Tuesday, 22 April 2025
นักท่องเที่ยวจีน

ส่อง 5 อันดับต่างชาติเที่ยวไทย ‘มากที่สุด’ ตั้งแต่ 1-7 ม.ค. 67

เมื่อวานนี้ (10 ม.ค. 67) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ติดตามสถานการณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยตามที่สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้อัปเดตสถานการณ์ท่องเที่ยวล่าสุด ตั้งแต่วันที่ 1-7 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยทั้งสิ้น 605,537 คน โดยนายกรัฐมนตรียินดีที่เปิดศักราชใหม่มาได้เพียง 7 วัน ประเทศไทยมีสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติสนใจมาท่องเที่ยวกว่า 6 แสนคน และนักท่องเที่ยวจีนเข้ามามากที่สุดเป็นอันดับ 1 ถือเป็นข่าวดีของการท่องเที่ยวไทย พร้อมย้ำเดินหน้ากระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยตลอดปีด้วยมาตรการวีซ่าฟรีแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ มั่นใจจะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวไทยในปี 2567  

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงรายงานของสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยทั้งสิ้น 605,537 คน นั้น จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 

อันดับ 1 จีน 81,854 คน 
อันดับ 2 มาเลเซีย 64,053 คน 
อันดับ 3 รัสเซีย 51,467 คน 
อันดับ 4 เกาหลีใต้ 43,894 คน 
อันดับ 5 อินเดีย 30,203 คน 

ด้านภาพรวมสัปดาห์ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาลดลง 184,106 คน หรือลดลง 23.32 % จากสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งเป็นการลดลงของนักท่องเที่ยวเกือบทุกตลาด เนื่องจากเสร็จสิ้นการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ในสัปดาห์ก่อนหน้า รวมถึงนักท่องเที่ยวตลาดหลักที่ลดลงด้วยเช่นกัน สำหรับสัปดาห์ถัดไป คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติปรับตัวเพิ่มขึ้น จากการยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทาง หรือวีซ่าฟรี ให้แก่นักท่องเที่ยวจีน และคาซัคสถาน การขยายเวลาพำนักแก่นักท่องเที่ยวรัสเซีย และการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวตลาดระยะไกลในกลุ่มที่เดินทางหลังเทศกาลปีใหม่

“รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะผลักดันและขับเคลื่อนให้เกิดการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเครื่องยนต์หลักและเป็นความหวังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยนายกรัฐมนตรีได้ตั้งเป้าหมายสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวปี 2567 ให้ได้ 3.5 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการท่องเที่ยวภายในประเทศ 1.2 ล้านล้านบาท จากเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทย 205 ล้านคน-ครั้ง และรายได้จากการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.3 ล้านล้านบาท จากเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 35 ล้านคน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ขอให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และประชาชนชาวไทย ร่วมกันผลักดันให้เป้าหมายดังกล่าวบรรลุผลสำเร็จ 

โดยในส่วนเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้น รัฐบาลจะเดินหน้ากระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ด้วยมาตรการวีซ่าฟรีแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง จากปี 2566 ที่รัฐบาลออกมาตรการวีซ่าฟรีให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจาก 60 ประเทศ/ดินแดน และในปี 2567 คาดว่าจำนวนประเทศ/ดินแดนที่ได้รับวีซ่าฟรีจะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการอำนวยความสะดวกการเดินทางมาท่องเที่ยวยังประเทศไทย และดึงดูดใจนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้เลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว โดยเชื่อมั่นว่ามาตรการวีซ่าฟรีจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทยตลอดปี 2567” นายชัย กล่าวทิ้งท้าย

‘นทท.ต่างชาติ’ เข้าไทย 15-21 ม.ค. ทะลุ 7 แสนคน อานิสงส์ ‘ฟรีวีซ่า’ ไม่แผ่ว ‘นทท.จีน’ ทะลัก 1.2 แสนคน

