Wednesday, 3 July 2024
งบประมาณ

เปิดงบทำเนียบฯ ทุ่ม 5 แสนรื้อสนามหญ้าตึกไทยฯ โละพรมเก่า ปูพรมขนแกะทอมือราคา 10 ล้าน

หรูหราสุด ๆ !! เปิดงบทำเนียบฯ ปรับปรุงจัดเต็ม รื้อสนามหญ้าหน้าตึกไทยฯ ทุ่มงบ​เกือบ​ 5 แสน​ ปลูกหญ้าพลาสพาลัม​เทียบเกรดสนามกอล์ฟ​ หวังเป็นหน้าเป็นตารับแขกบ้านแขกเมือง​ พร้อมโละพรมเก่าปูพรมขนแกะทอมือมูลค่ากว่า​ 10 ล้าน​ ​ปรับรั้วหลังตึกไทย​หลังทรุดเอน​ ขณะที่สังคายนาระบบปลอดภัย​ไซเบอร์ 58 ล้าน​สกัดมือแฮกเกอร์​ 

(7 มี.ค. 67) รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า สำนักนายกรัฐมนตรี​ ประกาศสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เรื่องรายการจัดซื้อจัดจ้างของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ประเภทงบรายจ่าย หมวดงบลงทุน ที่จะดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ลงไว้เมื่อวันที่​ 1 มีนาคม​ 2567 จำนวน 12 รายการ​ รวมวงเงิน​ 138 ล้านบาท ประกอบด้วย

1. จ้างเปลี่ยนกระจกหน้าต่างห้องทำงาน ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า วงเงิน 302,300 บาท ด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง ช่วงเวลาดำเนินการ ธันวาคม 2566

2. จ้างปรับปรุงสนามหญ้าบริเวณหน้าตึกไทยคู่ฟ้า วงเงิน 498,352 บาท วิธีเฉพาะเจาะจง เดือนกุมภาพันธ์ 2567 

3. ซื้อครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์ 3 รายการ วงเงิน 4,317,600 บาท ประกาศเชิญชวนทั่วไป มีนาคม 2567

4. ซื้อรถบรรทุก (ดีเซล) ปริมาตรกระบอกสูบไม่ต่ำกว่า 2,900 ซีซี 1 คัน วงเงิน 1,160,000 บาท ประกาศเชิญชวนทั่วไป

5. จ้างพัฒนาปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์รัฐบาลไทย (www.thaigov.go.th) จำนวน 1 งาน ราคา 5 ล้านบาท ประกาศเชิญชวนทั่วไป มีนาคม 2567 

6. จ้างทอพรมทอมือ เส้นใยขนแกะ 100% พร้อมติดตั้ง 9 ผืน วงเงิน 10,557,200 บาท ประกาศเชิญชวนทั่วไป มีนาคม 2567

7. จ้างพัฒนาระบบสำนักงานดิจิทัล (Digital Office) 1 ระบบ วงเงิน 11,739,200 บาท ประกาศเชิญชวนทั่วไป เมษายน 2567 

8. ซื้อระบบบริหารจัดการ DNS,DHCP และ IP Address Management พร้อมติดตั้ง 1 ระบบ วงเงิน 8,560,000 บาท ประกาศเชิญชวน เมษายน 2567

9. จ้างพัฒนาระบบบริหารจัดการผู้ใช้งานแบบรวมศูนย์ (Single Sign-on) 1 ระบบ วงเงิน 3,164,100 บาท ประกาศเชิญชวน เมษายน 2567 

10. ซื้อครุภัณฑ์ในการพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) พร้อมติดตั้ง 1 ระบบ 58 ล้านบาท ประกาศเชิญชวนทั่วไป เมษายน 2567

11. จ้างติดตั้งระบบดูดอากาศตรวจจับควัน แบบระบุตำแหน่งได้ ของอาคารตึกไทยคู่ฟ้า 1 ระบบ วงเงิน 32,100,000 บาท ประกาศเชิญชวนทั่วไป เมษายน 2567 

