Sunday, 8 June 2025
ค่าเงิน

เปรียบเทียบค่าเงินในภูมิภาคเอเชีย ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

เงินบาทยืนหนึ่ง!!

ปัจจุบันเงินบาทอยู่ที่ราว ๆ 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับปลายปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่เกือบ 38 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ 

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นมา เงินบาทแข็งค่าแล้วกว่า 5% แข็งค่าที่สุดในเอเชีย ภายใต้ 3 ตัวแปร ได้แก่…

5 สกุลเงินไหน? ‘มูลค่าต่ำที่สุดในโลก’

ไม่เพียงแค่ ลาว เท่านั้น ที่กำลังเผชิญวิกฤติค่าเงินกีบที่อ่อนค่าลงอย่างหนัก หากแต่ยังมีสกุลเงินอื่น ๆ ตามข้อมูลเมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2566 ที่อ่อนค่าต่ำที่สุดคล้ายกัน และส่วนใหญ่อยู่ในประเทศแถบภูมิภาคอาเซียน ใกล้ประเทศไทยทั้งสิ้น ส่วนจะมีประเทศไหน และแต่ละประเทศมีภูมิหลังของความอ่อนค่าอย่างไร เชิญรับชม... 

1. เรียล ของอิหร่าน (IRR) (1 ดอลลาร์เท่ากับ 42,265 เรียล)
อิหร่านในอดีตเคยเป็นแหล่งอารยธรรมเปอร์เซียอันรุ่งเรือง แต่ในปัจจุบัน อิหร่านถูกคว่ำบาตรจากเหล่าชาติตะวันตก ซึ่งนำโดยสหรัฐ จากการที่อิหร่านพยายามดำเนินโครงการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ การถูกคว่ำบาตรนี้ทำให้อิหร่านขาดรายได้ทางการค้าจากตลาดตะวันตก และชาวต่างชาติทยอยถอนการลงทุนออก

นอกจากนี้ เมื่อปีที่แล้ว อิหร่านยังเผชิญกระแสประท้วงใหญ่ของประชาชนในประเทศ จากเหตุเสียชีวิตของ มาห์ซา อามินี (Mahsa Amini) หญิงชาวเคิร์ดในอิหร่าน วัยเพียง 22 ปี หลังจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยศีลธรรมจับกุม เพราะเธอไม่ได้สวมฮิญาบปกคลุมศีรษะ

2. ด่อง ของเวียดนาม (VND) (1 ดอลลาร์เท่ากับ 24,057 ด่อง)
เวียดนามเป็นประเทศที่ปกครองแบบสังคมนิยม อำนาจรวมศูนย์อยู่ที่รัฐบาลกลาง และเป็นประเทศโตเร็วที่ดึงดูดบรรดาต่างชาติเข้ามาลงทุน

อย่างไรก็ตาม เวียดนามเผชิญวิกฤติสภาพคล่องด้านอสังหาริมทรัพย์ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และรับเหมาก่อสร้างหลายรายผิดนัดชำระหุ้นกู้ บางส่วนเลื่อนการชำระหนี้ออกไป โดยเฉพาะผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อันดับ 2 ของเวียดนาม ‘No Va Land’ ไม่สามารถชำระหุ้นกู้ที่ครบอายุไถ่ถอนเมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2566 ที่ผ่านมา

อีกทั้งเวียดนามยังเผชิญปัญหาหนี้เสียตามมา ที่การผิดนัดชำระหนี้กลุ่มหนึ่ง ได้ทำให้เกิดการผิดนัดต่อเนื่องในกลุ่มอื่น ๆ ตามมา

3. ลีโอน ของเซียร์ราลีโอน (SLL) (1 ดอลลาร์เท่ากับ 19,750 ลีโอน)
เซียร์ราลีโอน ประเทศแถบทวีปแอฟริกาตะวันตก เคยเผชิญสงครามกลางเมืองระหว่างกลุ่มกบฏและรัฐบาลนานกว่า 10 ปีตั้งแต่ปี 2534 มีสตรีหลายพันชีวิตถูกข่มขืนและผู้คนเสียชีวิตเป็นหลักหมื่น อีกทั้งยังเผชิญโรคระบาดอีโบลา ที่คร่าชีวิตผู้คนไปราว 4,000 คนในช่วงปี 2557 ถึง 2558

ปัจจุบัน ค่าเงินของเซียร์ราลีโอนยังไม่ฟื้น เนื่องจากประเทศเผชิญเงินเฟ้อสูงมาตลอด โดยเงินเฟ้อล่าสุดเดือน ส.ค. 2566 สูงถึง 43% กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันค่าเงิน

4. กีบ ของลาว (LAK) (1 ดอลลาร์เท่ากับ 19,725 กีบ)
‘ลาว’ ประเทศบ้านพี่เมืองน้องไทย เกิดวิกฤติเงินกีบอ่อนค่า โดยวันที่ 9 ก.ย. 2566 อยู่ที่ระดับ 1 ดอลลาร์แลกได้ 19,725 กีบ นับเป็นการอ่อนค่าลงราว 25% ในรอบ 1 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญมาจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์สูงขึ้นในช่วงแรกของสงครามรัสเซียกับยูเครน ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์ขาขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ต้นทุนเชื้อเพลิงที่ลาวนำเข้าสูงขึ้นตาม การที่ต้องใช้เงินดอลลาร์เพิ่มขึ้นในการซื้อพลังงาน ทำให้ลาวไม่มีดอลลาร์เพียงพอในการชำระหนี้ต่างประเทศ จนประสบปัญหาขาดดุลทางการค้าในเดือน ก.ค. 2566 สูงถึง 166 ล้านดอลลาร์ สวนทางกับยอดส่งออกที่ค่อนข้างเท่าเดิมหรือลดลง และนั่นก็ทำให้จำนวนหนี้สาธารณะและหนี้ต่างประเทศของลาวพุ่งสูงขึ้น