(23 ม.ค. 67) นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า จากกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่า สัปดาห์ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะใกล้มีการฟื้นตัว โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามามากที่สุด โดยมีปัจจัยจากความต้องการท่องเที่ยวต่างประเทศ และจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นของจีน การยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทาง หรือวีซ่าฟรี ให้แก่นักท่องเที่ยวจีน 

ส่งผลให้สัปดาห์ที่ผ่านมา ในภาพรวมไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 715,579 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 20,753 คน หรือ 2.99% คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 102,226 คน 

โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ จีน 120,381 คน เพิ่มขึ้น 15.12% มาเลเซีย 73,085 คน บวก 14.37% เกาหลีใต้ 55,218 คน บวก 2.21% ส่วนรัสเซีย 48,114 คน ลดลง 10.12% และอินเดีย 40,300 คน ลดลง 5.11%

น.ส.สุดาวรรณกล่าวว่า สัปดาห์ถัดไป คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติปรับตัวเพิ่มขึ้น จากความต้องการท่องเที่ยวต่างประเทศของชาวจีน และจำนวนเที่ยวบินขาออกของจีนที่เพิ่มขึ้น วีซ่าฟรีให้แก่นักท่องเที่ยวจีน และคาซัคสถาน การขยายเวลาพำนักแก่นักท่องเที่ยวรัสเซีย และการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวตลาดระยะไกล ทั้งภูมิภาคยุโรป และอเมริกา

น.ส.สุดาวรรณกล่าวว่า จากข้อมูล ณ วันที่ 22 มกราคม 2567 พบว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1-21 มกราคม 2567 ที่ผ่านมาทั้งสิ้น 2,015,942 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว ประมาณ 97,911 ล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 306,805 คน มาเลเซีย 218,453 คน เกาหลีใต้ 153,135 คน รัสเซีย 150,286 คน และอินเดีย 105,740 คน

'สาวจีน' เซ็ง!! เล่นร่มร่อนที่ภูเก็ต 'ขาหัก-กระดูกโผล่' แต่คู่กรณีหาว่าสำออย ร้องเตือนชาวจีน "ผู้ประกอบการไม่เห็นความสำคัญของชีวิตพวกเรา"

(28 ก.พ. 67) บนโซเชียลฯ แชร์โพสต์จาก เพจ ‘ลุยจีน’ เป็นเรื่องราวของนักท่องเที่ยวชาวจีนรายหนึ่งนามว่า น่าต๋าหาน 娜达韩 เล่าให้ฟังผ่านแพลตฟอร์ม Douyin ว่าประสบอุบัติเหตุเล่นพาราไกลดิ้ง หรือร่มร่อนชายหาด แล้วเกิดอุบัติเหตุที่หาดกะรน อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่กลับพบว่าผู้ประกอบการร่มร่อนชายหาดรับผิดชอบเพียงแค่ 5 หมื่นบาท

ซึ่งน่าต๋าหาน เล่าว่า ระหว่างมาเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เห็นร่มร่อนตรงหาดกะรน จึงไปทดลองเล่น ปรากฏว่าเกิดอุบัติเหตุตอนร่อนลง ร่มควบคุมไม่อยู่ ทำให้ขาลงกระแทกพื้นอย่างรุนแรง แข้งซ้ายหักครึ่งกระดูกโผล่ออกมา คนขายร่มร่อนปฐมพยาบาลขั้นต้น ก่อนเรียกรถพยาบาล แต่เนื่องจากการจราจรติดขัด ใช้เวลา 2 ชั่วโมง โรงพยาบาลแรกพบว่าเครื่องมือไม่พร้อม ผ่านไป 5-6 ชั่วโมงจึงส่งต่อไปยังโรงพยาบาลมิชชั่นภูเก็ต ผ่าแข้งที่หักแล้วใส่ดามเหล็กเข้าไป แผลเย็บยาว 15 เซนติเมตร ตั้งข้อสังเกตว่า มาตรการความปลอดภัยต่ำมาก จ่ายเงินเสร็จลากไปใส่เสื้อชูชีพแล้วมีคนให้บริการมาประกบหน้าหลังทันทีโดยไม่อธิบายใดๆ พูดแค่ "Hurry Hurry, Safe Safe" แล้วลากไปเล่นเลย

