Sunday, 8 June 2025
คิมจองอึน

ยูเครนจับ 2 ทหารเกาหลีเหนือกลางเคิร์สก์ ท้าคิม-รัสเซียแลกตัวสะเทือนสงคราม

(13 ม.ค. 68) ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีแห่งยูเครนเปิดเผยว่า ยูเครนสามารถจับกุมตัวทหารเกาหลีเหนือจำนวน 2 นายในพื้นที่สู้รบในภูมิภาคเคิร์สก์ โดยทหารทั้งสองถูกนำตัวมายังกรุงเคียฟเพื่อสอบปากคำและให้ข้อมูลกับสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติยูเครน (SBU)  

“เชลยศึกทุกคน รวมถึงทหารเกาหลีเหนือทั้งสองนาย จะได้รับการดูแลทางการแพทย์ที่จำเป็น” เซเลนสกีกล่าว พร้อมระบุว่าสื่อมวลชนจะได้รับโอกาสสัมภาษณ์พวกเขาในอนาคต  

ทั้งนี้ ยูเครนระบุว่าทหารเกาหลีเหนือมีบทบาทสนับสนุนการสู้รบในภูมิภาคเคิร์สก์ ซึ่งยูเครนเริ่มการบุกโจมตีเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และยังคงควบคุมพื้นที่หลายร้อยตารางกิโลเมตรในบริเวณนี้  

ทหารเกาหลีเหนือนายหนึ่งระบุว่าตนเกิดในปี 2548 และเข้าร่วมกองทัพเกาหลีเหนือในปี 2564 อีกนายหนึ่งเกิดในปี 2542 และเข้าร่วมกองทัพตั้งแต่ปี 2559 โดยมีตำแหน่งเป็นพลซุ่มยิง พวกเขาอ้างว่าไม่ได้รับแจ้งล่วงหน้าว่าจะต้องเข้าสู่สมรภูมิในยูเครน โดยผู้บังคับบัญชาบอกเพียงว่าการเดินทางครั้งนี้เป็นการฝึกยุทธวิธี  

หนึ่งในทหารกล่าวว่า ต้องการกลับเกาหลีเหนือ ขณะที่อีกนายกล่าวว่า หากมีโอกาส เขาอยากอาศัยอยู่ในยูเครน  

เซเลนสกีเสนอว่า ยูเครนพร้อมพิจารณาแลกเปลี่ยนตัวเชลยเกาหลีเหนือ หากผู้นำคิม จอง-อึน ยินยอมจัดการแลกเปลี่ยนดังกล่าวกับทหารยูเครนที่ถูกรัสเซียควบคุมตัว  

สำนักงานความมั่นคงของยูเครนและสำนักข่าวกรองเกาหลีใต้ (NIS) ยืนยันการจับกุมตัวทหารเกาหลีเหนือทั้งสองราย ระหว่างการสู้รบในเคิร์สก์เมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา  

รายงานจากสำนักงานคณะเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้ระบุว่า ตั้งแต่ทหารเกาหลีเหนือเข้าร่วมการสู้รบในสงครามรัสเซีย-ยูเครนเมื่อเดือนธันวาคม ปีที่แล้ว มีทหารเกาหลีเหนือเสียชีวิตประมาณ 1,100 นาย ขณะที่ยูเครนประเมินตัวเลขไว้สูงกว่า คือประมาณ 3,000 นาย  

ยูเครนยืนยันว่าปฏิบัติต่อเชลยศึกตามหลักมนุษยธรรมและกรอบอนุสัญญาเวียนนา โดยการสอบปากคำเชลยศึกดำเนินการผ่านล่ามที่ได้รับการรับรองเพื่อความถูกต้องและเป็นธรรม  

จนถึงขณะนี้ รัสเซียและเกาหลีเหนือยังไม่มีการแสดงความเห็นต่อเหตุการณ์นี้ ขณะที่ยูเครนเตรียมพร้อมรับมือกับความเป็นไปได้ที่จะสามารถจับกุมตัวทหารเกาหลีเหนือเพิ่มเติมในอนาคต

โสมใต้เผยคิมสั่งถอนทหารพ้นแนวหน้ายูเครน หลังสูญเสียหนัก ดับ-เจ็บนับพัน

(5 ก.พ. 68) หน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ทหารเกาหลีเหนือได้ถอนตัวออกจากแนวหน้าการสู้รบในภูมิภาคเคิร์สก์ของรัสเซียเรียบร้อยแล้ว หลังจากปฏิบัติภารกิจสนับสนุนกองทัพรัสเซียเพื่อสู้ศึกยูเครนมาหลายเดือน

