Tuesday, 22 April 2025
ตะวันทะลุวัง

'พล.ต.ท.เรวัช เปิดใจถึง 'ตะวัน' กรณีขบวนเสด็จฯ "หากหนูไม่เคารพไม่ศรัทธา ก็ไปอยู่ประเทศอื่น"

จากกรณี ตะวัน ทะลุวัง นักเคลื่อนไหวและผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 ขับรถแซงขบวนเสด็จ ซึ่งขบวนกำลังแล่นผ่านทางด่วน โดยไม่ได้มีการปิดถนนแต่อย่างใด มีเพียงรถนำตำรวจปิดหัวท้ายขบวนเท่านั้น และประชาชนสามารถใช้ทางได้ตามปกติ

แต่แก๊งทะลุวังพยายามขับรถบีบแตรลากยาว และขับแซงรถขบวนเสด็จ ซึ่งทำให้ทางเจ้าหน้าที่ต้องจอดรถเพื่อมาดำเนินการตามมาตรการใช้รถขวาง

ล่าสุด (12 ม.ค. 67) พลตำรวจโท เรวัช กลิ่นเกษร ได้ออกมาพูดถึงประเด็นดังกล่าวผ่านช่องยูทูบระบุว่า…

“ผมเห็นคลิปเหตุการณ์เรื่องราวใหญ่โต หลังจากไอ้เด็กผู้หญิงคนนี้ ผมไม่รู้ว่าเกิดมาจากที่ไหนนะครับ หนูอยู่ประเทศไทยได้ยังไงอะ หนูกระทำการครั้งนี้ ผมเห็นว่าบังอาจมากนะลูก หนูยังเป็นเด็กที่อายุแค่ 20 กว่าปี หนูกระทำการครั้งนี้ว่าบังอาจมาก ถ้าถามว่าบังอาจยังไง บังอาจดูถูกดูหมิ่นคนที่เคารพศรัทธา ผมศรัทธายิ่งกว่าชีวิตนะครับ อย่าดูหมิ่นศรัทธาของชาวบ้านครับ”

“หนูเดินผิดทางแล้วอิหนู ซึ่งหนูจะไม่เคารพไม่ศรัทธาก็ไปอยู่ประเทศอื่นสิ ผมไม่ได้อยากยุ่งกับการเมืองนะ แล้วก็ใครอย่าไปถือหางนะ จะไปประท้วงเรื่องอะไรก็ไปประท้วง แล้วมายุ่งเรื่องทางนี้ทำไมอะไม่เข้าท่าเลย” พลตำรวจโท เรวัช กล่าว

พลตำรวจโท เรวัช กล่าวต่อว่า “บางอย่างหนูก็ทำถูกต้อง แต่บางอย่างหนูก็ทำดีผมก็เห็นด้วย เพราะหนูเป็นเด็กรุ่นใหม่ และเวลาที่หนูเข้าไปอยู่เรือนจำกันก็ประท้วงอดข้าวอดน้ำ กรมราชทัณฑ์เวลาเขาประท้วงก็เป็นสิทธิของเขา ก็ปล่อยให้เขาอดข้าวตายไปสิ ถ้าเจ็บไข้ได้ป่วยก็ค่อยรักษา ผมดูอยู่ตลอดนะครับ”

'สส.รังสิมันต์' ยอมรับ!! สังคมไม่เห็นด้วยปม 'ตะวัน' ป่วนขบวนเสด็จฯ ยัน!! ก้าวไกลไม่ได้อยู่เบื้องหลังใครและไม่มีใครอยู่เบื้องหลังพรรคได้

(12 ก.พ. 67) ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่มีการหาว่าพรรคก้าวไกล เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง กลุ่มทะลุวังที่มีการบีบแตรใส่ขบวนเสด็จฯ ว่า ความคิดที่บอกว่ากลุ่มต่าง ๆ มีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง ไม่ใช่เรื่องใหม่เกิดขึ้นแล้วหลายครั้ง ซึ่งไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาสังคม รวมถึงปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น หลายครั้งที่พรรคก้าวไกลถูกปรักปรำในลักษณะนี้ อะไรคือหลักฐานว่าเราอยู่เบื้องหลัง และในช่วงเวลาที่ผ่านมาที่เราอยู่ท่ามกลางวิกฤตทางการเมือง 

