Tuesday, 2 July 2024
นนทบุรี

‘สามเสนวิลล่า’ ต้นตำรับ ‘เบียร์วุ้นแก้วแช่’ ร้านเก่าแก่กว่า 40 ปี เปิดสาขาใหม่ใน นนทบุรี

‘สามเสนวิลล่า’ ชื่อนี้ คือตำนานที่สืบทอดกันมายาวนานกว่า 40 ปี วันนี้ The states times จะขอพามาที่จ.นนทบุรี เพื่อแนะนำหนึ่งในสาขาของร้านอาหารสามเสนวิลล่า ซึ่งมีบรรยากาศที่แตกต่างไปจากเดิม เป็นร้านที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ แต่ยังคงความคลาสสิคไว้ ไม่ว่าจะเป็น รสชาติอาหาร และ เบียร์วุ้นแก้วแช่ สูตรต้นตำรับ

ร้านสาขานี้ ใช้ชื่อว่า Samsen Villa Life (สามเสนวิลล่าไลฟ์) สาขา The River อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นสาขาที่มีวิวสวยงาม บรรยากาศเหมาะแก่การนั่งชิลกับเพื่อนและครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง

โดยร้านตกแต่งสไตล์ลอฟท์ ดูเรียบง่ายและทันสมัย แบ่งเป็น ส่วนด้านในเป็นห้องกระจกติดแอร์ ส่วนด้านนอกเป็นโต๊ะติดริมน้ำเจ้าพระยา มองได้ไกลๆ พื้นที่ดูโปร่งโล่งนั่งสบาย เป็นร้านที่เหมาะต่อการนั่งกินอาหารและจิบเครื่องดื่ม อย่าง เบียร์วุ้นเเก้วเเช่ พร้อมชมบรรยากาศริมน้ำชิล ชิล อย่างมาก 

ร้าน Samsen Villa Life เปิดทุกวัน จันทร์-ศุกร์ 16.00 - 24.00 น. | เสาร์ - อาทิตย์ 11.00 - 24.00 น.
พิกัด : ริมแม่น้ำเจ้าพระยา (สะพานพระนั่งเกล้า) ตำบล ไทรม้า เมือง นนทบุรี 11000
Line : @Samsenlife 
โทร : 095-516-4581

พ่อค้าก๋วยเตี๋ยวประกาศยกเลิกกินฟรี หลังหมดกำลังใจ เจอคนฉวยโอกาส ทำพฤติกรรมแย่ ต้องทนมาตลอด

(3 ม.ค.67) นายศักดิ์ระพี ปฐมทศพร หรือแจ็ค เจ้าของร้านแจ็คก๋วยเตี๋ยวน้ำตก บางศรีเมือง 51 นนทบุรี เปิดใจกับข่าวสดออนไลน์ หลังเริ่มต้นแจกก๋วยเตี๋ยวฟรีให้คนสูงอายุ คนพิการ คนเร่ร่อน ไร้บ้าน หญิงตั้งครรภ์ หรือแม้แต่คนไม่มีเงินได้อิ่มท้อง มาปีกว่า ๆ แต่กลับเจอคนฉวยโอกาส เอาเปรียบเรียกพวกมากินบ้าง สั่งพิเศษตามใจอยากบ้าน จนท้อ ขอยกเลิกแจกฟรี และพิจารณาเป็นรายคนแทน

นายศักดิ์ระพี กล่าวว่า ตนเริ่มแจกก๋วยเตี๋ยวฟรีมาประมาณ 1 ปี จะแจกบริเวณหน้าร้านและท่าน้ำนนท์อยู่เป็นประจำ เพราะแจกให้คนที่ลำบากยากไร้ไม่ค่อยมีเงิน คนไร้บ้าน ที่นอนเร่ร่อนแถวท่าน้ำนนท์ค่อนข้างเยอะ ก็เลยได้ไปแจกก๋วยเตี๋ยวบ่อย

แต่ช่วงหลัง ๆ มานี้ตนคิดว่าบางคนอาจจะไม่รู้ว่าตนแจกข้าวฟรี หรือบางคนอาจจะหิว เมื่อไหร่ ก็จะได้แวะมากินได้ที่ร้านตนได้ ก็เลยมีการติดป้ายหน้าร้านว่าให้กินฟรี

