กระแสล้มเจ้า ‘กร่อยสนิท’ หลัง ‘ควีน’ สวรรคต ด้านโพลชี้ความนิยม 'กษัตริย์ชาร์ลส์ 3' พุ่ง 63%
ความโศกเศร้าอาลัยที่คนอังกฤษมีต่อการจากไปของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทำให้กระแสต่อต้านราชวงศ์อังกฤษซบเซาลงไปถนัดใจ โดยแม้แต่กลุ่ม Republic ที่ต้องการเปลี่ยนอังกฤษไปสู่ระบอบสาธารณรัฐก็ยังออกมาแสดง “ความเสียใจ” และประกาศงดรณรงค์ล้มเจ้าชั่วคราว
ตลอดระยะเวลา 70 ปี ที่ทรงครองสิริราชสมบัติ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงเป็นที่รักและเคารพทั้งต่อพสกนิกรในอังกฤษและผู้คนทั่วโลก และการเสด็จสวรรคตอย่างกะทันหันของพระองค์ทำให้อังกฤษทั้งประเทศตกอยู่ในความโศกเศร้า
ผลสำรวจโดย YouGov พบว่า คนอังกฤษ 44% “ร้องไห้” เมื่อได้ยินข่าว breaking news ว่าสมเด็จพระราชินีนาถไม่อยู่กับพวกเขาอีกแล้ว
กลุ่มที่ต้องการล้มล้างราชวงศ์ยังคงเป็นประชากรส่วนน้อยมากในอังกฤษ โดยโพล YouGov เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา พบว่า มีผู้ตอบคำถามแค่ 22% เท่านั้นที่อยากจะได้ประมุขรัฐที่มาจากการเลือกตั้ง เทียบกับ 62% ที่ต้องการให้สถาบันพระมหากษัตริย์ดำรงอยู่ต่อไป
ฝ่ายที่กระตือรือร้นอยากให้อังกฤษเปลี่ยนเป็นสาธารณรัฐคาดหวังกันมานานว่า ช่วงเปลี่ยนผ่านรัชสมัยจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ไปสู่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 น่าจะเป็นโอกาสดีที่สุดที่พวกเขาจะรณรงค์ให้คนอังกฤษส่วนใหญ่เห็นดีเห็นงามกับการล้มราชวงศ์
เมื่อวันจันทร์ (12 ก.ย.) นักเคลื่อนไหวสตรีคนหนึ่งได้ชูป้ายที่เขียนว่า ‘Not My King’ บริเวณอาคารรัฐสภาในกรุงลอนดอน ก่อนจะถูกตำรวจพาตัวออกไป ทว่าเจ้าตัวยังพอมีเวลาบอกกับนักข่าว AFP ว่า “เขาเป็นกษัตริย์โดยไม่ได้รับความเห็นชอบ และนั่นมันไม่ถูกต้อง”
ด้านกลุ่ม Republic หลังจากที่ “แสดงความอาลัย” แบบพอเป็นพิธีแล้ว ก็กลับมาเคลื่อนไหววิพากษ์วิจารณ์สถาบันต่อ ในระหว่างที่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ทรงได้รับการประกาศขึ้นเป็นกษัตริย์พระองค์ใหม่
“การประกาศตั้งกษัตริย์องค์ใหม่สวนทางกับระบอบประชาธิปไตย” พวกเขาระบุ “อังกฤษเปลี่ยนแปลงไปมากแล้วนับแต่มีการผลัดแผ่นดินครั้งสุดท้ายเมื่อปี 1952 ในสังคมประชาธิปไตยยุคใหม่ ประมุขรัฐไม่ควรเข้ารับตำแหน่งโดยปราศจากการอภิปราย หรือการตั้งคำถามเรื่องความชอบธรรม”