ในอดีตเราหลายคนอาจจะไปประกันตัว อาจจะไปเป็นนายประกันให้ แต่การทำในลักษณะนั้นต้องแยกออกจากการที่เขาขับเคลื่อน ซึ่งเหตุผลที่เราไปเป็นนายประกันให้คือสามารถทำได้ตามกฎหมาย รวมถึงให้สิทธิ์เขาในการต่อสู้คดี ไม่ได้หมายความว่าคนที่ไปประกันตัวจะเห็นด้วยกับการกระทำ ไม่เช่นนั้นการประกันตัวที่เกิดขึ้นเต็มไปหมดในเรื่องต่างๆ เท่ากับคนที่ไปประกันตัวจะต้องไปเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย หากคิดอย่างนี้อยู่ตลอดเวลา ถือว่าเป็นการคิดที่ผิด

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า การเชื่อมโยงกลุ่มต่างๆกับพรรคก้าวไกลมีเหตุผลคืออาจจะเป็นกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มทะลุวัง และต้องการสร้างความชอบธรรมหรือการดิสเครดิตกลุ่มทะลุวัง และต้องการทำลายพรรคก้าวไกลเช่นเดียวกัน ซึ่งไม่ควรจะไปมองแบบนั้น

“ผมยืนยันว่าเราไม่ได้ไปอยู่เบื้องหลังใครและใครก็ไม่มาอยู่เบื้องหลังเรา พรรคก้าวไกลก็คือพรรคก้าวไกล ที่ทำหน้าที่โดยมีจุดยืนในเรื่องของสิทธิมนุษยชน เราเชื่อในศักยภาพในการแสดงออก ส่วนเมื่อเขาแสดงออกไปแล้ว จะมีคนเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ก็เป็นสิทธิ์ของทุกคนที่จะแสดงความคิดเห็นได้ แต่จุดยืนของพรรคก้าวไกลคือเราไม่เห็นด้วยกับความรุนแรง ในการแสดงออกแบบนั้นคือการสร้างสังคมแห่งความหวาดกลัว เรามีบทเรียนมาแล้ว และไม่ได้ทำให้สังคมไทยดีขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย” นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า การกระทำของน.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน กลุ่มทะลุวัง สร้างเสียงวิจารณ์อยู่แล้ว ซึ่งสรุปยากว่าท้ายที่สุดสังคมจะเห็นไปในทิศทางไหน ต้องยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่ามีสังคมไม่เห็นด้วยกับการที่น.ส.ทานตะวัน แสดงออกและอาจจะมีคนเห็นด้วย ซึ่งแน่นอนในเรื่องของการอารักขาบุคคลสำคัญ ต้องมีมาตรการทั้งหมดก็นำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์ แต่จุดยืนสำคัญที่พรรคก้าวไกลแสดงคือไม่เห็นด้วยกับความรุนแรง ส่วนที่มีการมุ่งเป้าไปที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล และพรรคก้าวไกล ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้น