หลังจากโดนติดป้ายประกาศได้ประมาณ 4 เดือนคนที่มากินฟรีกลับไม่ใช่รูปแบบที่ตนตั้งใจให้ อย่างวันที่ 2 ที่ติดป้ายก็มีกลุ่มแม่บ้านที่เป็นผู้สูงอายุประมาณ 9 คน ชวนกันมากินที่ร้าน แต่ตอนแรกนั้นตนก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะตนเต็มใจแจกอยู่แล้ว แต่พอผ่านไปประมาณเดือนนึงก็มีคนเดิม ๆ มากินประจำส่วนมากก็จะเป็นกลุ่มสูงอายุ และคนสูงอายุผู้ชายบางคนบางกลุ่มจะมากินทุกวัน แต่เขาไม่ได้กินอาหารปกติทั่วไปตามที่ตนแจก แต่จะสั่งตามที่เขาอยากกิน

อย่างเช่นเกาเหลาเนื้อพิเศษ จะกินของที่แพงที่สุด พอได้กินครั้งหนึ่งก็ต้องอยากกินทุกวันพอนานไปเขาก็ไปชวนเพื่อน ๆ มากินด้วยบางครั้งก็เอากลับบ้าน แต่จริง ๆ โดยปกติแล้วถ้ามากินที่ร้านแล้วจะเอากลับบ้านต้องจ่ายเงิน แต่บางครั้งเขาอาศัยช่วงชุลมุนคนเยอะ ก็ลุกไปเลยก็มีแบบนี้บ่อยครั้ง

พร้อมยกตัวอย่างอีก เช่น จะมีอยู่คนนึงที่เขาจะมารอแต่เช้าเพื่อกินฟรี ซึ่งถ้าเป็นพ่อค้าแม่ค้าเขาจะรู้กันว่าตอนเช้าขายของต้องประเดิมด้วยออร์เดอร์ดี ๆ ไม่ใช่แจกฟรี แต่อันนี้เขามารอเลย ก็เลยปฏิเสธไม่ได้ แต่ที่หนักคือเมื่อมาถึงมักถามว่าหุงข้าวเสร็จหรือยังพอตนบอกข้าวยังไม่สุกเขาก็บอกว่างั้นเอาบะหมี่เนื้อ 3 ก้อน จะนั่งแช่อยู่แบบนั้นแล้วก็ตักน้ำแข็งไปกิน 4-5 รอบ

ส่วนอีกรูปแบบหนึ่งก็จะเป็นคนที่รู้ว่าที่ร้านเปิดให้กินฟรีก็มากินบ่อย ๆ บางครั้งก็หยิบแบงก์ 1,000 ออกมาโชว์ แล้วก็บอกว่ากินฟรีต้องจ่ายตังค์/ไม่ต้องจ่ายตังค์ ตนก็เลยงงว่าทำเพื่ออะไร

เมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้บ่อยครั้ง ตนจึงมองว่ามันเริ่มไม่ใช่สิ่งที่ตนตั้งใจไว้แล้ว ก็เลยเริ่มหาทางที่จะเลิกแจกฟรีหรือว่าทำอะไรซักอย่างเพราะมันไม่มีความสุขเหมือนเดิม เกินจะทนกับพฤติกรรมแบบนี้

แทนที่มันจะทำให้ตนมีความสุขกลับกลายเป็นทุกข์มากกว่าที่ต้องทนกับคนแบบนี้ เจตนาที่ตนตั้งใจทำกลายเป็นหน้าที่ที่ต้องเลี้ยงเขาทุกวันมันเริ่มไม่ใช่ ปีใหม่นี้ก็เลยตัดสินใจที่จะเอาป้ายออกและเลิกแจกฟรีไปเลยแต่จะเลือกให้คนที่น่ารัก น่าแจกพอ แค่บางคน

โดยส่วนใหญ่ที่มากินฟรีเป็นคนมีเงินไม่ลำบาก มีบ้านมีที่อยู่ แต่งตัวสะอาด มันเลยไม่ตรงกันที่ตนตั้งใจว่าจะแจกให้คนที่เขาลำบากไม่มีจะกิน แต่นี่เขาให้กินแล้วแทนที่จะทำตัวน่ารักแต่กลับทำตัวแบบนี้