12. จ้างปรับปรุงรั้วริมคลองหลังตึกไทยคู่ฟ้า 1 งาน วงเงิน 2,869,000 บาท ประกาศเชิญชวนทั่วไป เมษายน 2567 

ประกาศรายการจัดซื้อจัดจ้างของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ประเภทงบรายจ่าย หมวดงบลงทุน ที่จะดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เป็นไปตามแนวทางของสํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สํานักงาน ปปช.) ที่ได้กําหนดแนวทางการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดําเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment : ITA) การเปิดเผยข้อมูลสาธารณะ Open Data Integrity and Transparency Assessment (OIT) ให้หน่วยงานของรัฐแสดงรายการการจัดซื้อจัดจ้างหรือการจัดหาพัสดุ

สํานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จึงขอประกาศรายการการจัดซื้อจัดจ้างของสํานักเลขาธิการ นายกรัฐมนตรี ประเภทงบรายจ่าย หมวดงบลงทุน ที่จะมีการดําเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ดังกล่าว

โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า​การปรับปรุง​สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า​ รวมไปถึงส่วนต่าง ๆ​ เป็นไปตามแผนงานปรับปรุง​ภูมิ​ทัศน์ภายในทำเนียบรัฐบาล​ เนื่องจากทรุดโทรมตามอายุการใช้งาน​ เป็นหลุมเป็นบ่อ​ สนามหญ้าเสื่อมสภาพ​ และทำเนียบรัฐบาลถือเป็นสถานที่ไว้สำหรับรับแขกบ้านแขกเมืองต่างประเทศ รวมไปถึงรัฐพิธีต่าง ๆ จึงจำเป็นต้องปรับปรุงเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยและสมเกียรติ

ส่วนการจัดซื้อจัดจ้างขนแกะทอมือ 100% ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดซื้อจัดจ้าง โดยสเปคเป็นไปตามของเดิม ส่วนที่ต้องมีการเปลี่ยนเนื่องจากเสื่อมตามสภาพอายุการใช้งาน ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นคำสั่งของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แต่เป็นไปตามแผนงานเดิมที่มีอยู่แล้ว ส่วนรั้วบริเวณหลังตึกไทยคู่ฟ้า จำเป็นต้องมีการปรับปรุงเนื่องจากพื้นทรุด ทำให้รั้วเกิดการเอียง โดยงบประมาณทั้งหมด ได้มีการเสนอตามขั้นตอนและผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร เรียบร้อยแล้ว

สำหรับการปรับปรุงสนามหญ้าบริเวณด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นั้น จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 13 มี.ค. 2567 ก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับจากการไปปฏิบัติภารกิจที่ยุโรป ซึ่งในรัฐบาลที่ผ่านมา ได้ซ่อมแซมสนามสนามหญ้าเพียงในส่วนที่เสียหาย แต่ไม่ได้รื้ออัดดิน และทำใหม่ โดยใช้หญ้าพันธุ์พาสพาลัม ที่นิยมปลูกในสนามกอล์ฟ เป็นพืชในตระกูลหญ้าที่ใช้แพร่หลายไปทั่วเอเชีย แอฟริกา ออสเตรเลีย และอเมริกา ที่รู้จักกันทั่วไปว่าหญ้าพาสพาลัม เป็นหญ้าที่เจริญเติบโตได้ในสภาพอากาศอบอุ่นจนถึงร้อน​ ทนต่อการเหยียบย่ำ ซึ่งแต่เดิมใช้หญ้าพันธุ์​นวลน้อย

'เอกนัฏ' ยัน!! กมธ.งบประมาณฯ พิจารณางบคลังอย่างดีแล้ว  ย้ำ!! งบที่ทุกกรมได้รับแม้จะน้อย แต่จะใช้อย่างมีประสิทธิภาพ 

