Wednesday, 23 April 2025
จังหวัดนราธิวาส

แถลงข่าว - โครงการปั่นเทิดพระเกียรติมิตรภาพไทย-มาเลเซีย

วันที่ (20 กรกฎาคม 2565) เวลา 15.30 น. มีแถลงข่าวโครงการปั่นเทิดพระเกียรติมิตรภาพไทย-มาเลเซีย ในบรรยากาศสุดอบอุ่นใต้ต้นไม้ บริเวณตรงข้ามด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก โดยนำกีฬามาเป็นสื่อ ภายใต้ความร่วมมือของสองประเทศ โดยนายวิเซษฐ์ ไทยทองนุ่ม ผู้แทนกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ และนายกสมาคมการกีฬาแห่ง จ.นราธิวาส ซึ่งมีนายทศพล สวัสดิสุข รองผู้ว่าราชการ จ.นราธิวาส มาร่วมเป็นประธานเปิดพิธี รองผู้บังคับการหน่วยเฉพาะนราธิวาส และผู้ใหญ่หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ร่วมเป็นเกียรติ

โครงการฯ ได้กำหนดจัดขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติ และแสดงความจงรักภักดี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ในรัชกาลที่ 10 และส่งเสริมให้ประชาชนออกกำลังกายมีสุขภาพกายใจที่แข็งแรง พร้อมทั้งส่งเสริมภาพลักษณ์เมืองน่าท่องเที่ยวที่เชิญชวนให้มาเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจภายในจังหวัดนราธิวาส ภายใต้การสนับสนุนของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ นายวิเซษฐ์ ไทยทองนุ่ม ผู้แทนกองทุนกล่าวว่า นราธิวาสมีศักยภาพและมีความพร้อมสามารถเป็นโมเดลเมืองกีฬา พร้อมสนับสนุนผลักดันผ่านสามคมการกีฬาแห่งจังหวัดนราธิวาสต่อไป

ในส่วนเส้นทางการปั่นในครั้งนี้ เริ่มต้น อ.สุไหงโกลก ไปยังด่านบูเกะตาเข้าสู่อำเภอยือลี รัฐกลันตัน ร่วมทำกิจกรรมปลูกต้นไม้และพักตามอัธยาศัยที่ตลาดยือลี รวมระยะทางการปั่นไปกลับทั้งสิ้น 96 กิโลเมตร 

นายวิเซษฐ์ ไทยทองนุ่ม ผู้แทนกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ และนายกสมาคมการกีฬาแห่ง จ.นราธิวาส จังหวัดนราธิวาส ได้กล่าวว่า ภายใต้ความร่วมมือของทุกฝ่ายพร้อมเปิดบ้าน และสร้างความมั่นใจในการเปิดพื้นที่ให้นักท่องเที่ยว ได้กลับมาชื่นชมบรรยากาศ และสิ่งสวยงามที่พร้อมให้มวลชนมาเยี่ยม สร้างมิตรไมตรี ที่ผู้คนพร้อมต้อนรับนักปั่นเกือบ 2000 ชีวิตที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียนชี้แจงกรณีเกิดเหตุระเบิดในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ขอเรียนชี้แจงถึงความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุระเบิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ดังนี้ 

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในวันนี้ (22 ส.ค. 65) เวลาประมาณ 08.30 น. โดยทาง สภ.จะแนะ จว.นราธิวาส ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายไม่ทราบชื่อและจำนวนได้ก่อเหตุปาระเบิดและใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงใส่เจ้าหน้าที่ทหารพาน ขณะปฎิบัติหน้าที่ตั้งจุดตรวจจุดสกัดบริเวณหน้าฐานปฏิบัติการ บ้านมะนังกาแยง อ.จะแนะ จว.นราธิวาส เป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่อาสาทหารพราน(อส.ทพ.)บาดเจ็บจำนวน 1 ราย และ เสียชีวิตจำนวน 1 ราย  ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลในพื้นที่และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง  จากนั้นพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ EOD และเจ้าหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องจะได้ร่วมกันทำการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทำการพิสูจน์ทราบหาตัวคนร้ายเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้มีนโยบายในการรักษาความสงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยอาศัยความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ภาครัฐและประชาชน ในการสอดส่องดูแลพื้นที่ชุมชนและสร้างเกราะป้องกันให้กับชุมชน รวมถึงหาข้อมูลในเชิงรุกเพื่อเป็นการป้องกันเหตุไปพร้อมกัน หากเกิดสถานการณ์ขึ้นก็ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี และเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ต่อไป