นายศักดิ์ระพี กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาตนพยายามบอกทุกคนในร้านว่าใจเย็น ๆ เพราะมันอึดอัดมากไม่มีความสุข กลายเป็นทุกข์ใจ เสียความรู้สึก จากที่เจตนาให้ทุกคนมีกินเวลาหิวแต่กลายเป็นว่าเอาเพื่อนมานั่งเต็มร้าน นั่งแช่นาน ๆ แล้วก็สั่งแบบจัดเต็มไม่เกรงใจมันรู้สึกแย่เหนื่อย เสียความรู้สึก เหนื่อยใจ เพราะตนเปิดร้านขายของก็มีต้นทุน แต่เขาเลือกกินแต่เมนูที่ต้นทุนสูงตนก็ลำบากใจ

สุดท้ายนี้ ตนอยากฝากถึงคนที่มากินด้วยว่าโอกาสแบบนี้หายากรักษาคน รักษาร้านแบบนี้ไว้เถอะ เขาให้โอกาสแล้วก็ควรจะรักษาไว้ดี ๆ และอยากหาคนที่จะเริ่มต้นแจกอาหารเหมือนตนให้วางแผนดี ๆ จะได้ไม่ผิดพลาดเหมือนกับตน

‘พระวัดไผ่เหลือง’ ช่วยทำคลอดแม่วัวท้องแก่ ปลอดภัยทั้งแม่-ลูก ชาวเน็ตแห่ร่วมอนุโมทนาบุญ พร้อมบอก “คุณพระช่วยจริงๆ”

เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 67 เพจวัดไผ่เหลือง ซอยกันตนา อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ได้โพสต์คลิปวิดีโอขณะพระสงฆ์กำลังช่วยทำคลอดให้แม่วัวท้องแก่ ที่มีอาการเจ็บบริเวณขาหน้าทั้ง 2 ข้าง ทำให้ไม่สามารถพยุงตัวเองให้ยืนขึ้นได้ น้ำคร่ำได้แตก และมีขาของลูกวัวโผล่ออกมาแต่แม่วัวไม่มีแรงเบ่ง ทำให้พระลูกวัดได้รีบเข้าไปช่วยพร้อมลูกศิษย์วัดทำคลอด ด้วยการดึงขาหน้าของลูกวัวออกมาอย่างปลอดภัย

โดยในเพจได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า…

“แม่วัวที่ลื่นล้มวันนี้ คลอดลูกแล้วปลอดภัยดีทั้งแม่ทั้งลูก น้องชื่อ ‘คุณพระช่วย’ พระช่วยทำคลอดจริงๆ สาธุ พระทุกองค์ และคนมาช่วยทำคลอดทุกคนด้วยจ้ะ”

สำหรับลูกวัวที่เกิดใหม่เป็นสมาชิกตัวที่ 38 หลังจากคลิปวิดีโอนี้เผยแพร่ออกไป ได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก พร้อมบอกว่า “คุณพระช่วยจริงๆ ครับ” และบ้างก็ร่วมบริจาคเงิน เพื่อนำไปซื้ออาหารให้กับวัวที่วัดเป็นการร่วมทำบุญ

ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง ‘พระครูสมุห์สิทธิโชค อภินนฺโท’ เจ้าอาวาสวัดไผ่เหลือง ตำบลบางม่วง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี เปิดเผยว่า พระรูปดังกล่าวเป็นพระลูกวัดไผ่เหลืองซึ่งที่บ้านเคยเลี้ยงวัวและมีประสบการณ์พอดีช่วงเย็นที่ผ่านมาบัวเกิดน้ำคร่ำแตก แล้วไม่มีแรงเบ่ง พระจึงเข้าไปช่วย

ส่วนวัวที่วัดอยู่ในโครงการไถ่ชีวิตโคกระบือ เริ่มมาจาก ‘มูลนิธิหลวงพ่อสิงห์’