เมื่อวานนี้ (20 มี.ค.67) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ได้ชี้แจงข้อสงสัยของสมาชิกในการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ วาระ 2 ในส่วนมาตรา 9 ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงการคลังว่า กระทรวงการคลังมีภารกิจสำคัญมากโดยเฉพาะการจัดเก็บรายได้ให้ประเทศ ถ้ากระทรวงการคลังไม่สามารถทำงานตามเป้าหมายได้ เราคงไม่ต้องมีงบประมาณมาพิจารณากันในที่ประชุมแห่งนี้

ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบงบประมาณที่กระทรวงการคลังได้รับกับกระทรวงอื่นถือว่าน้อยมากจำนวน 1.1 หมื่นกว่าล้าน ส่วนหนึ่งเป็นงบที่ตั้งโดยกรมธนารักษ์สำหรับจ่ายค่าเช่าตามมติครม.เกือบ 4 พันล้าน งบที่กรรมาธิการฯ ปรับลดเหลือเพียง 7 พันกว่าล้านเท่านั้น มีทั้งหมด 10 หน่วยงาน เฉลี่ยได้ว่าแต่ละหน่วยงานมีงบประมาณใช้น้อยมาก แต่มีภารกิจสำคัญ ต้องจัดเก็บรายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมาย ตนได้ฟังคำชี้แจงของผู้บริหารกระทรวงการคลัง นอกจากเห็นใจแล้ว ตนการันตีกับทุกคนได้ว่า มั่นใจเข้าใจภารกิจในการทำงานของแต่ละกรมเป็นอย่างดี มีความมั่นใจว่าเป้าหมายในการจัดเก็บที่ตั้งไว้ และการปราบปรามการกระทำผิดสามารถลุล่วงได้อย่างดีแน่นอน

นายเอกนัฏ กล่าวว่า ในการพิจารณากรรมาธิการฯ อาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานมาช่วยกันกลั่นกรองงบประมาณที่เป็นส่วนเกินให้สามารถใช้ได้ทันในปี 2567 โดยหน่วยงานยืนยันไม่กระทบกับภารกิจและเป้าหมายของทุกหน่วยงาน เช่น กรมสรรพสามิตที่ทำภารกิจร่วมกับจเรตำรวจแห่งชาติได้ปรับลดอากาศยานไร้คนขับที่เติมน้ำมันออกไป ส่วนโดรนที่เหลืออยู่ใช้ระบบไฟฟ้า หน่วยงานยืนยันยังมีความสำคัญต่อภารกิจจึงต้องคงไว้ในงบส่วนนี้

นายเอกนัฏ กล่าวว่า งบของกรมศุลกากรได้มีการปรับลดด่านที่ไม่สามารถทำได้ในปี 2567 รวมถึงกรมธนารักษ์ตั้งงบประมาณมากว่า 4 พันล้าน ก็เป็นงบจ่ายค่าเช่าแทนหน่วยงานราชการทั้งหมดที่มีการเช่าพื้นที่ในศูนย์ราชการ มีการปรับลดงบซื้อเครื่องปั๊มลมสำหรับผลิตเหรียญกษาปณ์ ส่วนสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ สคร.ก็ปรับลดค่าจ้างที่ปรึกษาที่ไม่สามารถดำเนินการได้ทันไปในปี 2567 ออกไปทุกคนช่วยกันเต็มที่ แต่ตนยืนยันว่างบประมาณที่เหลืออยู่มีความจำเป็นมากกับการต้องลงทุนกับระบบของกระทรวงการคลัง งบส่วนมากเป็นการบำรุงรักษาระบบไอที เครื่องคอมพิวเตอร์ งบส่วนมากถูกจัดสรรไปซื้อคอมพิวเตอร์แทนเครื่องเก่า สำหรับกรมสรรพากรและกรมสรรพสามิต ตนขำอยู่ในใจแต่หัวเราะไม่ออก เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้อยู่ปกติแล้ว 7-8 ปี เปลี่ยนครั้งหนึ่ง แต่สำหรับ 2 กรมนี้ใช้งานเกิน 10 ปีจนเป็นตู้ปลา จนลือกันว่าเป็นเป็นพิพิธภัณฑ์