หลังเกิดอุบัติเหตุ ผ่าตัดใส่เหล็กดามเรียบร้อย คู่กรณีแสดงท่าทีฉุนเฉียว กล่าวหาว่าสำออยอยากได้เงิน พยายามทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ไม่เชื่อผล CT scan และคำบอกเล่าอาการจากแพทย์และพยาบาล กล่าวหาว่ากุเรื่องเพื่อจะเอาเงินอย่างเดียว ทั้งนี้ ค่ารักษาพยาบาลจากการผ่าตัด 150,000 บาท น่าต๋าหานเรียกร้องค่าเสียหายจากคู่กรณีเพียง 200,000 บาท เพราะไม่อยากให้ยืดเยื้อ อยากให้เรื่องจบเร็ว แต่คู่กรณีกลับตอบกลับมาว่ามีให้แค่ 50,000 บาทเท่านั้น และมีท่าทีแข็งกร้าวอย่างชัดเจนว่าไม่ยอมจ่ายเพิ่มใดๆ บอกห้ามแจ้งความ สุดท้าย น่าต๋าหานให้ทางโรงพยาบาลเปิดแผลให้คู่กรณีดูชัดๆ ถึงมีท่าทีอ่อนลง

พร้อมกันนี้ น่าต๋าหานเตือนชาวจีนว่าอย่าเล่นกีฬาผาดโผนในไทย เพราะมีความเสี่ยงต่อชีวิต สังเกตว่าไม่มีคนไทยในพื้นที่เล่น มีแต่ชาวต่างชาติรวมทั้งชาวจีนที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลัก เห็นว่าผู้ประกอบการไม่เห็นความสำคัญของชีวิตพวกเรา เห็นคนต่างชาติแบบตนเป็นแค่แหล่งเงินเท่านั้น และจากที่สอบถามฝั่งที่ขายบริการร่มร่อน พบว่าทุกปีมีอุบัติเหตุแบบที่ประสบหลายเคส แต่ไม่เคยเป็นข่าว ยิ่งทำให้บริการแบบนี้น่ากลัวมากๆ เพราะหลังจากที่แข้งหักเข้าโรงพยาบาล คู่กรณีก็ยังคงขายบริการนี้ให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวจีนและชาวต่างชาติเหมือนเดิม เหมือนไม่เคยมีความผิดพลาดเกิดขึ้น

‘นทท.จีน’ ลงทุน!! เหมาเครื่องบินมา ‘ไทย’ จองเล่นน้ำสงกรานต์ที่พัทยา กว่า 3,000 คน

(12 เม.ย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ว่า เมื่อวันที่ 11 เม.ย.67 ที่ผ่านมามีกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติชาวจีนเหมาลำเครื่องบินมาเล่นน้ำสงกรานต์เมืองพัทยาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยมีการจองตั๋วมาเที่ยวประเทศไทยจำนวนมาก เพื่อมาเล่นน้ำสงกรานต์ โดยมีการจองเล่นน้ำที่พัทยา วอเตอร์ สเปช (PATTAYA WATER SPACE) หรือ ‘สวนน้ำมหาสงกรานต์’ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่กว่า 3,000 คน 

โดยพัทยา วอเตอร์ สเปช สร้างขึ้นในเนื้อที่กว่า 114 ไร่ เพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยว ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติได้เล่นสาดน้ำสงกรานต์ตลอดทั้งปีแห่งแรกและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อีกทั้งยังมีแสดงโชว์ศิลปวัฒธรรมประเพณีไทย ผสมผสาน กับแนวดนตรีสมัยใหม่ ประกอบกับแสงสีเสียง สุดยิ่งใหญ่อลังการตระการตา โดยใช้นักแสดงกว่า 300 ชีวิต ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความสนุกสนาน

จากการสอบถามนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่มาเที่ยวเล่าว่า หลังจากที่ประเทศไทยมีการเปิดฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาเที่ยวประเทศไทย โดยไม่ต้องขอวีซ่า ซึ่งช่วงสงกรานต์ปีนี้มีชาวจีนจำนวนมากจองตั๋วเครื่องบินมาเที่ยวประเทศไทย และต้องการมาเที่ยวเมืองพัทยา เพื่อมาเล่นน้ำสงกรานต์และชมการแสดงโชว์ โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ พัทยา วอเตอร์ สเปช ซึ่งมีการแสดงโชว์และมีสถานที่ให้มีการเล่นน้ำสงกรานต์อย่างกว้างขวาง

สำหรับ พัทยา วอเตอร์ สเปช หรือ ‘สวนน้ำมหาสงกรานต์’ เปิดให้บริการตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยผู้สร้างต้องการสืบสานความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ของประเพณีสงกรานต์ของประเทศไทย หลัง ยูเนสโก ได้ขึ้นทะเบียนให้ประเพณีสงกรานต์ เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของโลก ที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติและการถ่ายทอดศิลปวัฒนธรรมเพณีของไทย รวมถึงการแสดงของตัวสำคัญ ๆ ในวรรณคดีโบราณ ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการมาได้ประมาณ 1 เดือน ปรากฎว่ามีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน ให้ความสนใจ แห่มาเล่นสาดน้ำและชมการแสดงจำนวนมาก สร้างความสุขประทับใจที่ได้มีโอกาสมาสัมผัส การเล่นสาดน้ำสงกรานต์ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของไทยไปทั่วโลก

นอกจากนี้ ตลอดเดือนเมษายน ซึ่งเป็นเดือนของมหาสงกรานต์ ทาง พัทยา วอเตอร์ สเปช ได้เปิดให้คนไทยเข้าฟรี ตลอดทั้งเดือน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ โดยจะเปิดให้บริกานตั้งแต่เวลา 17.00 น.ถึงเวลา 22.00 น. ของทุกวัน  นอกจากนี้ ยังมีการเปิดโซน บูธขายอาหารเจ้าดังจากทุกภาคของประเทศไทย กว่า 150 ร้านค้า มาคอยให้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย

‘ลาว’ เตรียมออก ‘ฟรีวีซ่า’ เอาใจนักท่องเที่ยวจีน หวังปลุกกระแสการท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีหลัง

(27 มิ.ย.67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดารานี พมมะวงสา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสารสนเทศ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว เผยว่านโยบายดังกล่าวจะมุ่งเป้าไปที่กลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมากับบริษัทนำเที่ยว และรัฐบาลลาวยังวางแผนให้บริการวีซ่าสำหรับเข้าออกหลายครั้ง รวมถึงขยายระยะเวลาการพำนักสำหรับนักเดินทางต่างชาติเพิ่มขึ้นจาก 30 วันเป็น 60 วัน 

ดารานี กล่าวว่า “รัฐบาลกำลังยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทางถนนในพื้นที่การเดินทาง และปรับปรุงถนนหนทางในการเดินทางเข้าสู่สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมต่าง ๆ เพื่อส่งมอบประสบการณ์การเดินทางของนักท่องเที่ยวให้ดียิ่งขึ้น”

กระทรวงฯ เดินหน้าทำงานร่วมกับหน่วยงานระดับแขวงและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้านการท่องเที่ยวตามแนวทางรถไฟจีน-ลาว เพื่อปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยวให้เป็นไปตามมาตรฐานการท่องเที่ยว และติดตั้งป้ายบอกทางสถานที่ที่มีชื่อเสียงตามเส้นทางการเดินทาง

นอกจากนั้น กระทรวงฯ ยังทำงานร่วมกับนักลงทุนภาคเอกชนในการสำรวจและพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวและสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว

‘นทท.จีน’ หลงเสน่ห์ ‘ป้าย ธ.Maybank’ บน Gaya Street มาเลเซีย ดันเป็นจุดท่องเที่ยวยอดฮิตที่ต้อง ‘แชะภาพ-เช็กอิน’ อวดลงโซเชียล