โดยได้มีโครงการต่างๆ เพื่อดูแลช่วยเหลือสังคมมากมาย และหนึ่งในนั้นคือโครงการไถ่ชีวิตโค-กระบือโดย ในชื่อโครงการ ‘บุญนิธิหลวงพ่อสิงห์เพื่อสรรพสัตว์’ ปัจจุบันมีโค-กระบือ ที่ได้ไถ่ชีวิตมาจากโรงฆ่าสัตว์และ จำนวนทั้งสิ้น 38 ตัว

ทางวัดเลี้ยงแบบเปิด โดยปล่อยลงในทุ่งหญ้าในพื้นที่ 10 ไร่ โดยมีรั้วลวดหนามล้อมรอบ และมีหญ้าแห้งมาให้เป็นอาหาร ซึ่งได้รับการดูแลจากทางปศุสัตว์อำเภอบางใหญ่ได้ให้คำแนะนำและเข้ามาดูแลในการเลี้ยงดูโค-กระบือ

นอกจากนี้ เมื่อญาติโยมรู้ว่าที่วัดมีการเลี้ยงโค-กระบือ ก็อยากจะทำบุญนำอาหารมาให้ อาทิ กล้วย, ซางข้าวโพด, อาหารเสริม และหัวอาหาร มาถวายให้กับทางวัด เพื่อเป็นอาหารให้กับโค-กระบือ ท่านใดอยากร่วมทำบุญไถ่ชีวิตคู่กระบือ หรือจะนำอาหารมามอบให้กับทางวัด เชิญได้ทุกวันที่วัดไผ่เหลือง ซอยกันตนา อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี

ติดตตามเพจวัดไผ่เหลือง ได้ที่ >> https://www.facebook.com/watphailueang

นนทบุรี-จัดงานวัฒนธรรมสองฝั่งเจ้าพระยา มหาเจษฎาบดินทร์ ปี ๖๗ อย่างยิ่งใหญ่

โชว์เสน่ห์อัตลักษณ์ถิ่น ยลวิถีเอกลักษณ์ไทย ดัน Soft Power ก้าวไกลสู่เมืองเศรษฐกิจดี วันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๖๗ นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เป็นประธานแถลงข่าว การจัดงานวัฒนธรรมสองฝั่งเจ้าพระยา มหาเจษฎาบดินทร์ ประจำปี ๒๕๖๗ “ย้อนรอยวิถีนนท์ ยลสายชลสองฝั่งเจ้าพระยา น้อมรำลึกมหาเจษฎาบดินทร์” โดยมี นายสมนึก ธนเดชากุล นายกเทศมนตรีนครนนทบุรี นายอุดร ระโหฐาน รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี นายชาญยุทธ เศวตสุวรรณ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กทม. ร่วมแถลงข่าวฯ ณ อุทยานเฉลิมกาญจนาภิเษก ต.บางศรีเมือง อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี

​​​งานวัฒนธรรมสองฝั่งเจ้าพระยา มหาเจษฎาบดินทร์ จัดขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ ที่ทรงมีคุณูปการอย่างอเนกอนันต์ต่อจังหวัดนนทบุรีและประเทศไทย รวมทั้งเพื่อส่งเสริมและผลักดัน Soft Power ภายในจังหวัดนนทบุรี ตามนโยบายของรัฐบาล อาทิ แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม อาหารพื้นถิ่น และสินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ อีกทั้งเพื่อขับเคลื่อนนโยบาย “นนทบุรี 6 ดี สู่เมืองน่าอยู่” ของผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ในการนำจังหวัดสู่เศรษฐกิจดี โดยในปี 2567 นี้ จัดงานฯ ระหว่างวันที่ ๒๗ มีนาคม – วันที่ ๒ เมษายน ๒๕๖๗ ตั้งแต่เวลา ๑๖.๓๐ – ๒๓.๐๐ น. ณ อุทยานเฉลิมกาญจนาภิเษก ตำบลบางศรีเมือง และบริเวณท่าน้ำนนท์ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี ภายใต้แนวคิด “ย้อนรอยวิถีนนท์ ยลสายชลสองฝั่งเจ้าพระยา น้อมรำลึกมหาเจษฎาบดินทร์” โดยจังหวัดนนทบุรี บูรณาการร่วมกับ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนนทบุรี หน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เครือข่ายภาคเอกชนและภาคประชาชน จัดกิจกรรมแบ่งออกเป็นสถานีต่าง ๆ ๑๔ สถานี ได้แก่ บริเวณอุทยานเฉลิมกาญจนาภิเษก ประกอบด้วย ​สถานีพหุวัฒนธรรม โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนนทบุรี จัดกิจกรรมการสาธิตหมู่บ้านจำลองวิถีชีวิตของชาวจังหวัดนนทบุรีในอดีต ได้แก่ หมู่บ้านคนไทยพื้นถิ่น จีน มุสลิม และรามัญ การออกร้านจำหน่ายอาหารและผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย และสินค้าเด่นจากสภาวัฒนธรรม