นายเอกนัฏ กล่าวว่า ขอบเขตอำนาจของกรรมาธิการฯมีข้อจำกัด เช่น เรื่องการชำระค่าเช่า 3,976 ล้านของกรมธนารักษ์เป็นไปตามมติครม. ในส่วนของการบริหารจัดการมีประสิทธิภาพคุ้มค่าหรือไม่ อยู่นอกอำนาจของกรรมธิการฯ พิจารณา ถ้าเห็นว่าการปฏิบัติงานโครงการดังกล่าวไม่มีประสิทธิภาพหรือมีปัญหาสามารถไปยื่นเรื่องต่อกรรมาธิการฯ สามัญคณะอื่นๆตรวจสอบ เพื่อให้ทบทวนได้ กรณีของสแตมป์ในกรมสรรพสามิต งบประมาณปี 2567 ล่าช้า มีการจัดสรรงบประมาณให้ใช้พรางก่อนแล้ว 134 ล้านบาทเต็มจำนวน ถ้าจะไปปรับลดจะมีปัญหา แต่ว่าข้อสังเกตของเพื่อนสมาชิกสามารถส่งไปยังกรมสรรพสามิตได้ ถ้ามีเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่จะช่วยทำให้การจัดเก็บมีประสิทธิภาพมากขึ้น การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นทางผู้บริหารไม่ขัดข้องที่จะดำเนินการ

นายเอกนัฏ กล่าวว่า ในส่วนของกรมบัญชีกลาง กรรมาธิการฯพิจารณาในส่วนของงบประมาณเท่านั้น งบส่วนใหญ่ที่ให้กรมบัญชีกลางมีความสำคัญกับการพัฒนาระบบการจัดซื้อจัดจ้างให้ทันสมัย ระบบบล็อกเชนที่ถูกพัฒนาขึ้นมาและใช้ในการจัดซื้อจัดจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ก็ช่วยทำให้การจัดซื้อจัดจ้างมีความโปร่งใส ทำให้ได้รับการยอมรับจากกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างจากองค์กรระหว่างประเทศ เราก็อยากจะสนับสนุนให้ทำมากกว่านี้ แต่ในส่วนการพิจารณาเงื่อนไข หลักเกณฑ์ต่างๆ ไม่ได้อยู่ในอำนาจของกรรมาธิการฯ แต่ก็มีข้อสังเกตไปถึงหน่วยงานหลายเรื่อง เช่น การจัดซื้อจัดจ้างของกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นที่กรรมาธิการฯ มีความกังวลมากว่า จะไม่สามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จภายในปี 2567 ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ เพราะมีความล่าช้าจากเรื่องร้องเรียน หรือ กระบวนการประมูลมีปัญหา ทั้งเรื่องคุณภาพ การฟันราคา การทิ้งงาน สิ่งเหล่านี้เป็นข้อสังเกตที่เราส่งให้หน่วยงานทั้งหมด

“ทั้งหมดเป็นข้อสังเกตที่เราควรตั้งไว้ แล้วเก็บไว้ใช้เป็นประโยชน์ในการพิจารณางบประมาณในปีถัดไป ไม่ว่าจะเป็นโครงการที่มีงบผูกพันโดยมติครม. โครงการที่มีงบผูกพันมาอย่างต่อเนื่องในปีก่อนๆ หรือข้อสังเกตที่สำคัญเป็นการเฉพาะสำหรับปีงบประมาณปี 2567 ที่มีการใช้งบปี 2566 ไปพลางก่อน ส่วนไหนที่เราปรับลดได้โดยไม่กระทบกับภารกิจสำคัญของหน่วยงานเราใช้วิธีการทำความร่วมมือกับทุกหน่วยงานเข้ามายืนยันหมด ส่วนไหนที่ซ้ำซ้อนหรือบางส่วนก็เลื่อนออกไปเพื่อตั้งงบประมาณดำเนินการในปี 2568 -2569 อย่างไรก็ตามขอยืนยันต่อเพื่อนสมาชิกว่ากรรมาธิการฯได้พิจารณางบประมาณในส่วนของกระทรวงการคลังอย่างดีแล้วจึงขอยืนตามมติของกรรมาธิการฯ” นายเอกนัฏ กล่าว

