Sunday, 8 June 2025
ดารา

ทัวร์ลงหนัก!! หลัง ‘Netflix’ โปรโมตเดี่ยวสเปเชียล ‘โน้ส อุดม’ ฟาด!! ‘ไร้สาระ-คิดแต่ตรรกะฝั่งตัวเอง-นึกว่าจะฉลาดกว่านี้’

(4 พ.ค.67) ทัวร์ลงหนักเลยทีเดียว สำหรับเพจ ‘Netflix’ ที่มีคนติดตาม 91 ล้านคน โดยมีการโปรโมตทอล์กโชว์ เดี่ยวสเปเชียล ซูเปอร์ซอฟต์พาวเวอร์ของ ‘โน้ส อุดม แต้พานิช’ ตัดตอนที่โน้สได้พูดเหน็บแนมเรื่องความพอเพียง แซะคนอยากเป็นเกษตรกรตามดารา อินฟลูฯ อยากอยู่กับธรรมชาติ อีด-ก เขาลงมาจากรถตู้ พอกครีมกันแดดหลายตลบ เสร็จแล้วก็ขึ้นรถแอร์ อย่าดัดจริต โดยแคปชันระบุว่า

“อยากพอเพียง อยากปลูกผักตามอินฟลูฯ แต่ลืมคิดว่าเขาลงจากรถตู้ พอกครีมกันแดดมาเกี่ยวข้าว กลับมาคราวนี้ พี่โน้ส อุดม เขาจัดเต็ม ไม่กั๊ก ไม่เซ็นเซอร์ เชิญรับชมพร้อมกันได้ใน เดี่ยวสเปเชียว ซูเปอร์ซอฟต์พาวเวอร์ ที่ Netflix”

งานนี้ชาวเน็ตฟาดไม่ยั้ง อาทิ พอเพียงเป็นคำที่มีความหมายในตัวเอง คนที่ไม่พอก็ไม่ได้แปลกอะไร คนที่แปลกคือคนที่พยายามด้อยค่ามันเพราะอคติ, พอไม่พออยู่ที่ความพอใจ ความพอใจของแต่ละคนไม่เท่ากัน อย่าคิดแต่ฝั่งตรรกะตัวเอง ใครไม่พอก็หากันต่อไป ใครพอเขาก็มีความสุขกับสิ่งที่เขามี แล้วไม่ต้องดินมาก แค่นั้นเอง,

มันไม่เกี่ยวกับง่ายหรือยาก มุงไม่เข้าใจเศรษฐกิจพอเพียงแล้วเอามาแซะ นึกว่าจะฉลาดกว่านี้ ภูมิใจจริงๆ ไม่เคยอุดหนุนอะไรสักอย่าง, คุณนิยามคำว่าพอเพียงผิดมหันต์ มันจึงเหมือนเป็นการเหน็บแนม ผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่ากับคุณจริงๆ , อยากฟังทฤษฎีใช้เงินไปสวรรค์ของวัดดังแถวปทุมนะ, พอเพียงมันก็คือทางสายกลาง แบบที่พระพุทธเจ้าสอนนั่นแหละ การไม่ยึดติดสุดทางทั้งไม่ลำบากไปไม่สบายไป เอาแบบพอดี แต่โน้ส อุดม คงไม่เชื่อคำสอนของพระพุทธเจ้า ไปเชื่อคำสอนของธัมมชโยมากกว่า ฯลฯ

'อาร์ต-พศุตม์' เผย!! แง่มุมดีๆ จากประสบการณ์ชีวิต วินัยสำคัญ!! ดันคนธรรมดาให้ได้ผลลัพธ์ที่ไม่ธรรมดา

(1 มิ.ย.67) นายพศุตม์ บานแย้ม หรือ ‘อาร์ต’ ดารานักแสดงชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับแง่มุมดีๆ ในการใช้ชีวิต โดยได้ระบุว่า ...

ฝาก ถึงพวกกระจอก ตัวเองทำไม่ได้หรือป่าว ถึงโยนความผิดให้แต่คนอื่น Ep2 

ส่วนใครที่บอกกรูปากหมา กรูก็ปากหมาใส่คนที่ปากหมาคืนก็แค่นั้น อย่าทำเป็นรับไม่ได้เวลาโดน สวนคืน 555 ใครพูดดี ผมก็พูดดีด้วย
เช่น 

เป็นดารา ไงเลยขายได้ ‘ลองสิ’ ไม่เป็นดาราจะขายได้มั้ย 

…. ถามจริง เกิดมาผมเป็นดาราเลยปะ ก็ ไม่ใช่ เกิดมาในครอบครัวที่จนด้วยซ้ำ จนขนาดที่นอนจะนอนยังจะไม่มี แต่ผม ก็พยายามทำงานเองมาตั้งแต่ อายุ 17 แล้วก็ไม่เคยโทษใครเลย

