Wednesday, 23 April 2025
ชุดลูกเสือ

‘หม่อนปลื้ม’ ชี้ ยกเลิกเครื่องแบบลูกเสือ อาจทำเด็กขาดวินัย ลั่น!! อย่าใช้ความเหลื่อมล้ำเป็นข้ออ้างเพื่อยกเลิกการเรียนลูกเสือ

เมื่อไม่นานมานี้ หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล หรือ ‘คุณปลื้ม’ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็น เรื่องการเครื่องแบบ ในความคิดของก้าวไกล ไว้ว่า ตนเข้าใจดีในเรื่องที่กระทรวงศึกษาธิการถูกสังคมในปัจจุบันกดดันเรื่องของความเหลื่อมล้ำ ที่เกิดจากเครื่องแบบนักเรียนลูกเสือ ที่คนรุ่นใหม่หัวก้าวหน้ายกขึ้นมาอ้างเพื่อให้มีการพิจารณายกเลิกการใส่เครื่องแบบลูกเสือ

โดยคุณปลื้มได้กล่าวว่า ตนไม่มีปัญหา และเข้าใจ หากมีคนต้องการให้มีการยกเลิกการใส่เครื่องแบบลูกเสือ แต่ด้วยความที่กระทรวงศึกษาธิการถูกกดดัน และสั่งการไปถึงทุกโรงเรียน ให้ทำหนังสือชี้แจ้งผู้ปกครอง เรื่องการอนุญาตให้นักเรียนไม่ต้องสวมเครื่องแบบลูกเสือ โดยให้สวมแค่ผ้าพันคอลูกเสือเพียงเท่านั้น แบบนี้เมื่อถึงเวลาอาจทำให้เกิดความสับสน นักเรียนบางส่วนอาจใส่เครื่องแบบมา อีกส่วนอาจไม่ใส่มา แบบนี้จะเวิร์กหรือไม่?

ถ้าคุณเคยเป็นทหาร คุณจะรู้ว่าส่วนสำคัญในการฝึกวินัยของทหาร มันเริ่มตั้งแต่การใส่เครื่องแบบ เพราะถือเป็นสิ่งสำคัญ เป็นการฝึกวินัยในการดูแลเครื่องแบบ ตั้งแต่การซักรีด การติดดาว ติดยศให้ถูกต้อง การขัดรองเท้าให้เงา ทั้งหมดนี้เป็นการฝึกวินัย ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นลูกเสือที่ดี ที่ไม่ได้มีแค่เรื่องจิตอาสาเพียงเท่านั้น แต่ยังสอนในเรื่องของการทำอาหาร การเดินป่า การผูกเชือก และทักษะการเอาตัวรอด สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นประโยชน์ต่อเยาวชนทั้งสิ้น

ดังนั้น หากจะมีการรณรงค์ให้ยกเลิกการสวมเครื่องแบบลูกเสือ ในสถาบันการศึกษาของภาครัฐฯ และเอกชน อย่างที่มีการบังคับกันอยู่ในขณะนี้ ผมมองว่า หากจะให้มีการเรียนลูกเสืออยู่ ก็ควรจะต้องมีการสวมเครื่องแบบลูกเสือ

คุณปลื้มยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในสมัยก่อนที่มีการเรียนและแต่งเครื่องแบบลูกเสือ ก็ไม่ได้มีความเหลื่อมล้ำ เพราะฉะนั้น หากจะอ้างเรื่องของความยากจนและภาระทางการเงิน แล้วทำไมสมัยก่อนถึงแต่งเครื่องแบบลูกเสือกันได้? แล้วถ้าหากมีการประกาศว่าไม่ต้องมีการแต่งเครื่องแบบลูกเสือ แต่เมื่อถึงวันสำคัญที่ต้องแต่งเครื่องแบบจะทำอย่างไร?

“หากเราต้องการอยู่ในสังคมที่ไร้การฝึกวินัยในเรื่องการแต่งกาย นี่นับเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องมีการถกเถียงกันในแง่ของนโยบายต่อไป และผมคิดว่า ไม่ควรยกเรื่องของความเหลื่อมล้ำ และความยากจนมาอ้างเพื่อเป็นการต่อยอดวาระในการยกเลิกการเรียนลูกเสือแบบถาวร”

โซเชียลแชร์ภาพเด็กนักเรียนตัวน้อยในชุดลูกเสือ พร้อมบอก “เห็นเด็กใส่แล้วนึกถึงพี่คิงเลย”