กลายเป็น Maybank เมย์ใจ ชาวจีนไปเสียแล้ว เมื่อเกิดกระแสฮิตในหมู่นักท่องเที่ยวจีน ที่แห่กันมาถ่ายรูปป้ายธนาคาร Maybank ที่ตั้งอยู่กลางสี่แยกถนน Gaya Street ในโกตากีนาบาลู เมืองหลวงของรัฐซาบะห์ ในมาเลเซีย จนกลายเป็นจุด Check in สุดฮิปยอดนิยมในโลกโซเชียลจีนอยู่ในขณะนี้

ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่า จุดเริ่มต้นของกระแสถ่ายป้ายธนาคาร Maybank ของนักท่องเที่ยวจีนเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่การแวะถ่ายป้ายธนาคาร Maybank เริ่มนิยมในหมู่เซเลปคนดังใน Xiaohongshu แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของจีน และมีการส่งต่อกันจนกลายเป็นไวรัลไปทั่วจีน จึงเริ่มมีนักท่องเที่ยวจีนตามรอยมาถ่ายรูปป้ายธนาคาร Maybank ในสาขานี้กันเป็นจำนวนมาก และมีจำนวนไม่น้อยที่เจาะจงเดินทางมาถึงเมืองโกตากีนาบาลู เพื่อถ่ายรูปป้ายธนาคารแห่งนี้โดยเฉพาะ

ปรากฏการณ์กระแสป้ายธนาคาร Maybank สร้างความประหลาดใจให้กับหลายคน ว่าเหตุใด ป้ายชื่อธนาคารสีเหลืองเรียบ ๆ ที่มีโลโก้หัวเสือโคร่ง และชื่อธนาคารอักษรสีดำ ที่เห็นทั่วไปในมาเลเซีย จึงกลายเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมายังถนนแห่งนี้ จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแนะนำอีกแห่งสำหรับการถ่ายรูปลง Instagram ของโกตากีนาบาลู

และกระแสความนิยมนี้ ส่งผลให้ธนาคารอื่น ๆ ในบริเวณใกล้เคียงกัน ต้องปรับลุคป้ายธนาคารใหม่เพื่อให้นักท่องเที่ยวแวะมาถ่ายรูปเช่นเดียวกัน 

กระแสความธรรมดา ที่ไม่ธรรมดานี้ ถือเป็นโอกาสที่จะกระตุ้นการท่องเที่ยวในรัฐซาบะห์ ที่มีแหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ และ ร้านอาหารดี ๆ มากมายไม่แพ้รัฐอื่น ๆ ในมาเลเซีย เพียงแต่นักท่องเที่ยวต่างชาติอาจจะยังไม่รู้จัก 

ซึ่ง โทนี่ เฟอร์นานเดซ CEO ของสายการบิน AirAsia กล่าวว่า ถึงเราจะไม่เข้าใจว่า ทำไมป้ายธนาคาร Maybank ของที่นี่ถึงได้ฮิตนัก แต่ถ้าสามารถใช้เป็นจุดขายในการโปรโมตการท่องเที่ยว ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับธุรกิจสายการบินเช่นกัน และเขาหวังว่าจะสามารถรักษากระแสความนิยมนี้ให้ไปต่อได้เรื่อย ๆ 

แต่ในความเห็นของ ดร.แฮมซา ชาฮาบ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประจำภาควิชาการตลาดดิจิทัล ของมหาวิทยาลัยนอตทิงแฮม มาเลเซีย ให้ความเห็นว่า กระแสของป้ายธนาคาร Maybank อาจไม่ใช่ความบังเอิญ แต่สะท้อนให้เห็นถึงรูปแบบ และพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวสมัยใหม่ที่เริ่มเปลี่ยนไป

