Tuesday, 22 April 2025
คดีอาญา

‘ธนกร’ หนุน กมธ.นิรโทษกรรม แต่ย้ำ ไม่ยกโทษให้พวกคนผิด ม.112 เพราะไม่ใช่คดีทางการเมือง แต่เป็นการหมิ่นสถาบันเบื้องสูงของคนไทย

(9 มี.ค.67) นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ได้ข้อยุติเริ่มนับเหตุการณ์ทางการเมืองตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2548 จนถึงปัจจุบัน โดยจะเชิญทุกฝ่ายการเมืองที่มีคดีความจากการชุมนุม มาแสดงความคิดเห็น ว่า ตนเห็นด้วย หากจะเริ่มนับ 1 ในการสร้างความปรองดองสมานฉันท์โดยเฉพาะความเห็นต่างทางการเมือง ที่ทำให้เกิดความขัดแย้งของคนในชาติ ซึ่งอาจจะต้องดูข้อกฎหมายเกี่ยวกับแต่ละคดีประกอบอย่างละเอียด เพราะหลายเหตุการณ์ที่เกิดการชุมนุมทางการเมืองขึ้น ยอมรับว่า ไม่ได้ชุมนุมโดยสงบ มีการใช้อาวุธทำลายสิ่งของและสถานที่ราชการด้วย จึงต้องดูให้ละเอียดรอบคอบเพราะเป็นคดีอาญา การเชิญตัวแทนกลุ่มการเมืองฝ่ายต่างๆ มาร่วมประชุมแสดงความเห็นถือเป็นนิมิตหมายที่ดีทางการเมือง

นายธนกร ย้ำว่า ขอสนับสนุน กมธ.นิรโทษกรรมฯ ที่ยังไม่พิจารณาคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เพราะไม่ใช่คดีการเมือง แต่เป็นคดีหมิ่นประมาทอาฆาตมาตร้ายพระมหากษัตริย์ ไม่ควรเหมารวมกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องนี้ รวมกับความเห็นต่างทางการเมือง และเชื่อว่า หากมีการรวมคนที่ทำผิดมาตรา 112 ให้รับการนิรโทษกรรม ตนเองและคนไทยทั้งชาติไม่มีใครยอมได้แน่นอน

“ขอให้กมธ.นิรโทษกรรมพิจารณาให้ดี ให้รอบคอบ ไม่ควรหยิบเอาคดีทำผิดหมิ่นประมาทสถาบันพระมหากษัตริย์ มาพิจารณารวมกับคดีการเมือง เพราะไม่เกี่ยวกัน แม้ว่าจะมีบางพรรค พยายามชี้ให้เห็นว่าเป็นความเห็นต่างทางการเมืองก็ตาม ซึ่งความจริงแล้ว สถาบันฯอยู่เหนือการเมือง ไม่เกี่ยวข้องกัน เป็นการสร้างชุดข้อมูล สร้างความเข้าใจที่ผิดๆให้กับบางกลุ่มและประชาชน จึงจำเป็นที่ กมธ.นิรโทษกรรม จะต้องมีจุดยืนทางกฎหมาย หากมีการเหมารวมและยกโทษให้กับผู้กระทำความผิดมาตรา 112 เชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศ ไม่มีใครยอมได้” นายธนกร ระบุ

'ทนายบอน' ชี้!! บุคคลที่ได้รับหมายเรียกในคดีอาญา มีหน้าที่ต้องไปให้การตามหมาย หากไม่ไปจะมีความผิด

(26 ส.ค. 67) นายณัฐนันท์ กัลยาศิริ หรือ 'ทนายบอน' อดีตผู้สมัคร สส.กทม. พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า..

[บุคคลที่ได้รับหมายเรียกในคดีอาญามีหน้าที่ต้องไปให้การตามหมาย]

ช่วงนี้มีประเด็นเรื่อง [การเข้าไปเป็นพยานในคดีอาญา] เพื่อความเข้าใจที่ชัดเจน บุคคลจะเข้าไปเป็นพยานในคดีอาญาได้กรณีไหน ถ้าได้รับหมายเรียกแล้วต้องทำอย่างไร มีข้อกฎหมายที่สรุปได้ดังนี้ครับ