“สิ่งที่เราพยายามทำคือให้สติทุกคน ในการที่เราไปเป็นนายประกัน หรือการเคยเป็นนายประกันในอดีต เท่ากับเราอยู่เบื้องหลังเลยหรือ คุณเชื่อขนาดนั้นจริงๆหรือ สุดท้ายคนที่แสดงออกทางการเมืองในทุกรูปแบบ เขาก็เป็นตัวของเขา เขาก็มีจุดยืนของเขา เราเห็นด้วยหรือไม่ก็ต้องแยกเป็นกรณีไป ซึ่งถึงที่สุด เขาก็มีสิทธิ์ต่อสู้คดีในศาล สุดท้ายกลไกกฎหมาย ก็ต้องว่ากันไปตามแต่ที่มันควรจะเป็น ซึ่งก็ต้องได้สัดส่วนที่ควรจะเป็นด้วย สังคมของเราอยู่กันแบบนั้น อย่าไปสร้างสังคมแห่งความ หวาดกลัว อย่าให้เราต้องสร้างปีศาจตนใหม่ สร้างผีตนใหม่ขึ้นมา ซึ่งเหตุการณ์เดือนตุลาเคยสร้างบทเรียนให้เราแล้ว อย่าทำซ้ำอีกเลย มันไม่คุ้มกัน” นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า เราควรใช้เวทีของสภาฯ ใช้พื้นที่ทางการเมืองในการคลี่คลายหาทางออก และเข้าใจว่านายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี และโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ พยายามจะพูดเรื่องนี้ ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่สภาฯ จะพิจารณาพูดคุยหาทางออก และการที่ปล่อยให้ไปคุยกันตามท้องถนนถ้านำไปสู่การสร้างพื้นที่ที่อันตรายก็ไม่คุ้ม ทางหนึ่งที่ตนคิดว่าเป็นทางออกคือกฎหมายนิรโทษกรรม

เมื่อถามว่ามีหลายฝ่ายมองว่าควรนำเรื่องเกี่ยวกับผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ออกจากร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เราเคยหาเสียงเอาไว้ เมื่อเราได้รับการเลือกตั้งมาก็พยายามทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ซึ่งเราไม่ได้มีนโยบายแก้มาตรา 112 เท่านั้น ทางสว. อาจจะมีความคิดว่าเราไม่ควรทำแบบนั้น แต่ในจุดยืนของเราต้องกลับมาตั้งต้นว่าวันนี้ปัญหาของประเทศชาติคืออะไร เราต้องยอมรับว่ามีคนถูกดำเนินคดีในเรื่องมาตรา 112 จะมีหนทางแก้ไขอย่างไร

"ออฟชั่นเรามีอะไรบ้าง เอาเขาเข้าไปขัง ปล่อยพวกเขา นิรโทษกรรมให้พวกเขาหรืออะไร ถ้าเอากันแบบสุดโต่งเลยคือการเอาไปขัง ต้องถามว่าช่วยให้บ้านเมืองดีขึ้นอย่างไร ถึงที่สุดคนเหล่านี้ก็มีญาติพี่น้องและเขารู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ความคิดเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่กลุ่มนิสิตนักศึกษาหรือคนรุ่นใหม่เท่านั้น มิตรประเทศที่เขามองมายังประเทศไทยรู้สึกไม่สบายใจกับการดำเนินคดีที่มีความรุนแรง และไม่ได้ส่งผลกระทบแค่สิทธิเสรีภาพ

มีการตั้งคำถามในเชิงภาคธุรกิจ ความมั่นใจว่าหากมีการดำเนินคดีในลักษณะนี้จะเกิดขึ้นกับคดีอื่นได้หรือไม่ สิ่งเหล่านี้เป็นความมั่นใจทั้งหมดที่สามารถส่งผลกระทบต่อประเทศได้ ถ้าเราตั้งโจทย์ว่ามีปัญหาเกิดขึ้นเราก็ควรเริ่มต้นเปิดประตูให้กว้าง ถ้าเราบอกว่าการนิรโทษกรรมไม่รวมมาตรา 112 ถ้าเริ่มจากตรงนี้ จะแก้ปัญหาการเมืองได้จริงหรือไม่ ไม่มีประโยชน์ถ้าแก้ปัญหาไม่ได้ การนิรโทษกรรมก็ไม่มีประโยชน์"นายรังสิมันต์ กล่าว

'ก้าวไกล' กับพื้นที่ ที่เริ่มไม่ปลอดภัย ส่วน 'ทักษิณ' พักโทษ แต่ 'คปท.' รุกต่อ

ต้องบอกว่าสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์เดือดของเหตุบ้านการเมือง โดยเฉพาะวันที่ 14 ก.พ. 67 กลายเป็นวาเลนไทน์เดือด หวุดหวิดจะได้เลือด...หากสถานที่ดังกล่าวไม่ใช่สภาฯ...ขณะเดียวกันมีเหตุการณ์หลายอย่างที่ควรแก่การ 'สรุป-บันทึก' หมายเหตุให้แฟนรายการคอลัมน์ 'เลียบการเมือง' ได้รับทราบ ติดตามดังนี้...