'อัครเดช' ยัน!! 'รทสช.' พร้อมใจหนุนร่างกฎหมายงบประมาณฯ ซัดผู้ไม่หวังดี ปล่อยข่าวคว่ำงบฯ เพียงเพื่อหวังผลทางการเมือง

(22 มี.ค. 67) ที่รัฐสภา นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์กรณีมีข่าวจะมีการคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท ว่า เป็นการปล่อยข่าวจากผู้ไม่หวังดี ต้องการสร้างความปั่นป่วนและหวังผลทางการเมือง หวังให้เกิดผลกระทบต่อรัฐบาล ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ ขอยืนยันว่าจะลงมติผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ อย่างพร้อมเพรียงกัน เนื่องจากเป็นมติพรรคออกมาแล้ว เพราะเห็นว่างบประมาณมีความจำเป็นต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและขับเคลื่อนประเทศ

นายอัครเดช กล่าวว่า อยากให้คนที่ปล่อยข่าวออกมาหยุดพฤติกรรมลักษณะนี้ได้แล้ว เพราะไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติโดยรวม การเมืองควรจะพักเอาไว้ก่อนเวลานี้ประเทศชาติต้องเดินไปข้างหน้า ที่ผ่านมาประเทศและประชาชนรอคอยงบประมาณเพื่อนำงบประมาณออกมาใช้มาพัฒนาประเทศ และขับเคลื่อนภาคส่วนต่าง ๆ แต่กลับมีการปล่อยข่าวในวันที่จะลงมติ จึงขอย้ำว่าให้หยุดการกระทำเพราะไม่มีประโยชน์อะไร

“พรรครวมไทยสร้างชาติขอยืนยันอีกครั้งจะสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ อย่างเต็มที่ และพรรคร่วมรัฐบาลพร้อมสนับสนุน คนที่ปล่อยข่าวคงจะหวังผลทางการเมืองหวังสร้างความปั่นป่วนและสร้างความแตกแยกในรัฐบาล แต่จะไม่เป็นผล เพราะถึงอย่างไรงบประมาณก็จะผ่านสภาฯ อยู่แล้ว ขอให้ประชาชนมั่นใจได้” โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าว

‘แก้วสรร’ ชี้ แจกเงินดิจิทัล ‘ทรยศ-ลวงโลก’ แจง!! เป็นเงินเดิมในวงจรอยู่แล้ว ฟาด!! รบ.ไม่เร่งผ่านงบ ซ่อนเจตนาให้เงินเหลือจ่าย เพื่อเอาใส่ในโครงการ

(5 พ.ค.67) นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ เผยแพร่บทความ โครงการแจกเงินดิจิตอล : ทรยศและลวงโลก ? มีเนื้อหาดังนี้

ถาม การแจกเงินชาวบ้านคนละ 1 หมื่น   จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงไหม?
ตอบ คุณเป็นโรคขาดเลือด เพราะไขสันหลังไม่ทำงานผลิตเม็ดเลือดแดงให้เพียงพอ พอเม็ดเลือดแดงมีน้อย การขนส่งออกซิเจน กับธาตุอาหาร ไปยังเซลล์ต่างๆทั่วร่างกายก็ไม่เพียงพอตามไปด้วย   ร่างกายก็เสื่อมทรุดถึงตายได้ในที่สุด     
นี่คือ ‘วิกฤต’ ที่พรรคเพื่อไทย ยืนยันว่าเกิดขึ้นแล้ว  ต้องเร่งเติมเงินเติมเลือดเข้าไปโดยด่วน 

ถาม แล้วมันสมเหตุผลหรือไม่
ตอบ นักวิชาการเขาก็ยังเถียงกันอยู่  แต่ที่ฟังแล้วผมเห็นด้วยเลยนั้น ก็คือความเห็นที่ว่า งานนี้ คนไข้ขาดเลือด ก็ต้องเอาเลือดใหม่เข้ามาเติม ไม่ใช่ดูดเลือดจากแขนซ้าย ไปอัดใส่แขนขวาแบบนี้   ทำอย่างนี้มันไม่ใช่การเติมเม็ดเลือดใหม่ให้ร่างกาย   มันไม่มีผลสร้างสุขภาพใหม่ขึ้นมาได้