1. ในชั้นสอบสวนของตำรวจ พนักงานสอบสวน มีหน้าที่รวบรวมหลักฐานทุกชนิด เพื่อพิสูจน์ให้เห็นความผิดหรือความบริสุทธิ์ของผู้ต้องหา ดังนั้น การเรียกบุคคลเข้าเป็นพยาน จึงเกิดได้ทั้งจากพนักงานสอบสวนเห็นสมควรเรียก หรือผู้ต้องหาจะร้องขอให้พนักงานสอบสวนเรียกก็ได้

2. ในชั้นอัยการ เมื่อพนักงานสอบสวนส่งสำนวนไปยังอัยการแล้ว พนักงานอัยการมีอำนาจสั่งฟ้อง หรือสั่งไม่ฟ้อง หรือสั่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมหลักฐานใด หรือพยานปากใดก็ได้

3. ไม่ว่ากรณีที่ 1 หรือ 2 พนักงานสอบสวนจะออก [หมายเรียกพยาน] โดยในหมายเรียกพยาน จะไม่มีการแจ้งว่าพนักงานสอบสวนเห็นสมควรเรียกเอง, พนักงานอัยการสั่งสอบเพิ่มเติม หรือผู้ต้องหาอ้างเป็นพยาน มีระบุแค่ ให้ไปพบพนักงานสอบสวนด้วยเรื่องใด ในวันใด เท่านั้น

4. ในกรณีตามข้อ 3 ผู้รับหมายเรียกมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องไปพบพนักงานสอบสวนตามวันเวลาที่นัดหมาย ไม่ว่าหมายเรียกพยานนั้นจะเกิดจากสาเหตุใดก็ตาม...ไม่ไปมีความผิดตามกฎหมาย

ได้รับหมายเรียกต้องไป...ให้การต้องเป็นไปตามข้อเท็จจริง...เรื่องมันมีแค่นั้นครับ

#ทนายบอน

‘หมอยง’ โพสต์เฟซ!! ย้อนดู 5 ปี โควิด 19 ความยุ่งเหยิง ดรามา ของวัคซีน และเซียนคีย์บอร์ด

(1 ธ.ค. 67) ศาสตราจารย์ นายแพทย์ ยง ภู่วรวรรณ แพทย์อาวุโส นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ และหัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ เรื่องวัคซีน และโรคโควิด-19 โดยมีใจความว่า ...

ย้อนดู 5 ปี โควิด 19, ปีที่ 2 ปีที่ยุ่งเหยิง และดราม่า เกี่ยวกับวัคซีน และเซียนคีย์บอร์ด 

หลังการระบาดใหญ่ทั่วโลก ในปีแรก ทุกคนมุ่งหวัง ที่จะยุติการระบาดด้วยวัคซีน จึงมีการผลิตคิดค้นวัคซีนกันมากมาย มากกว่า 10 platform รวมทั้งของประเทศไทยเองด้วย ประเทศไทยมีการออกข่าวว่าจะผลิตวัคซีนได้สำเร็จภายใน 2 ปี

เมื่อสิ้นปีแรก การผลิตและออกมาใช้จริง ก็เริ่มปรากฏออกมา ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนเชื้อตาย ไวรัสเวกเตอร์ และ mRNA ประสิทธิภาพของวัคซีนได้ลงพิมพ์ ในวารสารต่างๆ จะเห็นว่า mRNA มีประสิทธิภาพสูงสุด มากกว่าไวรัสเวกเตอร์ และเชื่อตาย แต่ผลทั้งหลายเป็นผลระยะสั้นทั้งนั้น ความจริงผลระยะยาวค่อยออกมาทีหลัง 

วัคซีนจึงขาดแคลนในระยะแรก เพราะทุกประเทศแย่งกัน ทางตะวันตก จะไม่รับวัคซีนของจีน และจีนเองก็ไม่รับวัคซีนของทางตะวันตก ประเทศกำลังพัฒนา ส่วนใหญ่จะได้รับวัคซีนจากจีน และ mRNA จะใช้ในทางตะวันตก ไม่เพียงพอ ตลาดเป็นของผู้ขาย จะกำหนดกฎเกณฑ์อย่างไรก็ได้ในการซื้อ เช่นต้องวางเงินก่อน และจะเอาหรือไม่เอาก็ต้องจ่าย ซึ่งขัดกับหลักการจัดซื้อของประเทศไทย และบางบริษัทให้วางเงินก่อนจะผลิตสำเร็จหรือไม่สำเร็จก็ไม่รับรู้ ถ้าไม่สำเร็จก็ต้องเสียเงินฟรี 