1) กรณีญัตติด่วนเรื่อง การทบทวนมาตราการ การรักษาความปลอดภัยขบวนเสด็จ ที่พรรครวมไทยสร้างชาติเสนอ และประชาธิปัตย์ขอพ่วงท้าย และอภิปรายกันจนเป็นวาเลนไทน์เดือด

บทสรุปก็คือ ส่งผลการพิจารณาญัตติด่วนให้รัฐบาลและ กมธ.วิสามัญ พิจารณากฎหมายนิรโทษกรรม  ส่วนที่ กมธ.ความมั่นฯ ที่รังสิมันต์ โรม ขอกลางสภาฯ ด้วยนั้น ประธานสภาฯ จะจัดส่งให้เป็นกรณีต่างหาก ซึ่งดูเหมือนจะสร้างความผิดหวังให้กับพรรคก้าวไกลพอประมาณ เพราะพรรคก้าวไกลถูก 'ชาดา ไทยเศรษฐ์' รมช.มหาดไทย ที่อภิปรายตอบโต้รังสิมันต์ โรม แฉกลับว่ามีผู้ช่วย สส.ของบางพรรคให้เงินสนับสนุนเยาวชนเคลื่อนไหวด้อยค่าสถาบัน

จากญัตติด่วนฯ ครั้งนี้ แม้พรรคก้าวไกลจะพยายามอภิปรายประเด็นสิทธิเสรีภาพ การสร้างพื้นที่ปลอดภัยในการพูดคุยของสังคม ฯลฯ โดยไม่มีน้ำเสียงตำหนิ 'ตะวัน' ที่ก่อเหตุ หนำซ้ำยังอภิปรายเชิงปกป้องด้วยวาทกรรมร้อยแปด...นักสังเกตการณ์ทางการเมืองต่างเชื่อว่าจะทำให้กลุ่มกลาง ๆ ที่สนับสนุนพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ถอยห่างออกมาไม่น้อย

2) กรณีทักษิณ ชินวัตร ได้รับการพักโทษโดยไม่ต้องติดกำไลอีเอ็ม คาดว่าทักษิณจะยังไม่เปิดตัวในมิติที่มีความสุขสดชื่นอย่างแน่นอน เพราะจะย้อนแย้งกับข่าวอาการป่วย เป็นไปได้ที่จะมีการปล่อยภาพการนอนพักรักษาตัวหลุดออกมาโชว์ให้เห็น

ทั้งหลายทั้งปวง ใช่หรือไม่ว่า...ขณะที่ครอบครัวชินวัตรมีความสุขที่ได้ต้อนรับทักษิณกลับบ้าน พร้อมบริการราชทัณฑ์จันทร์ส่องหล้า แต่ประเด็นทางสังคม...ผลทางอ้อมเชิงลบที่ 'อุ๊งอิ๊ง' แพทองธาร ชินวัตร จะได้รับอันเนื่องจากกรณี 'นักโทษเทวดา' ก็จะเป็นมลทินที่ยากจะลบล้าง...

อนึ่งสำหรับ กลุ่มผู้ชุมนุมที่นำโดยเครือข่ายประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) คาดว่าจะมีการชุมนุมไปอีกระยะ เพราะล่าสุดมีการเติมเสบียงและเสริมทัพจากกองทัพธรรม ทั้งนี้เพื่อรอสถานการณ์สะเด็ดน้ำ

3) รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ภายใต้การนำของเศรษฐา ทวีสิน ดูเหมือนจะออกอาการบ้านหมุน ประคับประคองตัวตั้งหลัก...โดยเฉพาะกรณีดิจิทัล วอลเล็ต...คณะกรรมการมีมติยืดเวลาออกไป 30 วันเพื่อศึกษาข้อเสนอ และหาแนวทางป้องกันการทุจริต ซึ่งไป ๆ มา ๆ รวมเวลาทางธุรการกว่าจะกลับมาประชุมกันอีกครั้งก็ร่วมสองเดือน ซึ่งก็ไม่มีหลักประกันที่แข็งแรงใด ๆ ว่าจะจบ...