แม่ทัพภาคที่ 4 มอบรางวัลการประกวดการแต่งกายชุดท้องถิ่นมลายู และการประกวดซุ้มประตู “ปีตูฆีรบาน”(PINTU GERBANG) ของชาวอำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส

ที่ ศาลาประชาคมอำเภอรือเสาะ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานในพิธี และมอบรางวัลแก่ผู้ชนะประกวดซุ้มประตู 'ปีตูฆีรบาน' (PINTU GERBANG) และการประกวดการแต่งกายชุดมลายูประจำถิ่นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ห้วงเดือนรอมฎอน ฮ.ศ. 1444 จัดโดยหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 ร่วมกับ อำเภอรือเสาะ ร่วมจัดกิจกรรมประกวดซุ้มประตู 'ปีตูฆีรบาน' (PINTU GERBANG) และการประกวดการแต่งกายชุดมลายูประจำถิ่นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ห้วงเดือนรอมฎอน ฮ.ศ. 1444 ในพื้นที่ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ครั้งที่ 1 / 2566 ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวม 100,000 บาท เพื่อเป็นการสนับสนุนการแสดงออกถึงความเป็นอัตลักษณ์และการรักษาอัตลักษณ์ ของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายมลายูในพื้นที่อย่างสร้างสรรค์ ด้วยการจัดให้มีการประกวด เพื่อสื่อให้ถึงความสวยงามของการแต่งกาย

รวมถึงความสวยงามของสิ่งปลูกสร้างที่ผสมผสานศิลปะวัฒนธรรมที่มีความสำคัญเชิงอัตลักษณ์ของพี่น้องมุสลิมในพื้นที่ชายแดนใต้ สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่น และถือเป็นประเพณีปฏิบัติกันมาอย่างยาวนาน ว่าในช่วงเดือนรอมฎอน เยาวชนและคนหนุ่มสาวในแต่ละหมู่บ้านจะร่วมแรง ร่วมใจ และรวบรวมกำลังทรัพย์ สามัคคีช่วยกันสร้างซุ้มประตู “ปีตูฆีรบาน” ขึ้นมาในพื้นที่หมู่บ้านตนเอง สร้างความภาคภูมิใจในความเป็นอัตลักษณ์มลายู และยังเป็นการสืบสานประเพณีวัฒนธรรมสู่ชนรุ่นหลังให้ร่วมกันสืบทอดต่อไปอีกด้วย ภายใต้การสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐร่วมทุกภาคส่วนในพื้นที่ โดยมี นายปรีชา  นวลน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส, พลตรี เฉลิมพร  ขำเขียว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส, นายณัฏฐ์กร  บุญโรภาคย์ นายอำเภอรือเสาะ, พันเอก สิทธิชัย  บำรุงเขต ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 พร้อมด้วย ส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนที่ร่วมกันแต่งกายด้วยชุดมลายูเข้าร่วมในกิจกรรมเป็นจำนวนมาก

สำหรับประชาชนผู้ได้รับรางวัลในกิจกรรมประกวดซุ้มประตู “ปีตูฆีรบาน” (PINTU GERBANG) มีชุมชนเข้าร่วมประกวดจำนวน 9 ตำบล จำนวน 71 ซุ้ม ชิงเงินรางวัลรวม 100,000 บาท สำหรับรางวัลชนะเลิศ เงินรางวัล 30,000 บาท ได้แก่ มัสยิดกาจอปอรี บ้านบริจ๊ะ หมู่ที่ 7 ตำบลลาโละ รางวัลรองชนะเลิศลำดับที่ 1 ได้แก่ มัสยิดฮีดายาตุลมุสลีมีน บ้านบาโงกือมา หมู่ที่ 1 ตำบลสาวอ รางวัลรองชนะเลิศลำดับที่ 2 ได้แก่ มัสยิดดารุลนาอีม บ้านเจาะกือเเยง หมู่ที่ 9 ตำบลสามัคคี และมอบรางวัลชมเชยอีก จำนวน 9 รางวัล  และการประกวดการแต่งกายชุดมลายูประจำถิ่นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ชิงเงินรางวัลรวม 52,000 บาท ผู้ชนะการประกวดรางวัลชนะเลิศ ได้รับเงินรางวัล จำนวน 5,000 บาท 2 รางวัล, รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 1 ได้รับเงินรางวัลจำนวน 4,000 บาท 2 รางวัล, รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 2 ได้รับเงินรางวัล 3,000 บาท 2 รางวัล และรางวัลชมเชย ได้รับเงินรางวัล จำนวน 1,000 บาท 28 รางวัล ซึ่งรางวัลทั้งหมดมอบโดย แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมรับใบประกาศนียบัตร และถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญตำรวจปลายด้ามขวาน เร่งรัดคดีคนร้ายลอบยิงตำรวจภูธรรือเสาะ เสียชีวิต