…มาว่ากันด้วย ก่อนจะเป็นดารา ผมก็คนธรรมดา ผมลองไปประกวดดู ดันเข้ารอบ …แต่ก็ต้องพยายาม ทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ ต้องมีระเบียบวินัยในการทำงานในวงการมา 17 ปี ผมเคยไปทำงาน สาย 3 วัน ย้ำ 17 ปีนะ ซึ่งเวลาไปกองผมต้องตื่น ตี 5.30 ทุกวัน เป็นเวลา 17 ปี แล้วกรูจะย้อนกลับไปเป็นคนธรรมดาทำไมในเมื่อกรูพยายามเป็นดารา รักษาชื่อเสียง รักษาวินัย มาตั้ง 17 ปี คิดสิคิด

…มาว่ากันด้วย เรื่องเค้าหล่อไง ตอนนี้กรูอายุ 42 แล้ว แต่สภาพภายนอกยังได้แบบนี้ กรูต้องเพียรพยายามดูแลตัวเองขนาดไหน ต้องขยันดูแลตัวเองขนาดไหน แต่ไอ้คนที่พูดยังเอาเวลาว่าง นั่งกินเหล้า สูบบุหรี่ เที่ยว ปาร์ตี้ อยู่เลย คิดสิคิด

….มาว่ากันด้วย เค้า ล่ำ ไง ผู้หญิงก็ชอบเลยมาซื้อของผม .. กรูเกิดมามีกล้ามเลยมั้ง กรูพยายามเล่นเวทออกกำลัง มาตั้งแต่ อายุ 17 ก่อนเป็นดาราด้วยซ้ำ จนป่านนี้ เป็นเวลา มา 24 ปี มันง่ายมั้ง กับการออกกำลังดูแลตัวเองมานานขนาดนี้ คิดสิคิด

ขอไปขายของก่อน เดี๋ยว มี ep. 3

อยู่เซ็นทรัลพิษณุโลกถึง 4 มิ.ย. นะค้าบบบ

‘นิด้าโพล’ เผยผลสำรวจ ปชช. ไม่เชื่อสินค้าที่ ‘ดารา-อินฟลูฯ’ รีวิว ชี้!! ร้องเรียนกับสื่อ ได้รับความเป็นธรรม รวดเร็วกว่าไปหา ‘สคบ.’

(20 ต.ค. 67)  ศูนย์สำรวจความคิดเห็น ‘นิด้าโพล’ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง ‘ใครจะคุ้มครองผู้บริโภค’ ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 15-16 ตุลาคม 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการโฆษณาสินค้าของดารา และอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) คนดัง การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0

จากการสำรวจเมื่อถามถึงการโฆษณาสินค้าของดารา อินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าของประชาชน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 42.21 ระบุว่า ไม่ส่งผลเลย รองลงมา ร้อยละ 22.98 ระบุว่า ส่งผลมาก ร้อยละ 19.01 ระบุว่า ค่อนข้างส่งผล และร้อยละ 15.80 ระบุว่า ไม่ค่อยส่งผล

ด้านความเชื่อของประชาชนที่มีต่อดารา อินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) ใช้สินค้าจากการโฆษณาจริง พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 52.29 ระบุว่า ไม่เชื่อว่าใช้สินค้านั้นจริง รองลงมา ร้อยละ 22.98 ระบุว่า เชื่อว่าใช้สินค้านั้นเป็นบางครั้ง ร้อยละ 20.53 ระบุว่า เชื่อว่าใช้สินค้านั้นเฉพาะตอนโฆษณา ร้อยละ 3.89 ระบุว่า เชื่อว่าใช้สินค้านั้นจริง และร้อยละ 0.31 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ด้านความรู้สึกของประชาชนต่อการโฆษณาสินค้าที่มีของแถมจำนวนมาก และ/หรือ ลดราคาเยอะ ๆ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 34.12 ระบุว่า จะตั้งข้อสงสัยว่า คุณภาพสินค้าอาจไม่ดี รองลงมา ร้อยละ 30.23 ระบุว่า เป็นแค่วิธีการโฆษณาชวนเชื่อ ร้อยละ 23.89 ระบุว่า ไม่คิดจะซื้อสินค้าที่โฆษณาแบบนี้ ร้อยละ 19.47 ระบุว่า จะตั้งข้อสงสัยว่า มีเงื่อนไขอะไรแอบแฝงอยู่หรือเปล่า ร้อยละ 19.24 ระบุว่า จะตั้งข้อสงสัยว่า ต้นทุนสินค้าน่าจะถูกมาก ร้อยละ 17.94 ระบุว่า จะตั้งข้อสงสัยว่า สินค้านั้นอาจใกล้หมดอายุการใช้งาน ร้อยละ 8.63 ระบุว่า จะขอเปรียบเทียบคุณภาพกับสินค้าที่เหมือนกันหรือใกล้เคียงก่อนตัดสินใจ ร้อยละ 8.17 ระบุว่า จะขอเปรียบเทียบราคากับสินค้าที่เหมือนกันหรือใกล้เคียงก่อนตัดสินใจ ร้อยละ 7.02 ระบุว่า จะลองสั่งมาใช้ดู ร้อยละ 4.27 ระบุว่า ถ้าเป็นสินค้าที่ใช้เป็นประจำ จะซื้อสินค้านั้นทันที ร้อยละ 2.14 ระบุว่า สนใจที่จะซื้อสินค้านั้นทันที (แม้ว่าจะไม่เคยใช้ก็ตาม) และร้อยละ 0.38 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