4) ขณะที่พรรคเพื่อไทย...ฝ่ายกฎหมายก็ออกอาการเสียรังวัด เมื่อจู่ๆ เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 67 นายชูศักดิ์ ศิรินิล ก็ทำหนังสือขอถอนร่างแก้ไข พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ...ที่กำลังจะเข้าที่ประชุมรัฐสภาในวันที่ 16 ก.พ. จนต้องมีการแจ้งยกเลิกประชุมกะทันหัน

สาระหลักของร่างกฎหมายดังกล่าวเปิดโอกาสให้ 'ผู้เสียหาย' สามารถฟ้องร้องได้เองหาก ป.ป.ช.หรืออัยการสูงสุดสั่งยุติเรื่อง เท่ากับเปิดโอกาสให้มีการรื้อคดีสำคัญๆ ในอดีตขึ้นมา กลายเป็นดาบสองคม  เพราะฝ่ายตัวเองก็มีสิทธิ์โดนด้วย...นี่น่าจะเหตุผลหนึ่งที่ถูกสั่งให้ถอนร่างออกมา...

‘อุ๊ หฤทัย’ โพสต์ ‘ทฤษฎีสมคบคิด’ ก๊วนสามกีบ โบ้ย!! ‘ตะวัน’ รับเงินเผด็จการมาทำลาย ‘ก้าวไกล’

(17 ก.พ.67) ‘อุ๊-หฤทัย ม่วงบุญศรี’ นักร้องชื่อดัง แนวร่วมกลุ่มปกป้องสถาบัน ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

“สามกีบ ตั้งข้อสังเกตว่า ‘ตะวัน’ เป็นคนของหน่วยงานความมั่นคงนะ” พร้อมทั้งโพสต์ภาพที่ระบุข้อความอ้างอิง ซึ่งมีเนื้อหาดังนี้…

“บางครั้งก็อดคิดไม่ได้ว่า การกระทำของตะวัน ถ้าฝ่ายเผด็จการยืมมือ ตะวัน เพื่อทำลาย ก้าวไกล มันได้ผลมากเลยทีเดียว คนที่คิดเล่นเกมนี้ถือว่าสุดยอด เพราะมวลชนด้อมส้มผิดหวังกับเรื่องนี้มาก แต่ถ้าเกิดจากความเลินเล่อ หรือเจตนารมณ์ของตะวันกับพวกเอง ถือว่าก้าวพลาดอย่างแรง ผมเลยภาวนาว่าขอให้เป็นจริงอย่างข้อแรกที่ผมตั้งข้อสังเกต… ตะวันเป็นคนของใคร? รับเงินมาเท่าไหร่? อันนี้อย่าได้มองข้ามช็อตไป เพราะพวกเขาเล่นวิธีสกปรกได้ทุกรูปแบบอย่างที่คาดไม่ถึงเลยทีเดียว”

นอกจากนี้ อุ๊ หฤทัย ยังได้โพสต์เพิ่มเติมอีกว่า “ยุให้เด็กทำชั่วแล้วไม่ได้ผล ก็ถีบหัวส่ง”

'ศูนย์ทนายฯ' เผยอาการล่าสุด!! 'ตะวัน' พบมีภาวะเลือดเป็นกรด 'แฟรงค์' ชัก!! ต้องใช้เครื่องช่วยให้ออกซิเจน ส่วน 'บุ้ง' อ้วกเกือบทั้งคืน