​สถานีกาชาดและชมรมแม่บ้านมหาดไทย โดยชมรมแม่บ้านมหาดไทยและเหล่ากาชาดจังหวัดนนทบุรี จัดกิจกรรมรำวงย้อนยุค การเดินแบบผ้าไทยโดยนางแบบกิตติมศักดิ์ การจำหน่ายสลากกาชาดลุ้นรางวัลใหญ่มากมาย
​สถานีเกษตรแฟร์ โดยหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดแสดงนิทรรศการด้านการเกษตร การออกร้านจำหน่ายสินค้าสินค้าเกษตรทั้งสดและแปรรูป การแข่งขันและการประกวดต่างๆ อาทิ การแข่งขันกินกุ้ง การประกวดธิดาเกษตรนนท์ จุดถ่ายภาพและจำลองโมเดลสัตว์ ต้นไม้ และผลไม้เลื่องชื่อของจังหวัด เป็นต้น
​สถานี Street Art @ Nonthaburi โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนนทบุรี จัดแสดงแสง สี และเสียง ทุ่งแพไฟ ดอกไม้ อุโมงค์ไฟ จุดแสดงภาพ Street Art และกิจกรรมล่องเรือชมทัศนียภาพและวิถีชีวิตริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยจุดลงเรือเริ่มที่ท่าน้ำนนท์ ล่องผ่านประตูน้ำคลองอ้อม วัดราษฎร์ประคองธรรม สิ้นสุดที่ท่าน้ำวัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร เริ่มเที่ยวแรกเวลา ๑๖.๓๐ น. เป็นต้นไป จำนวนวันละ ๔ รอบ ​สถานีธนาคารชุมชน โดยสำนักงานคลังจังหวัดนนทบุรี จัดกิจกรรมธนาคารย้อนยุค การให้คำปรึกษา การแก้ปัญหาหนี้สินและปรึกษาด้านการประกันภัย และบริการนวดแผนไทย​สถานีกินลมชมสะพาน @ OTOP Station โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนนทบุรี จัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ของดี ของเด่น ของนนทบุรี กว่า ๕๐ ร้านค้า ​สถานีอำเภอชวนชิม โดยที่ว่าการอำเภอเมืองนนทบุรี จัดกิจกรรมออกร้านจำหน่ายอาหารเด่น อาหารอร่อยจาก ๖ อำเภอในจังหวัดนนทบุรี และจุดบริการถ่ายภาพในรูปแบบตู้ถ่ายภาพอัตโนมัติ 