วันที่ (13 มิ.ย. 66) ได้มีการแชร์ภาพของเด็กชายวสุพล วงศ์จีนา โรงเรียนพุทธ​ศาสน์​โกศล วัดวังยาว อำเภอกุยบุรี​ จังหวัดประจวบคีรี​ขันธ์ ​ในชุดเครื่องแบบลูกเสือ พร้อมกล่าวว่า “เห็นเด็กใส่แล้วนึกถึงพี่คิงเลย” เนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้เกิดกรณีการถกเถียงกันสนั่นโซเชียล หลัง ‘คิง ก่อนบ่าย’ ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อ ‘ณภัทร คิงก่อนบ่าย ชุ่มจิตตรี’ แสดงความไม่เห็นด้วยกับกระแสการยกเลิกชุดลูกเสือ เพราะลูกเสือตรีบุญยิ่ง มีพระคุณต่อบ้านเกิดของตน พร้อมฝากคนรุ่นใหม่ให้ลองคิดทบทวนดูให้ดี ก่อนจะเปลี่ยนแปลงอะไร โดยระบุว่า…

“ครอบครัวผมไม่สามารถสนับสนุนให้มีการยกเลิกชุดลูกเสือได้จริง ๆ เพราะลูกเสือตรีบุญยิ่ง มีพระคุณต่อบ้านเกิดของผม

ผมเชื่อว่าคนอำเภอเมืองประจวบยังจำลูกเสือตรีบุญยิ่งได้ว่าเขาคือใคร และสร้างคุณประโยชน์​ให้กับอำเภอเมืองประจวบไว้อย่างไรหากใครยังไม่รู้​ ก็ลองไปศึกษา​ดู แล้วเราจะรู้คำตอบเอง และหากเข้ามาในเมืองประจวบคุณก็จะได้คำตอบเองว่าชื่อถนนแต่ละเส้น มีที่มาที่ไปอย่างไร พิทักษ์​ชาติ สละชีพ สู้ศึก

อย่างน้อยคนรุ่นใหม่​ก็ควรศึกษาไว้บ้าง เราจะได้มีเรื่องเล่าให้เพื่อนๆ หรือคนรุ่นหลังได้ฟัง สิ่งเหล่านี้เรารู้เอาไว้ ก็ไม่ได้ทำให้เราเสียหายอะไร ดีกว่าเวลามีใครถามแล้วเราตอบอะไรไม่ได้เลย โพสต์​นี้เพื่อขอบคุณ​และเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวของลูกเสือตรีบุญยิ่ง ศิริเสถียรครับ #ลูกเสือ #ประจวบวิทยาลัย #วีรกรรม”

จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ต ที่ต่างพากันเข้ามาแสดงความคิดเห็นในหลากหลายแง่มุม ถึงประเด็นการยกเลิกชุดลูกเสือ มุมหนึ่งก็มองว่าเป็นการลดภาระของพ่อแม่ผู้ปกครองในเรื่องค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องแบบชุดลูกเสือ ส่วนอีกแง่มุมหนึ่งก็มองว่าจะเป็นการด้อยค่าความสำคัญของชุดลูกเสือ ที่มีมาอย่างยาวนานของประเทศไทย และยังมองว่า การแต่งกายตามระเบียบการเรียนการสอนนั้น มีความจำเป็นอย่างมากในการฝึกให้เด็กมีระเบียบวินัย เพื่อเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคต
 

1 กรกฎาคม พ.ศ. 2454 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสถาปนา ‘กิจการลูกเสือไทย’ .

วันนี้ เมื่อ 112 ปีก่อน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ได้ทรงสถาปนากิจการลูกเสือไทยขึ้น จึงยึดถือเอาวันที่ 1 กรกฎาคม ของทุกปี เป็น ‘วันสถาปนาลูกเสือแห่งชาติ.
ลูกเสือได้กำเนิดครั้งแรกในประเทศอังกฤษ เมื่อ พ.ศ. 2450 โดยท่านลอร์ดบาเดน เพาเวลล์ กิจการลูกเสือในยุคแรกมีจุดประสงค์เพื่อเตรียมคนไว้เป็นทหาร หลายประเทศที่ไม่มีพระราชบัญญัติเกณฑ์ทหาร จึงได้จัดให้มีลูกเสืออย่างประเทศอังกฤษบ้าง หลังจากนั้นไม่นานกิจการลูกเสือก็ได้แพร่หลายเข้าไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา

ต่อมาใน พ.ศ. 2454 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งกองเสือป่าขึ้น เพื่อให้ข้าราชการพลเรือนได้เข้ารับการอบรม โดยมีจุดประสงค์ที่จะมุ่งอบรมจิตใจให้คนไทยรู้จักรักชาติมีมนุษยธรรม มีความเสียสละ สามัคคี และมีความกตัญญู

เมื่อกิจการของเสือป่าเจริญก้าวหน้ามั่นคงดีแล้วพระองค์ จึงทรงพระราชดำริว่า ควรจะได้มีการอบรมของลูกเสือด้วย ดังนั้นในวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2454 จึงมีพระบรมราชโองการจัดตั้งลูกเสือขึ้นในประเทศไทยนับเป็นประเทศที่ 3 ของโลกรองจากสหรัฐอเมริกา จากนั้นนานาชาติในยุโรปจึงจัดตั้งกองลูกเสือของตนขึ้น ลูกเสือกลายเป็นองค์การสากลและมีความสัมพันธ์กันทั่วโลก เป็นสื่อผูกมิตรไมตรีกันโดยใช้กฎของลูกเสือ 10 ประการ ผูกสัมพันธ์กันไม่เว้นเชื้อชาติใด ศาสนาใดทั้งสิ้น ถือว่าลูกเสือทั่วโลกเป็นพี่น้องกันหมด

แม้พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวจะทรงสวรรคตแล้วก็ตาม พระราชอนุสรณ์กิจการลูกเสือของพระองค์ท่านได้พัฒนารุ่งเรืองมาตามลำดับจน โดยปัจุบันกลายเป็นกิจการที่สร้างคุณประโยชน์สร้างชื่อเสียงของประเทศให้เป็นที่รู้จักของนานาประเทศทั่วโลก และเพื่อเป็นการระลึกถึงพระองค์ท่าน ทางราชการจึงได้กำหนดวันที่ 1 กรกฎาคมของทุกปีเป็น ‘วันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ’ หรือ ‘วันลูกเสือ’
 

พล.ต.อ.เพิ่มพูน เผย เตรียมออกกฎกระทรวงปลดล็อกชุดลูกเสือ เลือกได้ตามความเหมาะสม

(25 ต.ค. 67) วานนี้พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ และประธานคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ เป็นประธานการแถลงเปิดตัวระบบบริหารกิจการลูกเสือ และโปรแกรมการฝึกอบรมลูกเสือในสถานศึกษา ณ ห้องประชุมราชวัลลภ อาคารราชวัลลภ ชั้น 2 กระทรวงศึกษาธิการ โดยมีนายสุรศักดิ์​ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ , นายวรัท พฤกษทวีกุล รองปลัดศธ. และเลขาธิการสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ และผู้บริหารองค์กรหลักศธ. และคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ เข้าร่วม

พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวว่า ภายใต้นโยบาย 'เรียนดี มีความสุข' กระทรวงศึกษาธิการ มุ่งเน้นการศึกษาเพื่อความเป็นเลิศและการพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยลดภาระครู นักเรียน และผู้ปกครอง การเปิดตัวระบบบริหารกิจการลูกเสือครั้งนี้จึงเน้นการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในทุกระดับ ตั้งแต่ส่วนกลางไปจนถึงสถานศึกษา 

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับแนวคิด 'ลูกเสือทันสมัย Transform' ภายใต้สโลแกน 'ทำดี ทำได้ ทำทันที' เพื่อให้การดำเนินงานถูกต้อง รวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่าย ประกอบด้วย 4 ระบบที่สำคัญ ได้แก่

1. ระบบขอจัดตั้งกลุ่มหรือกองลูกเสือ สำหรับสถานศึกษาที่ต้องการจัดตั้งกลุ่มลูกเสือ
2. ระบบขอตำแหน่งทางลูกเสือ สำหรับผู้บังคับบัญชาลูกเสือที่ต้องการตำแหน่งใหม่
3. ระบบขอมีคุณวุฒิทางลูกเสือ สำหรับการรับรองคุณวุฒิตามระดับต่าง ๆ
4. ระบบขอเปิดการฝึกอบรม ให้บริการแก่สำนักงานลูกเสือแห่งชาติ สำนักงานลูกเสือจังหวัด สำนักงานลูกเสือเขตพื้นที่การศึกษา ที่ประสงค์จะขอเปิดฝึกอบรมสำหรับบุคลากรทางลูกเสือในหลักสูตรต่าง ๆ