เมื่อวานนี้ (21 ก.พ.67) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยความคืบหน้าการอดอาหารและน้ำประท้วง (Dry Fasting) ของ บุ้ง เนติพร กลุ่มทะลุวัง, น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน และ นายณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือ แฟรงค์ ประจำวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ซึ่งขณะนี้ทั้งหมดอยู่ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์

โดย บุ้ง เนติพร ยังคงเดินหน้าประท้วงเพื่อ 2 ข้อเรียกร้อง

1.เพื่อเรียกร้องให้มีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม
2.จะต้องไม่มีใครติดคุกเพราะเห็นต่างทางการเมืองอีก

ศูนย์ทนายฯ เผยว่า เมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา บุ้งต้องเจาะเลือดไป 4 หลอด แต่การเจาะเป็นไปอย่างลำบาก เพราะเลือดไหลออกน้อย ลักษณะหยดต่อหยดอย่างช้าๆ

- เมื่อคืนที่ผ่านมา บุ้งกับตะวันอ้วกเกือบตลอดทั้งคืน
- ตัวร้อน ต้องเอาแผ่นประคบเย็นวางที่ศีรษะตลอด
- มีอาการตาลอย หน้ามืด เหนื่อยหอบตลอดเวลา
- แร่ธาตุโซเดียมและโพแทสเซียมในเลือดเริ่มต่ำ
- ปัสสาวะมีสีเข้ม
- มีภาวะเลือดเป็นกรด
- ปวดท้องลามไปจนถึงกระดูกสันหลังตลอดเวลา แต่ต้องอดทนจนรู้สึกว่าเหมือนชินชา

ขณะที่ ‘แฟรงค์’ และ ‘ตะวัน’ อดอาหารและน้ำประท้วงวันที่ 7 โดยมี 3 ข้อเรียกร้อง 2 ข้อแรกเหมือนกับของบุ้ง ส่วนอีก 1 ข้อเรียกร้องที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือ “ประเทศไทยไม่ควรเป็นคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งยูเอ็น”

>> อาการของ ‘แฟรงค์ ณัฐนนท์’

ศูนย์ทนายฯ ระบุว่า เมื่อคืนแฟรงค์มีอาการชัก มีอาการมือเกร็ง มือชา ต้องใช้เครื่องช่วยให้ออกซิเจนผ่านทางจมูก เพราะหายใจไม่ทัน แพทย์คาดว่าเกิดมาจากความเครียด

– น้ำหนักตัวลดลงเหลือประมาณ 39 กก.
– รู้สึกร้อนจากข้างในร่างกาย
– อ่อนแรงมาก จนไม่สามารถเดินเองได้ ต้องนั่งรถเข็น

>> อาการของ ตะวัน ทานตะวัน

วันนี้ตะวันนั่งรถเข็นออกมา มีอาการอ่อนเพลีย พูดช้า เสียงเบา ปากแห้งแตกจนลอก เมื่อคืนที่ผ่านมาอาเจียนออกมาเป็นน้ำสีใสรสเปรี้ยว 1 ครั้ง

- มีอาการคล้ายจะอ้วก แต่อ้วกไม่ออกอีกหลายครั้งทั้งคืน
- รู้สึกว่าการประมวลผลช้าลง
- มีอาการหลงลืม ไม่มีสติอยู่กับปัจจุบัน
- น้ำหนักตัวลดลงเหลือประมาณ 41 กก.
- ตัวร้อนมากจนต้องเอาน้ำมาลูบตลอดเวลา 

‘ตะวัน’ ถูกหามส่ง ‘รพ.ธรรมศาสตร์’ หลังประท้วงอดอาหารเข้าวันที่ 9

(22 ก.พ.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก Tawan Tantawan ของนางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ ผู้ต้องหาคดีมาตรา 116 จากการบีบแตรใส่ขบวนเสด็จ เปิดเผยว่า ขณะกำลังรอเข้าเยี่ยม เพื่อนได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ว่าได้มีการส่งตัวตะวันไปที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์แล้ว ขอให้ตะวันปลอดภัย หายใจเข้าไว้

ล่าสุด ตะวัน ได้ส่งตัวถึงโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top