5. รูเปียห์ ของอินโดนีเซีย (IDR) (1 ดอลลาร์เท่ากับ 15,381 รูเปียห์)
อินโดนีเซีย กำลังเผชิญทุนสำรองระหว่างประเทศที่ลดลง จากเดือน ก.ค. อยู่ที่ 137,700 ล้านดอลลาร์ ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 137,100 ล้านดอลลาร์ในเดือน ส.ค. เพื่อใช้หนี้ต่างประเทศและรักษาเสถียรภาพค่าเงิน

นอกจากนั้น อินโดนีเซียยังมีภาระทางการคลังเพิ่มขึ้นจากโครงการใหญ่อย่าง รถไฟความเร็วสูงมูลค่า 7,300 ล้านดอลลาร์ ความยาว 142 กิโลเมตรระหว่างกรุงจาการ์ตากับเมืองบันดุง วิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งคาดว่าจะเปิดใช้งานได้ในเดือน ต.ค. นี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง หรือ Belt and Road Initiative ของจีน ซึ่งได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศจีนและงบประมาณของรัฐบาลอินโดนีเซีย

‘แบงก์ชาติอินโดนีเซีย’ โดดอุ้ม ‘ค่าเงินรูเปียห์’ จากปัจจัย ‘ทรัมป์’ มีโอกาสเข้าวิน ปธน.สหรัฐ

(22 ต.ค. 67) สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ธนาคารกลางอินโดนีเซีย เข้า “แทรกแซง” ตลาดเงินตราต่างประเทศเพื่อพยุง ค่าเงินรูเปียห์ ท่ามกลางการคาดการณ์ของเหล่านักลงทุนว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีโอกาสชนะการเลือกตั้งสหรัฐมากขึ้น และ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มชะลอการลดอัตราดอกเบี้ย

การเข้าแทรกแซงครั้งนี้ ธนาคารกลางอินโดนีเซียดำเนินการทั้งในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศแบบสปอตและตลาดอนุพันธ์ เพื่อบรรเทาความผันผวนของค่าเงินรูเปียห์ที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องในวันอังคารนี้ (22 ต.ค.) ตามที่เอดี ซูเซียนโต ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารการเงินของธนาคารกลางได้เปิดเผย

เงินรูเปียห์ อ่อนค่าลงมากถึง 0.5% มาอยู่ที่ระดับ 15,568 ต่อดอลลาร์ในการซื้อขายช่วงเช้าของวันนี้ (22 ต.ค.) ซึ่งเป็นการอ่อนค่ามากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม โดยธนาคารกลางอินโดนีเซียต้องเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อพยุง ค่าเงินรูเปียห์

ซูเซียนโตระบุว่า การอ่อนค่าของเงินรูเปียห์ในครั้งนี้มีสาเหตุมาจากถ้อยแถลงล่าสุดของเจ้าหน้าที่เฟดที่แสดงท่าทีไม่เอื้ออำนวยต่อการผ่อนคลายนโยบายการเงิน และความไม่แน่นอนที่เกิดจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 

อย่างไรก็ตาม ผู้อำนวยการบริหารท่านนี้ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์ค่าเงินรูเปียห์ ยังคงอยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้ เนื่องจากคาดว่าผู้ประกอบการส่งออกจะยังคงมีการนำเงินดอลลาร์เข้ามาในตลาด ซึ่งจะช่วยพยุงค่าเงินรูเปียห์ได้ในระดับหนึ่ง

ทั้งนี้ ค่าเงินในเอเชียอ่อนค่าลงในช่วงเปิดตลาดวันอังคารนี้ท่ามกลางการแข็งค่าของดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนต่างจับตาผลการเลือกตั้งสหรัฐในเดือนพฤศจิกายน และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดที่บ่งชี้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปมากขึ้น

ความผันผวนของค่าเงินรูเปียห์ อาจทำให้การลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมโดยธนาคารกลางต้องล่าช้าออกไปในปีนี้ โดยเพอร์รี วาร์จิโย ผู้ว่าการธนาคารกลางกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า

“ยังมีพื้นที่สำหรับการผ่อนคลายเพิ่มเติม แต่ในขณะนี้ ธนาคารกลางให้ความสำคัญกับเสถียรภาพของค่าเงินรูเปียห์มากกว่า” ซึ่งธนาคารอินโดนีเซียคงอัตราดอกเบี้ยสำคัญไว้ที่ 6% ในเดือนนี้

ธนาคารกลางอินโดนีเซียมีความพร้อมในการรักษาเสถียรภาพของค่าเงินรูเปียห์ เนื่องจากมีปริมาณสำรองเงินตราต่างประเทศอยู่ในระดับสูงใกล้เคียงกับสถิติสูงสุดในเดือนกันยายนที่ผ่านมา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top