติดขัดไปบ้าง แต่สุดท้ายเรายังทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดี ดูแลนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ให้ทั้งติดรถ มีน้ำสมุนไพรบริการ แถมให้นอนหลับพักบนรถได้เต็มอิ่ม

ต่างชาติเที่ยวไทยปี 67 ทะลุ 35 ล้านคน ททท.คาดสร้างรายได้กว่า 1.6 ล้านล้านบาท

เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2568 นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า จากสถิติตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 30 ธันวาคม 2567 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทย 35,441,648 ล้านคน เพิ่มขึ้น 26% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 สร้างรายได้ 1,668,539 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้จำนวนทั้งปี 2567 อยู่ที่ 35 ล้านคน ตอกย้ำการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวแข็งแกร่ง โดยมีอานิสงส์จากมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (Visa Exemption) และยกเว้นบัตร ตม.6 สำหรับด่านชายแดนทางบก การเปิดเส้นทางบินใหม่ของสายการบิน เพิ่มความถี่เที่ยวบิน และความจุที่นั่งสายการบินทั้งจากตลาดระยะใกล้และไกลรับนักท่องเที่ยวช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ทำให้ในปี 2568 ตั้งเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ อยู่ที่ 40 ล้านคน สร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.98–2.23 ล้านล้านบาท มากที่สุดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ จากปี 2562 ที่มีต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทยประมาณ 39.5 ล้านคน

“การท่องเที่ยวไทยปี 2568 จะก้าวเข้าสู่ปีแห่งอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ แกรนด์ ทัวริซึม แอนด์ สปอร์ต เยียร์ 2568 มุ่งเน้นในการขยายตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพทั้งตลาดระยะใกล้และไกล ผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นฮับท่องเที่ยวในภูมิภาค ต่อเนื่องจากปี 2567 ที่มีปัจจัยหนุนจากการจัดงานเทศกาลและอีเวนต์ต่างๆ ในประเทศไทย อาทิ เทศกาลเย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ โครงการ Amazing Thailand Passport Privileges การจัดคอนเสิร์ต แฟนมีตติ้งของศิลปินไทยและต่างชาติ และการท่องเที่ยวตามรอยซีรีส์ สถานที่ถ่ายทำเอ็มวีและภาพยนตร์ไทย รวมถึงงานเคานต์ดาวน์ส่งท้ายปี ที่ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทย และขยายฐานตลาดนักท่องเที่ยวที่มีความสนใจเฉพาะ นักท่องเที่ยวคุณภาพทั้งในตลาดระยะใกล้และไกล” นางสาวฐาปนีย์ กล่าว

นางสาวฐาปนีย์ กล่าวว่า ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ทำนิวไฮ หรือจุดสูงสุดใหม่ เมื่อเทียบกับปี 2562 อาทิ อินเดีย 2,100,645 คน มาเลเซีย 4,898,496 คน ไต้หวัน 1,077,050 คน รัสเซีย 1,705,198 คน ซาอุดีอาระเบีย 226,094 คน อิตาลี 259,443 คน สเปน 205,914 คน โปแลนด์ 175,674 คน และตุรกี 102,680 คน

นอกจากนี้ ในภาพรวมของนักท่องเที่ยวตลาดระยะไกลยังมีแนวโน้มที่จะสร้างนิวไฮ โดยเฉพาะจากตลาดตะวันออกกลางที่มีกำลังซื้อสูง ความสำเร็จในการบรรลุเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2567 ที่ผ่านมา เกิดจากมาตรการอำนวยความสะดวกในการเข้าประเทศไทยของรัฐบาล

นักท่องเที่ยวต่างชาติ สุดปลื้มได้ร่วมรับเสด็จฯ ในหลวง – พระราชินี ทรงเปิดซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ ย่านเยาวราช

(27 ม.ค. 68) ผู้ใช้บัญชี Tiktok ชือว่า mai_natan.ch ได้โพสต์คลิป นักท่องเที่ยวต่างชาติสาวรายหนึ่ง ซึ่งได้นั่งรวมกลุ่มกับชาวไทย เพื่อรอรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ “วชิรสถิต 72 พรรษา” บริเวณสะพานดำรงสถิต ณ ถนนเจริญกรุง เขตพระนคร และทรงเปิดซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ “วชิรธำรง 72 พรรษา” บริเวณห้าแยกหมอมี เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ภายใต้โครงการ “เบญจกตัญญุตา บารมีแห่งมังกรสยาม” ณ ถนนเจริญกรุง เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2568 

โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติคนดังกล่าว บอกว่า ตนเองชื่อโคลอี้ เดินทางจากลอนดอน มาเที่ยวประเทศไทย จากนั้นได้ไปเที่ยวชมวัดแห่งหนึ่ง และได้เจอกับผู้คนมากมายมานั่งรอ จึงคิดว่าเราน่าจะอยู่ดูว่ามันเกี่ยวกับอะไร และเพลิดเพลินกับค่ำคืน ตรุษจีนปีงู ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความตื่นเต้นที่ได้อยู่ ณ ที่แห่งนี้ เพื่อใช้เวลากับคนไทยมากมาย ที่ตั้งตารอร่วมเฉลิมฉลอง พร้อมกับมีส่วนร่วมในการรับเสด็จราชวงศ์

นทท. ต่างชาติ ฝ่าแนวเขตพื้นที่ฟื้นฟูปะการัง แถมโวยวายหยาบคายใส่เจ้าหน้าที่ไทยที่เข้ามาเตือน

(27 ก.พ. 68) กลายเป็นประเด็นร้อนในโซเชียล เมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติมาดำน้ำที่ทะเลกระบี่บริเวณเขตพื้นที่ปิดเพื่อฟื้นฟูปะการัง ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งราว 750 เมตร โดยที่ไม่มีเรือไกด์ดูแล

และเมื่อทางเจ้าหน้าที่เข้าไปสอบถามและตักเตือน นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับตีมึน พร้อมมีท่าทางและคำพูดที่ไม่น่ารักแสดงต่อเจ้าหน้าที่ไทย แถมยังโวยวายว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะมาเที่ยวเมืองไทย!

โดยทางเฟซบุ๊กเพจ “ทราย - merman ψ” นักว่ายน้ำและนักอนุรักษ์ทะเลภาคใต้ ได้โพสต์คลิปวิดีโอและให้ข้อมูลว่า

ดูถูกประเทศเรา!! Is this appropriate behavior when visiting Thailand? Ignoring park rangers- disrespecting our people? Absolutely not… someone come collect your disgruntled Italian grandpa because Thailand is NOT your playground. 

ขอบคุณทีมเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครที่ช่วยควบคุม นทท ต่างชาติสองคนนี้... แต่ทำไมเจ้าหน้าที่เราต้องมารับมือกับ นทท คุณภาพต่ำแบบนี้? ไทยกลายเป็นที่ ๆ นทท คิดว่าจ่ายเงินแล้วทำอะไรก็ได้หรอครับ?ทำตามใจไม่ได้จะไม่มาอีกแล้ว!!? #ฟรีวีซ่า

เหตุการณ์: เราได้ตักเตือน นทท. สองคนนี้เรื่องการว่ายน้ำในเขตที่ปิดเพื่อรักษาปะการังเพราะ zone นั้นปะการังตายไปจำนวนมหาศาลจากการฟอกขาวปีที่แล้ว + นทท.ผิดอีกกรณี ที่ว่ายน้ำในพื้นที่แบบเสี่ยงเพราะไม่มีเรือบริษัททัวร์หรือไกด์อยู่ใกล้ๆคอยจับตาดูแล (เขาห่างออกจากหาด 750 เมตร)...

นทท. สองคนนี้ไม่ยอมฟังคำตักเตือนจนทำต่อและฝ่าฝืนคำสั่งรวมถึงใช้ภาษาและแสดงกิริยามารยาทที่แสดงให้เห็นถึงมุมมองที่ดูถูกประเทศไทย นิสัยแปรปรวนที่จาก นทท บุคคลนี้เป็นอันตรายต่อทั้งตัวเขาและเจ้าหน้าที่บนเรือ - เราจึงจำเป็นต้องควบคุมและพากลับฝั่งและไม่อนุญาตให้ว่ายต่อ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top