สำนักข่าวกรองแห่งชาติเกาหลีใต้ (NIS) รายงานว่า ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา ไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่ากองกำลังเกาหลีเหนือยังคงมีบทบาทในพื้นที่สู้รบทางตะวันตกของรัสเซีย หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่อาจนำไปสู่การถอนกำลังคือการสูญเสียทหารจำนวนมากจากการปะทะกับยูเครน

ก่อนหน้านี้ ในช่วงต้นเดือนมกราคม NIS ได้แจ้งต่อรัฐสภาเกาหลีใต้ว่า มีรายงานการเสียชีวิตของทหารเกาหลีเหนือประมาณ 300 นาย และบาดเจ็บอีกกว่า 2,700 นายจากการสู้รบในภูมิภาคดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับชะตากรรมของทหารที่ได้รับบาดเจ็บว่าพวกเขาได้รับการรักษาหรือถูกส่งตัวไปยังพื้นที่ปลอดภัยอื่น

หน่วยข่าวกรองของเกาหลีใต้กำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อวิเคราะห์สาเหตุที่แท้จริงของการถอนกำลังครั้งนี้ โดยข้อมูลล่าสุดสอดคล้องกับรายงานจากหน่วยปฏิบัติการพิเศษของกองทัพยูเครน ซึ่งระบุว่า ไม่พบความเคลื่อนไหวทางทหารของกองทัพเกาหลีเหนือในภูมิภาคเคิร์สก์ตลอดช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวด้านความมั่นคงจากชาติตะวันตกเปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 3 เดือนของการเข้าร่วมปฏิบัติการรบในรัสเซีย เกาหลีเหนือสูญเสียทหารไปแล้วราว 4,000 นาย จากกำลังพลที่ถูกส่งไปทั้งหมดประมาณ 11,000 นาย ซึ่งการสูญเสียนี้รวมถึงทหารที่เสียชีวิต บาดเจ็บ สูญหาย และถูกจับเป็นเชลยศึก โดยมีการประเมินว่า ทหารที่เสียชีวิตมีจำนวนไม่น้อยกว่า 1,000 นายจนถึงกลางเดือนมกราคม

ในอีกด้านหนึ่ง ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครนให้สัมภาษณ์กับสื่ออังกฤษ โดยกล่าวว่าหากยูเครนไม่สามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ได้ ประเทศพันธมิตรตะวันตกควรจัดหาแนวทางรับประกันความมั่นคงของยูเครนในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์ ระบบขีปนาวุธ งบประมาณด้านการทหาร หรือแม้แต่การส่งกำลังทหารเข้ามาช่วยดูแลพื้นที่

นอกจากนี้ ผู้นำยูเครนยังยืนยันว่าพร้อมเปิดการเจรจากับรัสเซีย หากการพูดคุยสามารถนำไปสู่การยุติสงครามและลดการสูญเสียชีวิตของประชาชน

‘คิม จองอึน’ ยอมรับส่งทหารไปช่วย ‘รัสเซีย’ ในสงครามกับยูเครน มอสโกซูฮกพันธมิตรเกาหลีเหนือ ช่วยปลดปล่อยแคว้นเคิร์สก์

(28 เม.ย. 68) รัฐบาลเกาหลีเหนือยอมรับอย่างเป็นทางการครั้งแรกว่า ได้ส่งทหารไปร่วมสงครามกับยูเครนภายใต้คำสั่งของผู้นำ “คิม จองอึน” โดยมีส่วนสำคัญในการปลดปล่อยดินแดนที่ถูกยูเครนยึดไป เช่น ภูมิภาคเคิร์สก์ของรัสเซีย ซึ่งแสดงให้เห็นถึง “มิตรภาพอันแน่นแฟ้น” ระหว่างเกาหลีเหนือและรัสเซีย

สำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) รายงานว่า การเข้าร่วมของทหารเกาหลีเหนือในสงครามครั้งนี้สอดคล้องกับสนธิสัญญาพันธมิตรที่ผู้นำคิมได้ลงนามกับปูตินเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเกาหลีเหนือเห็นว่าดินแดนของรัสเซียเป็นเสมือนประเทศของตน และยืนยันความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างทั้งสองชาติ

มาเรีย ชาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า การส่งทหารจากเกาหลีเหนือแสดงถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันในระดับสูง และการช่วยเหลือมอสโกในการปลดปล่อยแคว้นเคิร์สก์จากการรุกรานของยูเครน ซึ่งถือเป็นการยืนยันถึงมิตรภาพระหว่างทั้งสองประเทศ โดยเกาหลีเหนือได้ส่งทหารประมาณ 14,000 นาย รวมถึงกำลังเสริม 3,000 นาย

