Wednesday, 23 April 2025
คนไทยใจดี

‘น้อย วงพรู’ แชร์เรื่องสุดประทับใจ หลังซื้อไส้กรอก แต่ร้านไม่รับเงินสด ตัดสินใจบากหน้าขอความช่วยเหลือ เจอคนไทยใจดี สแกนจ่ายให้ก่อน

(10 ก.ย. 66) แฟนๆ เมนต์กันถล่มเลยทีเดียว สำหรับเรื่องเล่าน่ารักๆ ของนักร้องชื่อดัง ‘น้อย วงพรู’ หรือ ‘กฤษดา สุโกศล แคลปป์’ ที่อยู่ๆ ก็อยากกินไส้กรอกจัมโบ้ แต่ร้านไม่รับเงินสด งานนี้น้อยก็เลยต้องขอความช่วยเหลือจากหญิงรายหนึ่ง ซึ่งฝ่ายหญิงก็มีน้ำใจช่วย โดย ‘น้อย วงพรู’ เผยว่าอีกฝ่ายไม่ได้รู้จักตน

“คนไทยน่ารักจริงๆ ครับ วันนี้น้อยไปสตาร์บัค เพราะว่าน้อยชอบไส้กรอกจัมโบ้ของเขามาก แต่สาขานี้เขาไม่รับเงินสดแล้ว และน้อยเองก็ไม่มีสแกนเพย์หรือพร้อมเพย์ แต่น้อยสังเกตว่าน้องคนนี้เขากำลังใช้โทรศัพท์จ่ายเงินอยู่ เขาดูเป็นคนดี น้อยหิวน้อยก็เลยหน้าด้านแล้วตัดสินใจขอความช่วยเหลือ

น้อยถามเขาว่า เขาโอเคไหมที่จะออก 95 บาทแทนน้อยก่อน แล้วน้อยก็จะคืนเงินสดให้เขาทันที แล้วน้องเขาก็ยินดีเลยครับ ซึ่งเขาไม่ได้รู้จักน้อยด้วยนะ น้อยแก่แล้ว น้อยขอขอบคุณน้องคนนี้นะครับ…ที่ช่วยให้น้อยได้กินไส้กรอกจัมโบ้ของน้อย ”

งานนี้แฟนๆ เข้ามาเมนต์กันกระจาย อาทิ เอ็นดูตรงน้องไม่รู้จักเพราะน้อยแก่แล้ว คุณน้อยถ่อมตัวเสมอเลยค่ะ, น่ารักทั้งคู่, เอ็นดูพี่น้อย, รักพี่น้อยจากความเป็นพี่น้อยนี่แหละ, ไส้กรอกจั้มโบ้ของน้อย น่ารักกกก ฯลฯ

'หญิงต่างชาติ' ไม่มีเงิน หิวโซ ขอกินข้าวเหลือ เจ้าของร้านคนไทยใจดี ให้กินฟรี เติมเพิ่มให้จนอิ่ม

จากกรณีผู้โซเชียลรายหนึ่งได้โพสต์คลิปวิดีโอชาวต่างชาติรายหนึ่งที่มาขอข้าวกินที่ร้าน จนกลายเป็นโมเมนต์สุดประทับใจ

ล่าสุด (25 ม.ค. 67) น.ส.รัตนธร กำเนิดไทย เจ้าของโพสต์ เปิดเผยว่า ปกติตนไปช่วยลูกชายเลี้ยงหลานอยู่ที่ร้าน ช่วงเย็นเมื่อวานนี้ ตนทำอาหารไปให้ลูกชาย และวางไว้บนโต๊ะ โดยตนและลูกสะใภ้ทานเสร็จแล้ว เหลือแต่ลูกชายที่กำลังวุ่นกับการขายของ ระหว่างนั้นตนออกมาก็พบว่ามีหญิงต่างชาติรายหนึ่ง มานั่งกินกับข้าวอยู่ที่โต๊ะ

ลูกชายเล่าให้ฟังว่า ชาวต่างชาติรายนี้เข้ามาขอทานอาหารที่เหลืออยู่บนโต๊ะ เนื่องจากไม่มีเงิน เมื่อตนเข้าไปจะพูดคุย ก็พบว่ากินข้าวและพะโล้หมดเกลี้ยง แต่แกงส้มยังเหลืออยู่ ตนจึงถามไปว่า ไม่กินเผ็ดเหรอ แต่ตนก็ไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษ จึงใช้การพูดคุยผ่านภาษากายแทน

ตนเห็นดังนั้นจึงนำข้าวและพะโล้ไปเติมให้อีก ยังมีลูกค้าชายโต๊ะอื่นนำน้ำมาให้เธออีกด้วย หลังทานเสร็จ ชาวต่างชาติรายนี้ได้ขีดเขียนอะไรบางอย่าง ตนก็คิดกับลูกสะใภ้ว่าเขาคงเขียนบันทึกไดอารี่ แต่ปรากฏว่า เขานำกระดาษใบนั้นมายื่นให้ตน

เป็นภาพวาดของตนที่กำลังอุ้มหลาน ลูกชายที่กำลังวุ่นวายกับการเสิร์ฟกับข้าว และลูกสะใภ้ที่กำลังชงน้ำ ตนเข้าใจว่านี่เป็นการขอบคุณที่ตนได้ช่วยเหลือ

ทั้งนี้หลังจากที่ตนลงคลิปไปก็มีหลายคนเป็นห่วงว่าชาวต่างชาติจะมาหลอกหรือไม่ แต่ตนก็ไม่กังวล เพราะจากภาพที่เห็นคือเขาหิวโซ กินจนหมดเกลี้ยง และไม่ได้มาขอเงินอะไร