วัคซีนเชื้อตายจึงเข้ามาในประเทศไทยก่อน แล้วตามมาด้วยไวรัสเวกเตอร์ กว่าประเทศไทยจะเริ่มฉีด mRNA ก็เข้าสู่ กันยายน ตุลาคมแล้ว ประชาชนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ มีการเรียกร้องเอา mRNA มาเป็นวัคซีนหลัก จะเห็นบนหน้าเพจมากมาย มีดราม่าเกิดขึ้น ด้อยค่าวัคซีนเชื้อตายอย่างหนัก และกาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ประเทศจีน มีอัตราการเสียชีวิตโดยรวม น้อยกว่าประเทศทางตะวันตกอย่างมาก

ปีที่ 2 ความรุนแรงของโรคมาก อยู่มีอัตราตายเกือบ 1% ดังนั้นการรณรงค์ให้วัคซีน จึงเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว และอัตราการครอบคลุม 2 เข็มแรก ได้เร็วมาก โดยทุกแห่งและโรงพยาบาลร่วมมือกันดีมาก

ผมเองทำการศึกษา การกระตุ้นเข็มสามด้วยวัคซีนเชื้อตาย Sinovac เปรียบเทียบกับ ไวรัสเวกเตอร์และ mRNA คณะกรรมการจริยธรรมยังไม่ยอมให้ทำ ตอนหลังเลยต้องเปลี่ยนจากเชื้อตาย Sinovac มาเป็น Sinopharm ถึงได้ทำ แต่ก็เสียดายข้อมูลทางวิชาการ ที่เราไม่มี การฉีดวัคซีนเชื้อตายชนิดเดียวกัน 3 เข็ม เสียดายโอกาสทางวิชาการอย่างมาก

งานวิจัยทางด้าน วัคซีนโควิด ในช่วงนี้หาอาสาสมัครและมีผู้สมัครใจเป็นจำนวนมาก และทำได้อย่างรวดเร็วมาก ต้องขอขอบคุณอาสาสมัครอย่างยิ่ง รวมทั้งแหล่งทุนด้วย ทั้งภาครัฐและเอกชน จึงมีผลงานให้เห็น โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนต่างชนิดกัน และสูตรต่างๆ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีสูตรการฉีดวัคซีนสลับไปมา 3 เข็ม รวมทั้งสิ้น 24 แบบ อย่างไรก็ตามผลลัพธ์สุดท้ายไม่ต่างกันเลย เพราะทั้งหมดเป็นแอนติเจนชนิดเดียวกัน คือ spike protein ของ Wuhan strain 

ในปีนี้เป็นปีที่ ผมเองถูกกล่าวหาให้ร้าย อย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผลประโยชน์ หรือการเมืองทั้งที่จริงแล้วตัวเองไม่เคยไปยุ่งเลยแม้แต่นิดเดียว มุ่งค้นหาทางวิชาการและให้ข้อมูลผู้บริหารและประชาชน เพื่อช่วยปกป้องโรคร้าย การกล่าวให้ร้ายผมเอง ไม่ได้สนใจ แต่คนรอบข้าง ทนไม่ได้ จึงมีการแจ้งความฟ้องร้อง ผู้ที่กล่าวหารุนแรง โดยเฉพาะผู้ที่มีการศึกษา และมีหน้าตาในสังคม

คดีในการฟ้องร้อง บางคดีได้สิ้นสุดแล้ว และบางคดีจนถึงวันนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ ที่สิ้นสุดแล้วส่วนใหญ่ศาลจะตัดสิน เป็นเรื่องของการนำข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ถือเป็นคดีอาญา ศาลให้จำคุก 2 ปี และปรับ 3 แสน บาท เข้าแผ่นดิน ถ้าสารภาพก็ลดลงกึ่งหนึ่ง และเกือบทั้งหมดโทษจำให้รอลงอาญา หลายราย ยอมความ มาขอโทษ ก็จะยอมเกือบทุกกรณี แต่จะให้บริจาคเงิน เข้ามูลนิธิคณะแพทยศาสตร์ แทน โดยตัวเองไม่ไปแตะต้องเงินจำนวนนี้เลย

ยง ภู่วรวรรณ
ราชบัณฑิต สำนักวิทยาศาสตร์
ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์จุฬา
30 พฤศจิกายน 2567