ทั้งนี้ การยอมรับอย่างเป็นทางการของเกาหลีเหนือเกิดขึ้นหลังจากรัสเซียยืนยันเมื่อวันที่ 26 เม.ย. ว่าทหารเกาหลีเหนือต่อสู้เคียงข้างรัสเซียในภูมิภาคเคิร์สก์ ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งสองประเทศไม่เคยยืนยันหรือปฏิเสธการส่งทหารเข้าร่วมการรบในยูเครน

‘เกาหลีเหนือ’ ยิง ‘ขีปนาวุธพิสัยใกล้’ หลายลูกลงทะเลญี่ปุ่น หลังผู้นำ ‘คิม จองอึน’ เยี่ยมโรงงานกระสุนที่เพิ่มกำลังผลิต 4 เท่า

(8 พ.ค. 68) สื่อเกาหลีใต้เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้หลายลูกจากเขตวอนซาน ทางตะวันออกของประเทศ ลงสู่ทะเลญี่ปุ่น โดยยังไม่ระบุพิสัยหรือจำนวนที่แน่ชัด ขณะกองทัพเกาหลีใต้และสหรัฐฯ กำลังวิเคราะห์รายละเอียดเพิ่มเติม

การยิงครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันที่ 7 พ.ค. คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เดินทางเยี่ยมชมโรงงานผลิตกระสุนขนาดใหญ่ของประเทศ ซึ่งรายงานว่าได้เพิ่มกำลังการผลิตกระสุนปืนใหญ่ขึ้น 4 เท่าจากระดับเฉลี่ย และเกือบ 2 เท่าของระดับสูงสุดก่อนหน้า

ก่อนหน้านี้ในเดือนเมษายน เกาหลีเหนือได้ทดสอบระบบอาวุธบนเรือรบใหม่ พร้อมประกาศแผนส่งมอบเรือพิฆาตหนัก 5,000 ตันให้กับกองทัพเรือต้นปีหน้า โดยคิมย้ำถึงเป้าหมายในการเพิ่มขีดความสามารถนิวเคลียร์ทางทะเลของประเทศ

นอกจากนี้ สื่อทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า โรงงานกระสุนดังกล่าวอยู่ภายใต้คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจที่สอง ซึ่งดูแลอุตสาหกรรมทหารโดยตรง ซึ่งผู้นำคิมจองอึนแสดงความหวังว่าการผลิตกระสุนที่เพิ่มขึ้นจะช่วยขยายกำลังรบของกองทัพ

ขณะเดียวกัน มีรายงานจากตะวันตกว่า เกาหลีเหนือได้ส่งกระสุนปืนใหญ่ให้รัสเซียระหว่างสงครามในยูเครนแล้วกว่า 4–6 ล้านลูก ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าเป็นสัญญาณของความร่วมมือทางทหารที่ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้นระหว่างสองประเทศ

‘คิม จองอึน’ ลั่น!! ‘โสมแดง’ ช่วยรัสเซีย รบยูเครน ชอบธรรมแล้ว ชี้!! เป็นการใช้สิทธิอธิปไตยช่วย ‘ประเทศพี่น้อง’ ของเกาหลีเหนือ

(10 พ.ค. 68) นายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ได้กล่าวว่า การที่เกาหลีเหนือเข้ามามีส่วนร่วมกับกองทัพรัสเซียในการทำสงครามกับยูเครนนั้นเป็นสิ่งที่ชอบธรรมแล้ว เพราะเป็นการใช้สิทธิอธิปไตยในการปกป้อง ‘ประเทศพี่น้อง’ ของเกาหลีเหนือ

ผู้นำคิมได้กล่าวไว้ว่า การที่เกาหลีเหนือมีส่วนร่วมในความขัดแย้งดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว และอยู่ภายใต้สิทธิอธิปไตยของเกาหลีเหนือ ทหารกล้าของเกาหลีเหนือทุกนายที่เข้าร่วมในปฏิบัติการในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซียถือเป็นฮีโร่และเป็นตัวแทนสูงสุดของชาติเรา

ผู้นำคิมกล่าวอีกว่า ทางการเกาหลีเหนือไม่ลังเลที่จะใช้กองทัพ หากสหรัฐยังคงมีการยั่วยุทางทหารต่อรัสเซีย ทั้งนี้ เกาหลีเหนือเพิ่งออกมายอมรับในช่วงปลายเดือนเมษายน ว่าได้ส่งทหารมากกว่า 10,000 นาย และอาวุธไปยังรัสเซียเพื่อช่วยเหลือการทำสงครามกับยูเครน ท่ามกลางการกระชับความสัมพันธ์ทางทหารระหว่างเกาหลีเหนือและรัสเซีย ภายใต้สนธิสัญญาความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมที่ผู้นำคิมและประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้ลงนามไปเมื่อปี 2024

