Tuesday, 22 April 2025
นักท่องเที่ยวกระชากคอตำรวจ

‘อ.อุ๋ย’ เห็นต่าง ปมตบรางวัลตำรวจปล่อย นทท. กระชากคอเสื้อ ชี้! เป็นดาบสองคม ทำกฎหมายไทยไร้ความศักดิ์สิทธิ์

(2 ม.ค. 68) อาจารย์อุ๋ย ปชป. ชี้!  มอบรางวัลตำรวจไม่ตอบโต้นักท่องเที่ยวกระชากคอเสื้อ เป็นดาบสองคม สร้างบรรทัดฐานที่บิดเบี้ยว ทำกฎหมายไทยไม่ศักดิ์สิทธิ์ ตำรวจไทยปฏิบัติหน้าที่ยากขึ้น ย้ำ! การบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยต่างหาก คือการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับการท่องเที่ยว 

เมื่อวันที่ (1 ม.ค. 68) นายประพฤติ ฉัตรประภาชัย หรืออาจารย์อุ๋ย นักวิชาการด้านกฎหมายและอดีตผู้สมัคร สส. กรุงเทพมหานคร เขตบางกะปิ พรรคประชาธิปัตย์ ได้แสดงความเห็นผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า “จากกรณีที่ มีนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ฝ่าฝืนกฎหมายโดยการปล่อยโคมลอยสีแดง บริเวณถนนคชสาร ซอย 3 ใกล้กับประตูท่าแพ โดยมีกลุ่มนักท่องเที่ยวจำนวนมากห้อมล้อม และเชียร์กันอย่างสนุกสนาน จนเกิดการกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไปห้ามปราม จนมีการกระชากคอเสื้อของตำรวจ นั้น

แม้สุดท้ายเหตุการณ์จะจบลงด้วยดี จนมีการมอบรางวัลให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่มีความอดทนอดกลั้น ซึ่งผมก็เคารพในการตัดสินใจของตำรวจผู้ปฏิบัติงานและผู้มอบรางวัล อย่างไรก็ดี ผมมีข้อกังวลว่าการมอบรางวัลให้กับการปฏิบัติหน้าที่ลักษณะนี้ คือการไม่ตอบโต้กับผู้ที่พยายามใช้กำลังทำร้ายเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบ และไม่ดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืนกฎหมายโดยการปล่อยโคมลอย จะเป็นการสร้างบรรทัดฐานว่า การไม่ใช้อำนาจจับกุมผู้กระทำผิด กับการไม่บังคับใช้กฎหมายในเวลาที่ต้องใช้ คือการปฏิบัติหน้าที่ที่เจ้าหน้าตำรวจทุกนายควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง งั้นหรือ ? แบบนี้ต่อไปใครจะกระชากคอเสื้อตำรวจก็ได้ สุดท้ายขอโทษแล้วจบ งั้นหรือ ? 

ซึ่งผมเชื่อว่าหากเหตุการณในลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นในประเทศที่เป็นประชาธิปไตยและยึดถือสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา เยอรมนี ฝรั่งเศส หรือแม้แต่ประเทศญี่ปุ่นเอง หากมีผู้ที่ทำผิดกฎหมาย และพยายามกระชากคอเสื้อเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบ จะมีเจ้าหน้าที่อย่างน้อยสามถึงห้าคนเข้ามารุมล้อมและจับใส่กุญแจมือและส่งเข้ารถคุมขังทันที ซึ่งหากทำอย่างถูกต้องตามหลักการการจับกุม ผู้ถูกจับกุมจะไม่เกิดการบาดเจ็บรุนแรงแต่อย่างใด และจะต้องถูกดำเนินคดีจนถึงที่สุด เพราะถือเป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยว เพราะทำให้เกิดความวุ่นวายไม่สงบเรียบร้อย 

นักท่องเที่ยวปกติ (ขอเรียกว่านักท่องเที่ยว “สีขาว”) เขาจะนิยมเที่ยวประเทศที่มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเขาและครอบครัวสามารถท่องเที่ยวได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้อกังวลกับโจรผู้ร้าย ในขณะที่นักท่องเที่ยวสีเทาหรือสีดำ จะชอบไปท่องเที่ยวประเทศที่การบังคับใช้อ่อนแอ หละหลวม สามารถใช้เงินและอิทธิพลเหนือกฎหมายได้ ผมจึงขอฝากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องไปพิจารณา ว่าอยากได้นักท่องเที่ยวแบบไหน และขอย้ำว่าการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยต่างหาก คือการสร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยวที่ได้ผลดีที่สุด ด้วยความปรารถนาดี” 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top