วันนี้ (10 ก.พ.67) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ ผบ.ศปก.ตร.สน.  พร้อมด้วย พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ. 9 , พล.ต.ต.นพศิลป์  พูลสวัสดิ์  รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.พิทักษ์  อุทัยธรรม  รอง ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. , พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รอง ผบช.ตชด./รอง ผบ.ศปก.ตร.สน. , พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รอง ผบช.ภ.9 พร้อมส่วนเกี่ยวข้องลงพื้นที่สถานีตำรวจภูธรรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีคนร้ายลอบยิง จ.ส.ต.บินหลี เศรษฐสุข ผบ.หมู่ (ป) สภ.รือเสาะ เสียชีวิต เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา พร้อมมอบสิ่งของบำรุงขวัญ และแนะนำแนวทางในการปฏิบัติแก่ข้าราชการตำรวจ สถานีตำรวจภูธรรือเสาะ

โดยในการประชุม พล.ต.ท.สำราญ ได้นำความห่วงใยของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ที่ให้ความสำคัญต่อกำลังพล พร้อมรับฟังปัญหาข้อขัดข้องและความต้องการของหน่วย โดยเน้นย้ำการปฏิบัติในการจัดเวรยาม เฝ้าที่พักพิจารณาให้เหมาะสม ไม่ควรนำผู้ที่พักอยู่ด้านนอกมาเข้าเวรที่พัก , หัวหน้าหน่วยต้องให้ความสำคัญความปลอดภัยโดยเฉพาะหน่วยที่ตั้ง และที่พักอาศัย วางมาตรการป้องกันโดยเฉพาะเส้นทางเข้า-ออกให้ดี , กำชับผู้ใต้บังคับบัญชาต้องมีความระมัดระวังในการใช้ชีวิตส่วนตัว เนื่องจากกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบจะเฝ้าสังเกตอยู่เสมอและจะลงมือหากมีโอกาส , หัวหน้าหน่วยต้องนำบทเรียนการรบ ในแต่ละเหตุการณ์ไปสอนและกำชับการปฏิบัติของผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อให้ทราบยุทธวิธีของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบกระทำต่อหน้าที่ พร้อมให้กำลังใจข้าราชการตำรวจทุกนายในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง อย่าเสียขวัญและกำลังใจในการปฎิบัติหน้าที่

จากนั้น พล.ต.ท.สำราญ ได้เดินทางต่อไปยัง่ตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส เพื่อประชุมติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าว พร้อมกับมอบเงินสวัสดิการตำรวจแก่ข้าราชการตำรวจที่ได้บาดเจ็บ และญาติของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมกำชับแนวทางการปฏิบัติต่อกำลังพลในพื้นที่ให้มีความเข้มแข็ง ไม่สร้างเงื่อนไขในพื้นที่ สามารถเป็นที่พึ่งของประชาชน

นราธิวาส-นายกฯ เศรษฐา บินลงใต้ พบนายกฯ มาเลเซีย ร่วมหารือแนวทางเพิ่มปริมาณการค้า และความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน มุ่งส่งเสริมความเชื่อมโยง พัฒนาเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว

วันนี้ (3 สิงหาคม 2567) เวลา 10.30 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส หารือ ดาโตะ เซอรี อันวาร์ บิน อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยในเวลา 11.25 น. นายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายได้พบหารือกันที่ ด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก โดยนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยสาระสำคัญจากการหารือ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การลงพื้นที่ร่วมกันครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน (Common Peace and Prosperity) และแสดงให้เห็นถึงความเป็นเอกภาพ ความจริงจังและเจตนารมณ์ทางการเมืองของผู้นำทั้งสองประเทศในการร่วมมือกันเพื่อรักษาความสงบในบริเวณชายแดน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณมาเลเซียสำหรับการขับเคลื่อนความร่วมมือ ผ่านการจัดประชุมคณะทำงานด้านการค้าชายแดน และการค้าการลงทุน และหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะได้ร่วมกันจัดประชุมคณะทำงาน working group ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองประเทศจะหารือกันในกรอบความร่วมมือ JC และ JDS พร้อมกันนี้ ทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมกันในความร่วมมือเกี่ยวกับสินค้าและมาตรฐานฮาลาลระหว่างทั้งสองประเทศเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน

ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือเพื่อความร่วมมือในการขุดลอกแม่น้ำโก-ลก ที่ตื้นเขิน ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วม โดยฝ่ายมาเลเซียขอความช่วยเหลือ ในการหารือนายกรัฐมนตรีได้แจ้งว่าจะสั่งการกระทรวงการต่างประเทศจัดการประชุมร่วมกับ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อพิจารณาความร่วมมือต่อไป