จากเดิมที่เคยนิยมมาเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำยอดนิยมตามคู่มือท่องเที่ยว แต่ตอนนี้นักท่องเที่ยวเริ่มมองหาแหล่งท่องเที่ยวที่สะท้อนวิถีความเป็นท้องถิ่นที่จริงใจ ที่บ่งบอกถึงความเป็นอยู่ของผู้คนในท้องที่นั้นจริง ๆ ที่หาไม่ได้ในคู่มือท่องเที่ยว อีกทั้งกระแสที่ส่งผ่านทางโซเชียล ยิ่งกระตุ้นให้เกิดกระแสตามรอย เพื่อไม่ให้ตกเทรนด์

และจากกระแสนี้ ยังส่งผลย้อนกลับให้ชาวมาเลเซียหันมาลองสำรวจเมืองท้องถิ่นของตัวเอง หรือแม้แต่มาตามรอยที่ Gaya Street เพื่อหาคำตอบว่านักท่องเที่ยวจีนหลงใหลสิ่งใดในถนนสายนี้ ที่เป็นเสน่ห์ของมาเลเซีย ที่ชาวมาเลยเซียแท้ ๆ มองข้ามไป 

แต่สิ่งหนึ่งที่พิสูจน์ได้ จากกระแสป้ายธนาคาร Maybank คือ คุณค่าที่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลงทุนข้ามน้ำ ข้ามทะเล เพื่อมาตามหา อาจเรียบง่ายกว่าที่เราคิด โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนปรุงแต่งอย่างอลังการ จนความเป็นท้องถิ่นของเราหายไปก็เป็นได้ 

ผอ.สวนสัตว์เปิดเขาเขียว แจ้งความดำเนินคดีแล้ว หลังปรากฏภาพนักท่องเที่ยวจีนยิงหนังสติ๊กในสวนสัตว์

(21 ต.ค. 67) ผอ.สวนสัตว์เปิดเขาเขียว มอบหมายให้หัวหน้างานรักษาความปลอดภัยสวนสัตว์เปิดเขาเขียวไปแจ้งความดำเนินคดีที่มีนักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่มหนึ่งใช้หนังสติ๊กยิงภายในสวนสัตว์แล้ว

จากกรณีมีผู้ใช้บัญชี TikTok รายหนึ่งได้โพสต์คลิปวิดีโอขณะไปเที่ยวสวนสัตว์เปิดเขาเขียว แต่พบนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มหนึ่งใช้หนังสติ๊กยิงภายในสวนสัตว์ พร้อมระบุข้อความว่า "ไม่น่ารักเลยนะคะ" จนกลายเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์กันอย่างมาก

ล่าสุด บ่ายวันนี้ (21 ต.ค.) นายกฤตพัส อินทิปัญญา หัวหน้างานรักษาความปลอดภัยสวนสัตว์เปิดเขาเขียว เผยว่า ได้รับมอบหมายจาก นายณรงวิทย์ ชดช้อย ผู้อำนวยการสวนสัตว์เปิดเขาเขียวให้มาแจ้งความดำเนินคดี กรณีที่มีนักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่มหนึ่งใช้หนังสติ๊กยิงภายในสวนสัตว์ ที่สถานีตำรวจภูธรศรีราชา ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี โดยมี พ.ต.ท.เฉลิมเกียรติ ปิ่นประเสริฐ สว.(สอบสวน) สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี รับแจ้งความ

นายกฤตพัส เผยว่า เมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวของสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ได้ถ่ายคลิปวิดีโอปรากฏภาพของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน และผู้นำทัวร์ บริเวณหุบเสือป่า ถือหนังสติ๊ก และยิงออกไปโดยไม่ทราบเจตนาในการยิงอย่างแน่ชัด แต่ทั่วทั้งบริเวณของสวนสัตว์ ลิงอาศัยอยู่อย่างอิสระ ซึ่งโดยปกติแล้วเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์จะพกพาหนังสติ๊กไว้เพื่อป้องปรามไม่ให้ลิงมาทำอันตรายนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว

ซึ่งผู้อำนวยการสวนสัตว์เปิดเขาเขียว เกรงว่าอาจมีนักท่องเที่ยวกระทำการอันเป็นความผิดต่อสัตว์ป่าในสวนสัตว์ จึงมอบหมายให้มาแจ้งต่อพนักงานสอบสวน สภ.ศรีราชา เพื่อให้บันทึกไว้เป็นหลักฐาน หากเกิดความเสียหาย หรือการกระทำความผิดต่อสัตว์ในสวนสัตว์ในภายหลังอีก จะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป นอกจากสวนสัตว์แจ้งความแล้ว ยังทำหนังสือถึงบริษัททัวร์ต่างๆ ที่นำลูกทัวร์มาให้เตือนนักทักท่องเที่ยวของตนเองไม่ให้นำหนังสติ๊กเข้ามาภายในสวน พร้อมทั้งห้ามทำร้ายหรือรังแกสัตว์ ซึ่งทางสวนสัตว์ได้มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวอยู่แล้ว

จีนที่หนึ่งเที่ยวไทย 6 ล้านคน!! ตามด้วย มาเลเซีย รัสเซีย อินเดีย เกาหลีใต้ รวมยอด 11 เดือนต่างชาติเที่ยวไทยรวมแล้ว 31 ล้านคน

(27 พ.ย.67) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ถึง 24 พ.ย. 2567 ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 31,313,787 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายกว่า 1,466,408 ล้านบาท โดยนักท่องเที่ยวจาก 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 6,096,010 คน มาเลเซีย 4,443,173 คน อินเดีย 1,868,802 คน เกาหลีใต้ 1,647,328 คน และรัสเซีย 1,455,398 คน  

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (18-24 พ.ย.) นักท่องเที่ยวกลุ่มระยะใกล้ (Short haul) ฟื้นตัวชัดเจน โดยเฉพาะชาวจีนที่มีสะสมกว่า 6 ล้านคน และชาวเกาหลีใต้ที่เพิ่มขึ้น 14.28% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) ชะลอตัวตามฤดูกาล แต่คาดว่าจะกลับมาเพิ่มขึ้นในเดือน ธ.ค.  

สัปดาห์นี้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 749,306 คน เพิ่มขึ้น 1,362 คน (0.18%) จากสัปดาห์ก่อนหน้า เฉลี่ยวันละ 107,044 คน โดย 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 122,020 คน มาเลเซีย 81,886 คน รัสเซีย 50,071 คน อินเดีย 46,259 คน และเกาหลีใต้ 38,959 คน  

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (25 พ.ย.-1 ธ.ค.) คาดว่านักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากปัจจัยสำคัญ เช่น ฤดูกาลท่องเที่ยวของกลุ่มตลาดระยะไกล โดยเฉพาะยุโรป มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เพิ่มจำนวนที่นั่งเข้าไทย 10% ตั้งแต่ ก.ค. ถึงสิ้นปี รวมถึงมาตรการอำนวยความสะดวก เช่น การยกเว้นบัตร ตม.6 และการกระตุ้นให้สายการบินเพิ่มเที่ยวบิน

นทท. จีน แห่ยกเลิกทริปตรุษจีน เสียหายกว่า 5 พันลบ. หลังเกิดกระแส 'ไทยไม่ปลอดภัย' หวั่นเกิดผลกระทบระยะยาว

(10 ม.ค.68) ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ข่าวการหายตัวไปของ 'ซิงซิง' นักแสดงหนุ่มชาวจีน บริเวณชายแดนไทย-พม่า กลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางบนโลกออนไลน์จีน หลายคนตั้งข้อสงสัยถึงความปลอดภัยของการเดินทางมายังประเทศไทย โดยเฉพาะในกรณีที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงภัยจากขบวนการค้ามนุษย์

แม้ว่าหวังซิง นักแสดงชาวจีนที่ถูกช่วยเหลือจากการลักพาตัวในไทย จะกล่าวว่า “ไทยยังคงปลอดภัย” แต่เหตุการณ์นี้กลับสร้างความเสียหายต่อความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของประเทศไทยในสายตานักท่องเที่ยวจีนอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่นักท่องเที่ยวจีนถือเป็นตลาดสำคัญสำหรับการท่องเที่ยวไทย