​สถานีธงฟ้า Blue Flag @ พาณิชย์นนท์ โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดนนทบุรี จัดกิจกรรมจำหน่ายสินค้าราคาประหยัด สินค้าราคาพิเศษ อาทิ ไข่ไก่ น้ำมันพืชปาล์ม น้ำตาลทราย และข้าวหอมมะลิ เป็นต้น
​สถานีพลังงาน โดยสำนักงานพลังงานจังหวัดนนทบุรีร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดแสดงนิทรรศการการอนุรักษ์พลังงานอย่างยั่งยืน กิจกรรมตลาดนัดพลังงานเพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชน จากการแปรรูปโดยเทคโนโลยีพลังงาน และส่งเสริมกิจการสินค้าอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน ​สถานีหับเผย by เรือนท่านนท์ โดยเรือนจำจังหวัดนนทบุรี จัดแสดงนิทรรศการและการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ ​สถานีตลาดย้อนยุค ไทย-รามัญ โดยเทศบาลนครปากเกร็ด จัดกิจกรรมสืบสานประเพณีวัฒนธรรมของคนไทยเชื้อสายรามัญ โดยตกแต่งสถานที่รูปแบบ “บ้านมอญ” การประดับสถานีด้วยอัตลักษณ์ของชาวรามัญ การจำลองวิถีชีวิตผู้คนในสมัยรัชกาลที่ 3 การจำหน่ายอาหารคาว หวาน โดยการใช้เงินพดด้วงแทนเงินสด และการแต่งกายย้อนยุค ​สถานีเยือนตลาดพรหมลิขิต สวมจริตชาวบางศรีเมือง โดยเทศบาลเมืองบางศรีเมือง จัดกิจกรรมจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่มและสินค้าชุมชนในเขตเทศบาลฯ จุดถ่ายภาพเช็คอินที่สวยงามตระการตา การประดับตกแต่งด้วยไฟสวยงาม

​สถานีท้องถิ่นชาวบางกรวย โดยเทศบาลเมืองบางกรวย จัดกิจกรรมออกร้านวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านบางกรวย จำหน่ายอาหารไทย อาหารโบราณ ผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ของชาวสวนบางกรวย การจำหน่ายสินค้า Handmade โดยกลุ่มส่งเสริมอาชีพผู้พิการ และจุดเช็คอิน จุดถายภาพที่เป็นอัตลักษณ์ของเทศบาลเมืองบางกรวย
​สถานีท่าน้ำเมืองนนท์ โดยเทศบาลนครนนทบุรี จัดกิจกรรมบริเวณฝั่งท่าน้ำนนทบุรี โดยจำลองการจัดงานวัด การจำหน่ายอาหารคาว หวาน สินค้าเครื่องแต่งกาย สินค้าอุปโภค บริโภค จุดถ่ายรูป เช็คอิน ตลอดจนการแสดง การประกวด การสาธิตที่น่าสนใจ เช่น หนังกลางแปลง การชกมวยไทย เป็นต้น ​นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมการแสดงแสง สี เสียง พระราชประวัติ รัชกาลที่ ๓ การแสดงทางศิลปวัฒนธรรม  และการแสดงพื้นบ้าน อาทิ โขน ลำตัด การแสดงดนตรีจากนักเรียนในจังหวัดนนทบุรี รวมทั้งการแสดงจากศิลปิน นักร้อง ที่มีชื่อเสียง อาทิ ขุนอินทร์ ระนาดเอกและวงบางสะพาน เอ๊ะ จิรากร และ ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง ตั้งแต่เวลา ๑๘.๐๐ – ๒๓.๐๐ น. ณ บริเวณเวทีกลาง อุทยานเฉลิมกาญจนาภิเษก นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ บริเวณพลับพลา โถงจตุรมุข พร้อมชมการประดับไฟสวยงามภายในสวนและริมแม่น้ำเจ้าพระยา และแสงไฟอันงดงามของสะพานมหาเจษฎาบดินทร์ทรานุสรณ์ ตลอด ๗ วัน ๗ คืน ทั้งนี้ ไฮไลท์ภายในงานยังมีกิจกรรมขบวนแห่ชาติพันธุ์ทางบกและขบวนแห่ทางน้ำ ในวันที่ ๒๗ มีนาคม 2567 กิจกรรมการรำเทิดพระเกียรติฯ โดยนางรำกว่า ๔๐๐ คน ณ บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ ๓ และพิธีเปิดงานฯ ในวันที่ ๓๑ มีนาคม 2567 เวลา ๑๙.๐๐ น. ณ บริเวณเวทีกลาง ขอเชิญชวนประชาชนร่วมชม ชิม ช้อป แต่งกายชุดไทย ในงานวัฒนธรรมสองฝั่งเจ้าพระยา มหาเจษฎาบดินทร์ ประจำปี ๒๕๖๗ ณ อุทยานเฉลิมกาญจนาภิเษก ตำบลบางศรีเมือง และบริเวณท่าน้ำนนท์ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี โดยมีบริการเรือข้ามฟากให้บริการฟรีจากท่าน้ำนนท์มายังท่าน้ำอุทยานกาญจนาภิเษก ตลอดระยะเวลาการจัดงาน รายละเอียดเพิ่มเติม สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนนทบุรี www.nonthaburi.m-culture.go.th
 