ในช่วงท้ายของการหารือนายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายรับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างสะพานคู่ขนานสุไหงโก-ลก ก่อนจะเดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย ซึ่งทางนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเป็นเจ้าภาพในการเลี้ยงอาหารกลางวัน และนายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีมาเลเซียสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่นถือเป็นเครื่องสะท้อนว่าทั้งสองประเทศมีมิตรภาพที่แน่นแฟ้น สะพานคู่ขนานสุไหงโก-ลกจะอำนวยความสะดวกให้ประชาชนของทั้งสองประเทศได้เป็นอย่างดี เป็นโอกาสที่ได้หารือกันเรื่องเขตการค้าพิเศษระหว่างกัน นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าการหารือในครั้งนี้จะเป็นโอกาสด้านการค้าการลงทุนระหว่างกัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะเดินทางกลับมายังพื้นที่นี้อีกครั้งหนึ่งเพื่อชื่นชมพัฒนาการที่เกิดขึ้น

ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส

นราธิวาส-แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุลอบวางระเบิดและกราดยิงในพื้นที่ จ.นราธิวาส เด็กและประชาชนบาดเจ็บหลายราย

วันที่ (21 เม.ย. 68) พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุความไม่สงบในจังหวัดนราธิวาส หลังเกิดเหตุลอบวางระเบิดบริเวณสถานีตำรวจภูธรโคกเคียน และเหตุกราดยิงในพื้นที่บ้านฆอเลาะทูวอ อำเภอแว้ง ส่งผลให้เด็กและประชาชนได้รับบาดเจ็บรวมหลายราย

เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2568 เวลาประมาณ 18.45 น. คนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณริมกำแพงหลังแฟลตตำรวจ สภ.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส แรงระเบิดส่งผลให้เด็กและเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 10 ราย รวมถึงเด็กนักเรียนอายุระหว่าง 3-13 ปี ซึ่งเป็นบุตรหลานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะกำลังเดินทางไปเรียนอัลกุรอ่าน เจ้าหน้าที่ได้เร่งช่วยเหลือผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ และโรงพยาบาลกัลยาณิวัฒนาการุณย์

จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า คนร้ายใช้รถจักรยานยนต์พ่วงข้างประกอบระเบิดแสวงเครื่องมาวางไว้บริเวณหลังรั้วแฟลต และหลบหนีไปก่อนก่อเหตุโดยมีการบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์อย่างเร่งด่วน

นอกจากนี้ ในพื้นที่อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส ยังเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดกราดยิงใส่ประชาชนที่กำลังนั่งรับประทานอาหารหน้าบ้านเลขที่ 229/11 บ้านฆอเลาะทูวอ หมู่ที่ 7 ต.แว้ง ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแว้งและโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก เพื่อรับการรักษา

ด้านภรรยาของ ดาบตำรวจ อนุชา ศรีสุวรรณ์ หนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว เปิดเผยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “เมื่อทราบข่าวว่าสามีของตนได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์คนร้ายกราดยิง ตนตกใจและแอบกลัวว่าสามีจะเกิดอันตราย ตนและลูกจึงได้รีบเดินทางมายังโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก เพื่อติดตามอาการของสามี และเมื่อทราบว่าอาการของสามีได้พ้นขีดอันตรายก็รู้สึกโล่งใจ พร้อมทั้งแสดงความหวังว่าเหตุการณ์รุนแรงในพื้นที่ชายแดนใต้จะยุติลงเสียที โดยอยากให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน พูดคุยปรองดองกัน หยุดความรุนแรง เพราะแม้ว่าเราจะมีวิถีชีวิตหรือความเชื่อที่ต่างกัน แต่เราสามารถอยู่ร่วมกันได้ เพราะเราก็คือคนไทยด้วยกัน อยากให้รักกัน เหมือนที่เคยเป็นมาในอดีต”

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งความรุนแรงที่สร้างความหวาดกลัวและส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้าน แม่ทัพภาคที่ 4 จึงได้กำชับและเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวดและรัดกุมยิ่งขึ้น พร้อมบูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ มาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ร่วมเป็นหูเป็นตา หากพบเบาะแสหรือบุคคลต้องสงสัย สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 โทร. 061-1732999 หรือสายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า โทร. 1341 รวมถึงหน่วยเฉพาะกิจใกล้บ้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อร่วมกันสร้างพื้นที่ปลอดภัยและคืนความสงบสุขให้กับประชาชนทุกคน

ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top