จเรตำรวจแห่งชาติสั่งเพิกถอนวีซ่าชาวญี่ปุ่น 4 ราย ลักลอบข้ามแดนไปฝั่งเมียวดี พบมีหมายจับคดีอาญาและยาเสพติดของญี่ปุ่นหลายคดี  

เมื่อวานนี้ (7 ก.พ.68) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (จตช./ผอ.ศตคม.ตร./ผอ.ศปอส.ตร.) เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการอย่างเข้มข้น ต่อเนื่อง ตาม 7 มาตรการเข้มข้น ของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในการแก้ไขปัญหาคนต่างด้าวลักลอบหลบหนีเข้าเมือง ถูกหลอกลวง หรือประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย และอาชญากรรมข้ามชาติ เน้นการสกัดการเคลื่อนย้ายข้ามแดนตามช่องทางธรรมชาติ ท่าข้ามแดนต่าง ๆ 

ล่าสุดพบมีกรณีนักท่องเที่ยวสัญชาติญี่ปุ่น จำนวน 4 ราย ที่เดินทางด้วยรถยนต์ตู้โดยสารเข้ามาในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก โดยเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ถ.อินทรคีรี ต.แม่สอด เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2568 เวลา 19.17 น. ต่อมาสืบสวนทราบว่าได้เช็คเอาท์ออกจากโรงแรม เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 และมีรถแท็กซี่มารับคนต่างด้าวทั้ง 4 ราย จากโรงแรมดังกล่าว พาไปส่งถึงที่บริเวณตลาดริมเมย ข้างสะพานมิตรภาพไทย - เมียนมา แห่งที่ 1 เวลาประมาณ 12.00 น. และได้เดินดูของที่ตลาดริมเมยเหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไปก่อนหายตัวไป โดยในวันเดียวกันนั้น เวลา 11.00 น. ได้มีนายไหน่ สัญชาติเมียนมา เดินทางโดยรถยนต์จากฝั่งเมียวดี ประเทศเมียนมา มายังประเทศไทย ผ่านสะพานมิตรภาพไทย - เมียนมา แห่งที่ 1 เพื่อมารับกระเป๋าของคนต่างด้าวทั้ง 4 ราย ที่โรงแรม และเดินทางกลับไปฝั่งประเทศเมียนมาโดยไม่ผ่านการตรวจศุลกากรประเทศไทย 

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้พิจารณามีความคาดว่านักท่องเที่ยวสัญชาติญี่ปุ่นจำนวน 4 รายดังกล่าว น่าจะลักลอบข้ามแดนไปฝั่งประเทศเมียนมาแล้ว และน่าจะเป็นกลุ่มขบวนการหลอกลวง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ค้ามนุษย์ และอาชญากรรมข้ามชาติ ที่จะหลอกลวงคนญี่ปุ่น ประกอบกับประสานข้อมูลประวัติอาชญากรรมของคนต่างด้าวสัญชาติญี่ปุ่นทั้ง 4 ราย จากสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย พบว่ามีประวัติอาชญากรรมและมีหมายจับคดียาเสพติดของทางการญี่ปุ่นหลายคดี ทั้งนี้ คนต่างด้าวสัญชาติญี่ปุ่นทั้ง 4 ราย ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2568 โดยการอนุญาตยังไม่สิ้นสุด ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตากพิจารณาแล้วเห็นว่าคนต่างด้าวสัญชาติญี่ปุ่นทั้ง 4 ราย มีพฤติการณ์ที่มีลักษณะเป็นบุคคคลต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักร จึงเสนอเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร 

พล.ต.อ.ธัชชัยฯ กล่าวว่า กรณีชาวญี่ปุ่นทั้ง 4 รายดังกล่าว พบว่าเป็นกลุ่มอาชญากรรมมีพฤติกรรมเป็นภัยต่อสังคม และมีแนวโน้มเป็นกลุ่มแก๊งที่เข้าร่วมขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงสั่งเด็ดขาดเพิกถอนวีซ่าทั้ง 4 ราย และขึ้นแบล็คลิสต์ห้ามเข้าไทย ยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติเดินหน้าเต็มกำลังปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั้งขบวนการ โดยดำเนินการทุกมาตรการอย่างเข้มแข็งและต่อเนื่องอย่างไม่ลดละ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top