(14 ก.ค.67) เพจ 'เดือดทะลักจุดแตก' โพสต์ข้อความวิเคราะห์มูลเหตุและความเป็นไปได้เกี่ยวกับการลอบยิง โดนัลด์ ทรัมป์ ไว้ว่า...
เช้านี้ ได้คุยกับอาจารย์ภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) ของผม...
1. ผมสงสัย คนร้ายมันขึ้นไปซุ่มยิงบนหลังคาได้ยังไง
ก็รู้ทั้งรู้ ว่าจะมีจัดปราศรัยใหญ่ คนตั้ง 1.5 หมื่น
ปกติในหนังฝรั่ง มันต้อง 'เคลียร์' พื้นที่ ไม่ให้ใครขึ้นไปอยู่ที่สูงๆ ได้
อาจารย์ผมบอกว่า ของงี้ไม่แน่ มันซ่อนอยู่ในบ้านก่อนได้ (แต่ในหนังฝรั่งมันต้อง 'เคลียร์' บ้านด้วยนี่หว่า) แล้วจังหวะใกล้ๆ จะลงมือ ค่อยแอบขึ้นไป (แต่เดี๋ยวนี้มี 'โดรน' แล้วนี่หน่า มันจะน่าจะสอดส่องเกินจะเล็ดลอดได้)
2. อาจารย์ตั้งข้อสงสัย ทรัมป์ถูกยิง 'ช่วงหนึ่ง' แล้ว Secret Service (หน่วยสืบราชการลับ ซึ่งมีหน้าที่อารักขาระดับบิ๊กๆ) ถึงจะยิงโต้เป็นชุด มือปืนตายคาที่
อาจารย์แสดงทัศนะ ถ้ามองเป็น 'ทฤษฎีสมคบคิด' Conspiracy Theory (ในแง่ลบมากๆ) อาจคิดได้ว่าเจ้าหน้าที่ปล่อยให้มือปืนลงมือยิง 'เป้าหมาย' ก่อน แล้วค่อย 'ปิดปาก' มือสังหาร
คำว่า 'เป้าหมาย' นี่น่าสนใจ!!
มือปืนก็ถูกปลิดชีพไปแล้ว ไม่มีใครล่วงรู้ได้ว่า เป้าหมาย คือ หัว หรือ หู นั่นผมหมายความว่า ถ้าเป้าหมายคือหู เท่ากับมีทฤษฎีสมคบคิดอีกชั้น ว่า 'จัดฉาก'
3. อาจารย์ผมแย้งว่า 'จัดฉาก' เป็นไปได้ยากเกินไป
"มึงลองไปวางเป้าไว้บนหัว แล้วให้คนยิงธนูแม่นๆ มายิงมึงมั้ยล่ะ มึงกล้ารึเปล่า" อาจารย์ตอกผมกลับ
อาจารย์สำทับ "ต่อให้ยิงแม่นขนาดนั้นกูก็ไม่กล้า นี่หูเลยนะเว้ย พลาดไปนิดเดียว หัวเลย กูตายทันที ใครจะบ้าเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงขนาดนั้น" (ทรัมป์กล้าบ้าดีเดือด? หรือไม่ก็โลภโมโทสันในอำนาจจนมัวเมา? ผมแค่คิดในใจ ไม่ได้ท้วงออกไป)
4. อย่างไรก็ตาม อาจารย์ชี้ว่ามีคลิปจาก 'บีบีซี' ที่สัมภาษณ์คนร่วมงานที่อยู่ด้านหลัง เขาบอกว่าเห็นคนร้ายปีนขึ้นหลังคาพร้อมปืนไรเฟิล และแจ้งเจ้าหน้าที่ไปแล้ว แต่ไม่มีการตอบสนอง
ซึ่งก็ไม่มีทางรู้ว่าเลินเล่อ (เพราะคนแจ้งไม่น่าเชื่อถือ? ประมาทไม่คิดว่าจริง?) หรือว่าเป็นทฤษฎีสมคบคิดที่กล่าวไว้ตอนต้น และถ้าสมคบคิด เป้าหมายคือ หัว หรือ หู (ซึ่งจะหมายถึง 'ผู้บงการ' ที่ต่างกัน)
ย้ำอีกครั้ง ไม่ว่าจะเชื่อทฤษฎีสมคบคิดไหน แต่กระสุนที่มือปืนยิงเข้าแถบบนของใบหู คือคลาด 'จุดตาย' ที่ศีรษะ (ขม่อมด้านขวา) ไปเฉียดฉิว
5. ขณะนี้ มีการเรียกร้องเสียงขรม ให้ปลด ผอ. หน่วยสืบราชการลับ Secret Service
ผอ. เป็นผู้หญิง นามว่า 'คิมเบอร์ลี ชีเทิล' Kimberly Cheatle ซึ่งเคยทำงานให้ 'เป๊ปซี่' มาก่อน