‘ผู้ศรัทธา’ แห่สักการะ ‘หลวงปู่ขาว’ วัดอุทยาน จ.นนทบุรี เนืองแน่น นิยมขอพรด้านการงาน-เงิน กราบไหว้ด้วยน้ำตาลหลังสำเร็จผล

เมื่อวานนี้ (1 ก.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนจำนวนมากต่างเข้าไปที่วัดอุทยาน ตำบลบางขุนกอง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี เพื่อไปขอพรหลวงปู่ขาว ในวิหาร ข้างพระโอสถ โดยประชาชนได้เข้าไปกราบขอพร บ้างก็นำน้ำตาลมาไหว้ตลอดทั้งทั้งวัน โดยเฉพาะวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ประชาชนที่เข้าวัดทำบุญปล่อยปลา และต้องเข้ามากราบขอพรหลวงปู่ขาว ที่มีเสียงเล่าขานกันปากต่อปากว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ขอพรด้านการงาน การเงิน ความสำเร็จ ต่างประสบความสำเร็จกันถ้วนหน้า

พระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ผศ.ดร เจ้าอาวาสวัดอุทยาน กล่าวว่า “ในส่วนเรื่องดังกว่าเป็นเรื่องความเชื่อส่วนบุคคล เราคิดดี ทำดี ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ นั่นคือคุณธรรมความดีที่อยู่กับตัวเรา ส่วนเรื่องความเชื่อความศรัทธาก็เป็นเรื่องของบุคคลที่จะให้ความเคารพและนับถือสิ่งที่เชื่อว่าสามารถช่วยเขาได้ทำจนสำเร็จ”

“สำหรับภูเขานั้นเป็นพระพุทธรูปที่อยู่คู่กับพระอุทยานมานาน ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งเจ้าอาวาส ก็ได้พบเห็นท่านแล้ว เห็นว่าเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ ที่อยู่คู่กับทางวัดอุทยานมานาน จึงได้บูรณะวิหารและองค์หลวงปู่ขาว และได้เปิดให้ประชาชนได้เข้ามากราบไหว้ขอพร ตามความเชื่อของชาวพุทธ”

“หลังจากเปิดได้ไม่นานก็มีประชาชนต่างพูดกันปากต่อปากว่าเข้ามากราบไหว้ขอพรหลวงปู่ขาวแล้ว มีความศรัทธา ขอสิ่งใดก็ได้สมปรารถนา หลังจากได้สมปรารถนาแล้วก็นำน้ำตาลมาไหว้ จนปัจจุบันนี้มีประชาชนนำน้ำตาลมาไหว้หลวงปู่ขาวสัปดาห์ละ 1,000 กิโลกรัม หรือ 1 ตัน เลยทีเดียว”

พระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ผศ.ดร กล่าวอีกว่า “โดยเฉพาะช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์และวันนักขัตฤกษ์ ก็มีประชาชนมาขอพรหลวงปู่ขาว ทำสังฆทาน และทำบุญปล่อยปลา มาจนถึงทุกวันนี้”

สำหรับ ‘หลวงปู่ขาว’ ชาวบ้านที่อยู่บริเวณเล่าต่อ ๆ กันมาว่าท่านสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอู่ทอง ชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ใกล้วัด ชอบมาไหว้ขอพร แล้วประสบผลสำเร็จ จึงนำน้ำตาลทรายมาแก้บน เพราะสมัยนั้นบริเวณรอบ ๆ วัดอุทยาน นิยมทำขนมไทยโบราณ ซึ่งมีรสชาติหวาน แล้วใส่เรือล่องขายในคลองบางกอกน้อย คลองอ้อม ซึ่งน้ำตาลทรายหาซื้อได้ง่าย ราคาไม่แพง จึงนำมาไหว้หลังจากขอพรสำเร็จ ปัจจุบัน เป็นที่รู้จักกันจำนวนมาก ทำให้คนเข้ามากราบไหว้อย่างหนาแน่นตลอดทั้งวัน

 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top