ถาม มันเป็นการดูดเลือดแขนซ้ายไปใส่แขนขวา ยังไงครับ
ตอบ คือที่มาของเงินแจกในครั้งนี้  มันเป็นเงินเดิมเลือดเดิมที่มีในวงจรเศรษฐกิจอยู่แล้ว  อยู่ในงบประมาณ ปี 2567 และ 2568 รวมกว่า 3.7 แสนล้าน และถ้าเอามาจาก ธกส.จริงอีก 1.3 แสนล้าน วงเงินก้อนนี้ก็เป็นเงินที่ ธกส.เขามีและจะให้กู้ช่วยการประกอบการของเกษตรกรอยู่แล้ว  มันจึงไม่ใช่เลือดใหม่อะไรทั้งสิ้น

ถาม เหตุผลเพียงเท่านี้ ก็ไปหาว่าเขาทุจริตลวงโลก เลยเชียวหรือ
ตอบ มันไม่ใช่ ‘เพียงเท่านี้’ นะครับ  คุณไม่เห็นหรือว่า   มันมีการละเว้นหน้าที่  ไม่เร่งรัดผ่านงบประมาณ ปี 2567 เช่นที่ควรจะเป็น  งบปี 67 พึ่งประกาศราชกิจจา ในพฤษภาคม นี้เอง    มีเวลาใช้งบลงทุนเหลืออยู่แค่ 6 เดือน เท่านั้น รับรองว่าผูกมัดหาคู่สัญญาไม่ทันแน่นอน พอพ้นตุลาไปแล้ว ใช้มติ ครม.ผลักเงินที่เหลือจ่าย เข้าโครงการดิจิตอลได้ทั้งหมดเลย

ถาม อาจารย์กล่าวหาว่า เขามีเจตนาประวิงให้งบประมาณ ปี 67 ผ่านล่าช้าเลยเชียวหรือ
ตอบ ถ้าสุจริต ก็ควรต้องเร่งรัดได้เร็วกว่านี้    เป็นรัฐบาลเมื่อ กันยายน 2566   ก็ควรเปิดสภาวิสามัญลุยผ่านงบให้เสร็จได้ในสิ้นธันวา ก็ไม่ทำ   เอื่อยเฉื่อยไปเรื่อยๆ จนเวลาหายไปอีก  4 เดือน วันนี้เหลือเวลาเพียง ๖ เดือนเท่านั้น

ถาม ให้ทุกส่วนราชการเร่งใช้ เร่งหาคู่สัญญามาผูกมัดงบประมาณให้หมด ไม่ได้หรือ
ตอบ ผมถามพรรคพวกในกระทรวงคลังแล้ว เขาบอกว่าไม่มีทางทัน   และที่สำคัญเขาไม่เห็นมาตรการเร่งรัดเช่นที่ควรจะเป็นเลย  

ถาม รัฐบาลที่รู้งาน ควรจะเร่งรัดอย่างไร
ตอบ ถ้าสุจริตตรงไปตรงมาจริงๆ   ต้องมีมติ ครม.โดยพลัน วางมาตรการเร่งรัด เอาไปใช้บังคับในงบทุกรายการ ทุกส่วนราชการเลย   ขั้นตอนหาคู่สัญญาที่ไม่จำเป็นก็ใช้มติ ครม.ยกเว้นเสียให้หมด   ทุกรายการงบประมาณต้องมีแผนปฏิบัติการผูกมัดงบประมาณ เห็นเป็นแผนเวลาชัดเจน  โดยต้องรายงานทุกเดือนว่าคืบหน้าตามแผนหรือไม่  ถ้าล่าช้าต้องรายงานพร้อมเสนอมาตรการแก้ไขมาด้วย   