‘คิม จองอึน’ สั่งฝึกหนัก!..ลุยตรวจฐานซ้อมใกล้เปียงยาง ยกระดับความพร้อมรบเกาหลีเหนือ สู้สงครามในอนาคต

(14 พ.ค. 68) คิม จองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ลงพื้นที่กำกับการฝึกซ้อมยุทธวิธีของกองกำลังพิเศษและรถถัง โดยมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงแนวทางการฝึกทหารให้ทันสมัยและสอดคล้องกับ 'สงครามยุคใหม่' ภายหลังการมีส่วนร่วมของทหารเกาหลีเหนือในสมรภูมิยูเครน ซึ่งรายงานจากสื่อรัฐเผยว่า การฝึกซ้อมจัดขึ้นที่ฐานฝึกหมายเลข 60 ใกล้กรุงเปียงยาง โดยมีการสาธิตการยิงจริงและการฝึกแบบสมจริงเต็มรูปแบบ

คิมเข้าร่วมการฝึกพร้อมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพ พร้อมเน้นย้ำให้กองทัพประชาชนเกาหลี (KPA) ปรับรูปแบบการฝึกตามประสบการณ์จริง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรบและความพร้อมต่อภารกิจจริง เขายังชื่นชมการเปลี่ยนแปลงด้านทัศนคติของผู้สอนทางทหารที่เกิดจากการฝึกเฉพาะทางอย่างเข้มข้น ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อขวัญกำลังใจและทักษะของทหารทุกนาย

การฝึกซ้อมครั้งนี้เกิดขึ้นต่อเนื่องจากการทดสอบขีปนาวุธระยะสั้นเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งมีเป้าหมายจำลองการโจมตีกองกำลังสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ นอกจากนี้ คิมยังกล่าวว่าการฝึกทหารต้องคำนึงถึงความเป็นผู้นำแบบสร้างสรรค์และอิสระ เพื่อรักษาความได้เปรียบทางคุณภาพในสนามรบยุคใหม่ พร้อมเร่งใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและกลไกประเมินผลแบบวิทยาศาสตร์ในการพัฒนาการฝึก

ทั้งนี้ หน่วยย่อยของกองพลที่ 11 ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติ “กองพันอเนกประสงค์” ระหว่างการฝึก โดยคิม จอง อึน กล่าวชื่นชมพวกเขาว่าเป็นต้นแบบของความพร้อมรบเต็มขั้น พร้อมประกาศจุดยืนว่า “การเตรียมความพร้อมเพื่อสงครามเสร็จสิ้น” คือภารกิจปฏิวัติสูงสุดของกองทัพเกาหลีเหนือในยุคปัจจุบัน

‘เกาหลีเหนือ’ เร่งสอบสวน ‘เรือพิฆาตใหม่’ รั่วกลางพิธี ชี้ความเสียหายไม่หนัก แต่ผิดพลาดใหญ่หลวง

(23 พ.ค.68) สื่อทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า ทางการเริ่มการสอบสวนเหตุอุบัติเหตุระหว่างพิธีเปิดตัวเรือรบลำใหม่ขนาด 5,000 ตัน ที่อู่ต่อเรือชองจิน เมื่อวันที่ 21 พ.ค. โดยเรือประสบความเสียหายรุนแรงบริเวณกราบขวาและมีน้ำทะเลรั่วเข้าส่วนท้ายของเรือ

ผลการตรวจสอบเบื้องต้นชี้ว่าไม่มีรูรั่วที่ใต้ท้องเรือ แต่จำเป็นต้องใช้เวลา 2-3 วันในการปรับสมดุลของเรือ และใช้เวลาราว 10 วันในการซ่อมแซมอย่างเต็มรูปแบบ

คณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลางของพรรคแรงงานเกาหลีออกแถลงการณ์ว่า แม้ความเสียหายจะไม่ร้ายแรง แต่ถือเป็น 'อาชญากรรมที่มิอาจให้อภัยได้' และยืนยันว่าจะตามหาผู้ที่ต้องรับผิดชอบให้ได้

ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 พ.ค. มีการเรียกตัวฮงกิลโฮ ผู้จัดการอู่ต่อเรือชองจิน เพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวนและดำเนินการทางกฎหมายแล้ว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top