สำหรับการร้องเรียนจากการถูกเอาเปรียบหรือหลอกลวงให้ซื้อสินค้าหรือลงทุน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 41.22 ระบุว่า ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ รองลงมา ร้อยละ 30.08 ระบุว่า ไปร้องเรียนกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ร้อยละ 25.19 ระบุว่า ไม่ร้องเรียนใด ๆ ร้อยละ 15.50 ระบุว่า ไปร้องเรียนกับสื่อ ร้อยละ 12.06 ระบุว่า ไปร้องเรียนกับศิลปิน ดารา หรือจิตอาสาคนดัง เช่น หนุ่ม กรรชัย กัน จอมพลัง บุ๋ม ปนัดดา เป็นต้น ร้อยละ 5.57 ระบุว่า ไปร้องเรียนกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง (ไม่รวม สคบ.) ร้อยละ 2.60 ระบุว่า ไปร้องเรียนกับทนายคนดัง ร้อยละ 1.68 ระบุว่า ไปร้องเรียนกับองค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) ที่เกี่ยวข้อง เช่น มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค และร้อยละ 0.92 ระบุว่า ไปร้องเรียนกับนักการเมือง

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงการร้องเรียนที่ได้รับความเป็นธรรมเร็วที่สุดจากการถูกเอาเปรียบหรือหลอกลวงให้ซื้อสินค้าหรือลงทุน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 24.81 ระบุว่า ไปร้องเรียนกับสื่อ รองลงมา ร้อยละ 23.05 ระบุว่า ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ ร้อยละ 15.88 ระบุว่า ไปร้องเรียนกับศิลปิน ดารา หรือจิตอาสาคนดัง เช่น หนุ่ม กรรชัย กัน จอมพลัง บุ๋ม ปนัดดา เป็นต้น ร้อยละ 15.80 ระบุว่า ไปร้องเรียนกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และไม่ร้องเรียนใด ๆ ในสัดส่วนที่เท่ากัน ร้อยละ 1.91 ระบุว่า ไปร้องเรียนกับทนายคนดัง ร้อยละ 1.45 ระบุว่า ไปร้องเรียนกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง (ไม่รวม สคบ.) ร้อยละ 0.92 ระบุว่า ไปร้องเรียนกับองค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) ที่เกี่ยวข้อง เช่น มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค ร้อยละ 0.07 ระบุว่า ไปร้องเรียนกับนักการเมือง และร้อยละ 0.31 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

‘แอนนี่ บรู๊ค’ ย้อนเล่าเรื่องราวแห่งโอกาสในชีวิต หลังได้รับทุนเรียนต่อใน รร.เจ้าฟ้าหญิงอุบลรัตน์

เมื่อวันที่ (18 พ.ค. 68) แอนนี่ บรู๊ค ดารานักแสดง ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถึงเรื่องราวในอดีตที่เคยได้รับโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตว่า แอนเคยได้รับทุนจากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ไม่ใช่แค่ทุนการศึกษา แต่คือแสงสว่างในอุโมงค์มืด ในวันที่โลกยังไม่เท่าเทียม และแอนโชคดีที่ได้อยู่ในแสงสว่างนั้น โอกาสนี้หล่อหลอมให้แอนเติบโตและเดินบนเส้นทางที่ควร

“ขอบคุณที่เคยเชื่อในเด็กคนหนึ่ง... ที่วันนี้ยังไม่ลืมคุณค่าของโอกาสนั้นเลยค่ะ”

แอนนี่ ยังบอกเพิ่มเติมว่า เดิมโรงเรียนแห่งนี้ชื่อว่าโรงเรียนเซนต์ปอลเดอร์ชาร์ท และได้เปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนเจ้าฟ้าหญิงอุบลรัตน์ หรือ อร.  โดยแอนเป็นนักเรียนรุ่นที่ 1 รุ่นบุกเบิกโรงเรียน ผู้ดูแลเป็นมาเซอร์ อยู่ในศาสนาคริสต์คาทอลิก แต่ไม่ว่าจะศาสนาไหนทุกคนอยู่ที่นี่เท่าเทียมกันหมด

พร้อมทั้งได้ยกย่องครูที่นำทางแสงสว่าง มีชื่อว่า ครูสมัย วิไลศักดิ์ โดยครูเป็นคนไปขอแม่ว่าเด็กมันเรียนดีเป็นเด็กดี ครูขอนะ เพราะในตอนนั้นแม่กำลังจะส่งแอนไปทำงานเป็นแม่บ้านในกรุงเทพฯ ครูจึงบอกว่า ขอให้เด็กได้ไปเรียนต่อ 

“หนูไม่รู้ว่าตอนนี้ครูสมัยอยู่ไหน แต่หนูซาบซึ้งในพระคุณมากๆค่ะ”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top