ถาม แล้ววันนี้ เขาไม่เร่งกันเลยหรือครับ
ตอบ เพื่อนผมบอกว่า   ดีไม่ดีน่าจะแอบส่งสัญญาณห้ามเร่งรีบซะด้วยซ้ำไป คุณดูอาการในงบกระทรวงคมนาคมให้ดีๆก็แล้วกัน

ถาม ถ้าเตะถ่วงได้เต็มที่จริงๆ เงินจะเหลือพอโครงการดิจิตอลไหม
ตอบ เขาพูดกันว่า  เหลือได้ถึง 3 แสน เลยทีเดียว เติมงบกลางอีกหน่อย  ก็ไม่ต้องไปกู้ ธกส.หรอกครับ

ถาม หมายความว่า  ที่รัฐบาลบอกจะกู้ ธกส.1.3๓ แสนล้านนั้น มันเป็นโคมลอย ที่หลอกให้ผู้คนหลงทางโจมตีกันไป อย่างนั้นหรือ
ตอบ ครับ เป็นไปได้อย่างยิ่ง ผมดูทีมรัฐมนตรีเศรษฐกิจชุดใหม่นี่ เขามีดีเอ็นเอ เดียวกันทั้งนั้น  สามารถจะร่วมมือกันดึงงบได้ดีทีเดียว

ถาม ถ้าเป็นจริงอย่างที่เราสงสัย  พฤติการณ์จงใจใช้งบล่าช้าเพื่อแปลงงบแผ่นดินเป็นงบดิจิตอลอย่างนี้  จะมีความผิดหรือไม่ครับ
ตอบ เป็นการละเว้นไม่ปฏิบัติราชการโดยสุจริต มุ่งประโยชน์ทางการเมืองที่มิควรได้ ทำให้เศรษฐกิจบ้านเมืองเสียหายงบแผ่นดินไม่ถูกเร่งผลักดันออกมาใช้ในเวลาอันควร จนบ้านเมืองขาดเงินหมุนเวียนเป็นแสนล้านกว่า ๖ เดือน    

ถาม ฟังดูเหมือน ปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต นะครับ
ตอบ ในทางกฎหมายยังเถียงกันได้ แต่ในทางการเมือง ถูกตราหน้าว่า ‘ลวงโลก’ และ ‘ทรยศต่อหน้าที่’ ได้แน่นอน    
ก็ไม่เป็นไรครับ....บ้านนี้เมืองนี้ ‘ประชาชน’ มีไว้หลอกลวงและป้อนอาหารเม็ดอยู่แล้ว

เหตุใด? ‘สส.’ ถึงตัดงบฯ สำหรับ ‘เขาพังไกร’ จ.นครศรีธรรมราช หลังสัญญาจะปรับภูมิทัศน์-สร้างวิหารครอบรอยพระพุทธบาท

ผมก็งงว่า…ทำไมงบประมาณในการปรับภูมิทัศน์บนเขาพังไกร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเสนอโดยองค์การพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยว (อพท.) ถึงถูกตัดออกไปในงบประมาณปี 67

ถูกตัดในชั้นกรรมาธิการพิจารณางบประมาณ และผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎรให้ตัดงบก้อนนี้ออกไป

เขาพังไกร ตั้งอยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง และ อพท.รับไว้เป็นพื้นที่พัฒนาพิเศษ แต่เมื่อมีการเสนอของบประมาณเพื่อปรับภูมิทัศน์บนเขาพังไกร กลับไม่ได้รับความใส่ใจจากสภาผู้แทนราษฎร ตัดงบทิ้งเฉย ซึ่ง #นายหัวไทร ไม่รู้ถึงเหตุผลในการตัด การชี้แจงของหน่วยงานเสนอของบกรรมาธิการงบฯ เข้าใจหรือเปล่า

กล่าวถึง ‘เขาพังไกร’ ต้องมีตำนานผูกโยงกับช้างแน่นอน เพราะมีคำว่า ‘พัง’ หมายถึงช้างตัวเมีย นครศรีธรรมราช มีเรื่องของช้างหลายเชือก เช่น พลายจำเจิญ พลายดำ ช้างตัวเมียเชือกหนึ่งมาล้มที่เขาพังไกร จึงตั้งชื่อชุมชนย่านนี้ว่า ‘เขาพังไกร’