อีกทั้งยังมาตัวคนเดียว พร้อมกับกระเป๋าสัมภาระมากมาย ตนและลูกชายเป็นคนใจอ่อนเห็นแบบนี้ก็อดที่จะไม่ช่วยไม่ได้ และดีใจที่ได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

‘กัน จอมพลัง’ ประสานตำรวจ ตามรวบตัว ‘ขอทานหน้าเหลว’ สารภาพรับ!! คนไทยใจดี ทำให้มี ‘รายได้วันละ 5 พันบาท’

เมื่อวานนี้ (7 ก.ย. 67) สืบเนื่องมาจากการ ‘กัน จอมพลัง’ ประสานตำรวจตามรวบ ‘ขอทานหน้าเหลว’ ชาวกัมพูชา แกล้งพิการ แกล้งเป็นใบ้ แกล้งตาบอด แกล้งเดินไม่ได้ รายได้ วันละ 5พันบาท  ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ก.ย 2567 พ.ต.ท.หญิง พรรัมภา พัฒนาวาท สว.กก.ดส.บช.น. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปฏิบัติการที่ 2  พบเบาะแส มีสามี ภรรยา ‘ขอทานกัมพูชา’ กำลังเดินกลับมาในซอยรามอินทรา 73 เมื่อพบทั้งสองเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปสอบถามข้อมูล ทราบชื่อว่า นางเล้ง กับนายเม้ง กำลังกลับมาจากขอทาน ย่านลาดกระบัง

โดยนางเล้งกล่าวว่า ตนมาอาศัยอยู่ ที่ประเทศไทยประมาณ 20 ปีแล้วโดยตอนแรกทำอาชีพเป็นลูกจ้างธรรมดาทั่วไปแต่กระทั่ง 2-3 ปีที่ผ่านมาได้ผันตัวมาขอทาน และได้คบหากับสามีมา 8 ปี โดยสามีก็ขอทานเหมือนกัน และมีลูกด้วยกัน 1 คน ก่อนหน้านี้ตนรู้จักกับเพื่อนชาวกัมพูชาชักชวนให้มาขอทานได้เงินวันละ 100 - 800 บาท ต้องทำงานส่งเงินกลับไปบ้าน ที่ประเทศกัมพูชา กู้เงินมาสร้างบ้านกว่า 400,000 บาท ต้องจ่ายเดือนละ 8,000 บาท

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ขอค้นบ้านของสองสามีภรรยาคู่นี้ เมื่อเข้าไปเจอกับ น.ส.เอ (นามสมมติ) หญิงชาวกัมพูชากำลังอุ้มลูกหลบอยู่ด้านหลังภายในห้องเช่า นอกจากนี้ยังมีชาวกัมพูชาอีกหลายครอบครัวมีการเปิดโซเชียลดูไลฟ์สดของ กัน จอมพลัง ที่ กำลังตามหาชาวกัมพูชาอยู่ด้วย ในตอนแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาเคาะบ้านหลังดังกล่าวแล้ว แต่พบว่ามีการล็อกประตูเอาไว้จากด้านหน้าเพื่อพรางว่า ไม่มีคนอยู่ ภายในบ้านเช่าพบมีไพ่อยู่ในกระเป๋า และพบขวดแอลกอฮอล์ตั้งอยู่หน้าห้อง

โดย น.ส.เอ(นามสมมติ)ที่พิการทางใบหน้า กล่าวว่า ที่ใบหน้าเละแบบนี้เพราะเกิดจากเหตุการณ์แก๊สระเบิดเมื่อ 19 ปีก่อน หลังจากนั้นตัดสินใจมาประเทศไทย โดยมีรถตู้ไปรับที่ชายแดนกัมพูชา คิดค่ารถ 3,000 บาท ยอมรับว่า ไม่ได้มีพาสปอร์ตเข้าประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายและทราบว่าทำสิ่งผิดกฎหมายอยู่ แต่ไม่รู้ว่าจะไปทำอาชีพอะไร เพราะว่าอยู่ที่ประเทศกัมพูชาก็ไม่มีรายได้ แต่อยู่ที่นี่ มีรายได้ดีจากการขอทาน เพราะคนคนไทยเป็นคนใจดี โดยตน ได้รายได้ต่อวัน เป็นเงิน 800-1,000 บาท

ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตรวจสอบห้องเช่าข้าง ๆ กัน ยังพบ นายบี ชายพิการหน้าเละ ชาวกัมพูชา อาศัยอยู่มีภรรยาและลูกอีก 1 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นห้องพบเงินสด 3 หมื่นบาท และมีทองคำที่ใส่อยู่ในตัวอีกด้วย 

โดย นายบีอ้างว่า ตนเข้า ๆ ออก ๆ ประเทศไทย 5-6 ปี เนื่องจากมีบ้านอยู่ที่ประเทศกัมพูชาด้วย แต่ไม่มีรายได้ ไม่มีอาชีพอะไร เมื่อ 19 ปีที่แล้ว ตนทะเลาะกับเพื่อนแล้วถูกเพื่อนสาดน้ำกรดใส่หน้า ทำให้ต้องมาขอทานที่ประเทศไทย เพราะ คนไทยใจดี เวลาเห็นคนพิการก็จะให้เงินตลอด มีรายได้วันละ 1,500 บาท ได้มาก็ให้ภรรยาเก็บ

ทั้งนี้ พ.ต.ท.หญิง พรรัมภา พัฒนาวาท สว.กก.ดส.บช.น. สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปฏิบัติการที่ 2 กก.ดส.บช.น. คุมตัว ชาวกัมพูชา 10 คน ไปที่ กก.ดส.บช.น. เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top