สื่อจีนหลายแห่งรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ นักท่องเที่ยวจีนจำนวนมากได้ยกเลิกแผนการเดินทางมายังไทย โดยมีสาเหตุมาจากความกังวลเรื่องความปลอดภัยและความไม่มั่นใจในมาตรการป้องกันของไทย ส่งผลให้ยอดจองโรงแรมในเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต และเชียงใหม่ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

บริษัทนำเที่ยวหลายแห่งรายงานว่ายอดการยกเลิกแพ็กเกจท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นกว่า 30% ภายในสัปดาห์เดียว รวมถึงสายการบินที่ให้บริการเส้นทางระหว่างไทยและจีนอาจต้องปรับลดเที่ยวบินลง

จากการประเมินเบื้องต้นของสื่อจีน เหตุการณ์นี้อาจสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในช่วงตรุษจีนมากถึง 5,000 ล้านบาท และยังอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวจีนในระยะยาว ซึ่งเป็นกลุ่มที่สร้างรายได้หลักให้การท่องเที่ยวไทย

ความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของไทยไม่ได้เกิดจากเหตุการณ์นี้เพียงอย่างเดียว แต่ยังได้รับผลกระทบจากสื่อและภาพยนตร์จีน เช่น No More Bets และ Lost in the Stars ซึ่งเล่าถึงการลักพาตัวและกลโกงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภาพยนตร์เหล่านี้ทำให้ไทยและประเทศเพื่อนบ้านถูกมองในแง่ลบในสายตาชาวจีน และกรณีหวังซิงยิ่งตอกย้ำความกังวลที่เคยถูกมองว่าเป็นเรื่องสมมติ

วีซ่าง่าย-เงินเยนอ่อน ดึงนักท่องเที่ยวจีนแห่เที่ยว ยอดเดินทางแซงไทยหลังเจอวิกฤตความปลอดภัย

(13 ก.พ.68) ญี่ปุ่นแซงหน้าไทย กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับหนึ่งของนักท่องเที่ยวจีนในช่วงวันหยุดตรุษจีนในปีนี้ แซงหน้าประเทศไทยที่เคยเป็นจุดมุ่งหมายของนักเดินทางจีนช่วงเทศกาลตรุษจีน สาเหตุหลักมาจากนโยบายวีซ่าที่ผ่อนปรนและค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลง

ข้อมูลจากเว็บไซต์ท่องเที่ยว Trip.com ของจีนระบุว่า จำนวนการจองทริปไปญี่ปุ่นในช่วงวันหยุดยาว 8 วันจนถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากปีที่แล้ว ตามรายงานของ Japan Today 

นอกจากญี่ปุ่นแล้ว ประเทศที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจีนยังรวมถึงไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ และออสเตรเลีย ตามข้อมูลจากบริษัทท่องเที่ยวดังกล่าว  

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ญี่ปุ่นได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ได้แก่ ราคาตั๋วเครื่องบินที่ถูกลง ค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลง และกฎระเบียบด้านวีซ่าที่ผ่อนคลายมากขึ้น South China Morning Post รายงาน  

เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ญี่ปุ่นได้ผ่อนปรนเงื่อนไขการขอวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีน โดยขยายระยะเวลาสูงสุดของวีซ่าหลายครั้งเข้าออกจาก 5 ปีเป็น 10 ปี และเพิ่มระยะเวลาพำนักสูงสุดของนักท่องเที่ยวแบบหมู่คณะจาก 15 วันเป็น 30 วัน  

ในปีที่แล้ว ประเทศไทยยังครองตำแหน่งจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับหนึ่งของนักท่องเที่ยวจีนในช่วงตรุษจีน  

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ลักพาตัวนักแสดงชาวจีน หวัง ซิง ใกล้ชายแดนไทย-เมียนมาเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้สร้างความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนหลายคนทบทวนแผนการเดินทาง  

ทั้งนี้ รัฐบาลไทยได้ให้คำมั่นหลายครั้งว่าจะเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อปกป้องนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาเยือน แต่ตัวเลขของนักท่องเที่ยวจีนที่มาไทยก็ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top