เขาพังไกร ยังมีจุดชมวิวและมีรอยพระพุทธบาทจำลอง ที่ตั้งบนยอดเขาพังไกร สามารถชมทิวทัศน์ได้ 360 องศา จึงเป็นจุดขายทางด้านการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะสร้างรายได้ให้กับคนท้องถิ่นเป็นอย่างมาก เหมาะแก่การพัฒนา และยกระดับเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของอำเภอ พร้อม ๆ กับการศึกษาเรียนรู้วิถีเกษตร แหล่งทำนาใหญ่ของอำเภอหัวไทร

ตามประวัติศาสตร์การปกครอง เขาพังไกรเคยเป็นที่ตั้งของอำเภอ แต่ต่อมาได้ย้ายไปตั้งที่หัวไทรในปัจจุบัน ‘เขาพังไกร’ ประวัติศาสตร์ได้จารึกไว้ว่า ราวปลายกรุงสุโขทัย ตำบลเขาพังไกรขณะนั้นนับเป็นเมืองที่เก่าแก่เมืองหนึ่ง ซึ่งมีความเจริญทางด้านการเกษตรกรรมและการเลี้ยงสัตว์ ซึ่งถือเป็นอู่ข้าวอู่น้ำในสมัยนั้น จนมาถึงปัจจุบันพื้นที่ ต.เขาพังไกร ก็ยังเป็นแหล่งปลูกข้าวขนาดใหญ่และมีคุณภาพดีที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้ เป็นดินแดน 2 ลุ่มน้ำคือลุ่มน้ำปากพนังและลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา จึงมีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก 

เขาพังไกรมีอัตลักษณ์การดำรงวิถีชีวิตชาวนาไทยอย่างชัดเจน มีข้าวสายพันธุ์ท้องถิ่นที่ยังมีการปลูกกันอยู่ เช่น ข้าวไข่มดริ้ว ส้มโอทับทิมสยามก็เริ่มขยายพื้นที่ปลูกจากปากพนังมาถึงหัวไทร มาถึงเขาพังไกรแล้ว

เขาพังไกร โดยเฉพาะบนเขาพังไกร จึงเหมาะสมอย่างยิ่งในการพัฒนา ยกระดับเป็นแหล่งท่องเที่ยว และเชื่อมโยงกับชุมชน ส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวิถีชีวิตและประเพณีจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวและร่วมกิจกรรมที่ชุมชนร่วมจัดขึ้น สร้างงานสร้างรายได้ให้กับพื้นที่ภายใต้การดูแลของ อพท.และท้องถิ่น

รัฐมนตรีท่องเที่ยวและกีฬา (สมัยที่ผ่านมา) พิพัฒน์ รัชกิจประการ เคยเดินทางขึ้นไปร่วมกิจกรรมบนเขาพังไกรมาแล้ว และเคยรับปากจะช่วยผลักดันโครงการปรับภูมิทัศน์และสร้างวิหารครอบรอยพระพุทธบาทมาแล้ว

ผมเองได้ขึ้นไปกราบรอยพระพุทธบาทบนเขาพังไกรมาแล้วสองครั้ง เพิ่งไปมาเมื่อไม่นานมานี้เอง และเพิ่งรู้ว่าบนเขาพังไกรมารอยพระพุทธบาท และรู้สึกตื่นตาตื่นใจเมื่อได้ไปสัมผัสกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม เห็นท้องนาเขียวขจียืนต้นขนานไปกับต้นตาลสูงเด่นเป็นสง่า

แต่น่าเสียดายโครงการปรับภูมิทัศน์และสร้างวิหารครอบรอยพระพุทธบาทบนเขาพังไกร ถูกตัดทิ้งอย่างไม่ไยดีจากสภาผู้แทนราษฎร ไม่เป็นไรครับ ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น

เรื่อง : นายหัวไทร


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top