ทั้งนี้ การเปิดตัวระบบใหม่เหล่านี้จะนำระบบเทคโนโลยี หรือไอทีเข้ามาช่วยลดขั้นตอนการดำเนินงานต่าง ๆ ลดเอกสาร ทำให้ประหยัดงบประมาณ ประหยัดเวลาในการดำเนินงาน เพื่อลดค่าใช้จ่ายตอบสนองต่อนโยบาย 'ลดภาระครู' อย่างแท้จริง

กระทรวงศึกษาธิการ ยังได้เปิดตัวโปรแกรมการฝึกอบรมลูกเสือแบบใหม่ ซึ่งเป็นโปรแกรมการฝึกอบรมลูกเสือในสถานศึกษา ที่ได้รับการพัฒนาให้สอดคล้องกับยุคดิจิทัลและทักษะที่จำเป็นในปัจจุบัน โดยแบ่งตามประเภทของลูกเสือ ดังนี้

+ ลูกเสือสำรอง : การเป็นผู้นำ, การออม, Codding, มารยาทไทย และการป้องกันภัยต่าง ๆ
+ ลูกเสือสามัญ : E-sport, Codding, ภัยไซเบอร์, และความรักชาติ ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ : SMART SCOUT, การกู้ชีพฉุกเฉิน, Save Bullying และภัยคุกคามทางเพศ
+ ลูกเสือวิสามัญ : การเงินดิจิทัล, ภูมิปัญญาท้องถิ่น และการช่วยเหลือชุมชน และในอนาคตจะมีการพัฒนาหลักสูตรใหม่เพิ่มเติม เพื่อให้ลูกเสือได้รับทักษะที่ทันสมัยและนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน

“ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าระบบบริหารกิจการลูกเสือและโปรแกรมการฝึกอบรมลูกเสือแบบใหม่นี้จะถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวาง เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการเสริมสร้างทักษะและคุณภาพชีวิตของเยาวชนไทยตอบสนองนโยบายการศึกษาสมัยใหม่ในมิติ เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา หรือ Anywhere Anytime อย่างแท้จริง และการอบรมลูกเสือไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็มีมาตรฐานเดียวกันในการเข้ามาเชื่อมระบบการเรียนรู้  และหวังว่ากิจกรรมลูกเสือจะได้รับการพัฒนาก้าวหน้ายิ่งขึ้นและทันต่อกระแสโลก และหวังว่าสถาบันลูกเสือจะเป็นอีกหนึ่งองค์กรที่จะช่วยทำให้ประเทศชาติมีความเจริญรุดหน้าต่อไป มีประชากรที่รักระเบียบวินัย มีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และลูกเสือช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อ ทำดี ทำได้ ทำทันที” พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าว

พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวเพิ่มเติมถึงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ ว่า ศธ.จะออกกฎกระทรวงใหม่เกี่ยวกับการแต่งกายของลูกเสือ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอตามขั้นตอน เพื่อเป็นการปลดล็อกเครื่องแต่งกาย สำหรับการแต่งกายลูกเสือ จะมีเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ ชุดปกติ (ชุดลูกเสือเดิม) ชุดปฏิบัติการ และชุดลำลอง โดยให้สถานศึกษาพิจารณาเลือกได้ตามบริบทของสถานศึกษา

“กฎกระทรวงใหม่นี้จะเป็นการปลดล็อก เช่น ชุดลำลองจะใช้เครื่องแบบนักเรียน หรือใส่ชุดตามที่ผู้บังคับบัญชาของสถานศึกษานั้นๆเป็นผู้พิจารณาให้เหมาะกับบริบทของสถานศึกษา เช่น สถานศึกษานั้นอยู่ในกลุ่มชาติพันธุ์ ก็ใช้ชุดชาติพันธุ์เป็นชุดลูกเสือได้ หรือในพื้นที่ใดไม่มีชุดลูกเสือที่พอเพียงก็ไม่ต้องใส่ชุดลูกเสือ จะใส่ชุดอะไรก็ได้ตามบริบทที่ผู้บังคับบัญชาลูกเสือนั้นพิจารณาว่าเหมาะสม จะมีหมวก หรือมีผ้าพันคอหรือไม่ก็แล้วแต่ฐานลูกเสือนั้นพิจารณา เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและลดภาระต่างๆในการเรียนลูกเสือ เป็นการลดภาระให้กับนักเรียนและผู้ปกครอง แต่ถ้าเป็นทางการ เช่น วันลูกเสือฯ ก็อาจจะต้องใส่ชุดลูกเสือปกติ” รมว.ศธ. กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top