Tuesday, 22 April 2025
คณะกรรมการการเลือกตั้ง

‘พี่ศรี’ ไม่ทน!! โร่ฟ้องกกต. เอาผิด ‘ปดิพัทธ์ หลังปราศรัยพิษณุโลกพาดพิงถึงสถาบัน ชี้!! มีผลยุบพรรค

‘ศรีสุวรรณ’ ยื่นกกต. เอาผิด ‘ปดิพัทธ์’ ส.ส.ก้าวไกล ปราศรัยพาดพิงสถาบันระหว่างหาเสียงที่พิษณุโลก มีผลยุบพรรค

(20 มี.ค. 66) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางยื่นคำร้องต่อกกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบถ้อยคำปราศรัยของนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล และกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ที่ได้ปราศรัยหาเสียงพาดพิงสถาบัน ที่จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา

โดยนายศรีสุวรรณ กล่าวว่า วันนี้ตนนำหลักฐานเป็นคลิปคำปราศรัยของกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล โดยในคำปราศรัยล้วนแล้วพูดถึงแต่สถาบัน บางถ้อยคำปรากฏชัดเจนว่าเป็นการพาดพิงไปถึงโครงการพระราชดำริมากมาย มีการคอร์รัปชัน ซึ่งคำพูดดังกล่าวตนคิดว่าเป็นการให้ร้ายต่อสถาบัน โดยโครงการพระราชดำริเป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 ทรงพระราชทานให้กับพสกนิกร ประชาชน เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปของประชาชนชาวไทย และชาวต่างประเทศ ซึ่งมีมากกว่า 4,700 โครงการ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาให้กับคนทั้งประเทศ

‘กกต.’ แจง ใช้ ‘รถแห่หาเสียง-เปิดเพลงพรรค’ ได้ แต่ห้ามห้ามรื่นเริง ชี้!! ผู้ช่วยหาเสียงทำทุกอย่างได้เหมือนผู้สมัคร ย้ำห้ามทำผิดกฎหมาย

‘เลขากกต.’ แจง ‘ศรีสุวรรณ’ ร้องนักการเมืองใช้รถกระบะ-ปิกอัพแห่หาเสียงได้-เปิดเพลงพรรคได้ แต่ห้ามรื่นเริง สำหรับผู้ช่วยหาเสียงทำได้ทุกอย่างเหมือนผู้สมัคร แต่อย่าทำผิดกฎหมาย ขณะคู่สมรสนักร้อง/นักแสดง ของผู้สมัครช่วยหาเสียงได้ไม่คิดเป็นค่าใช้จ่าย

(5 เม.ย.66) นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการใช้รถแห่หาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ว่า สามารถใช้หาเสียงได้เมื่อมีผู้สมัคร หรือสมาชิกพรรค ตลอดจนแคนดิเดตนายกฯของพรรคอยู่บนรถ และสามารถเปิดเพลงหรือร้องเพลงของพรรคได้เท่านั้น แต่รถแห่ที่มีการแสดงรื่นเริงบนรถทำไม่ได้ ดังนั้นหากมีการร้องเรียนมาที่ กกต.จะต้องพิจารณาเป็นกรณี

ส่วนผู้ช่วยหาเสียงของพรรคการเมืองสามารถทำได้ทุกอย่างเหมือนกับผู้สมัคร แต่อย่าทำอะไรที่ผิดกฎหมาย และสามารถขึ้นเวทีดีเบตได้ หากพรรคส่งเป็นตัวแทน และอยากให้สื่อให้โอกาสกับทุกพรรคการเมืองได้ประชันนโยบายเวทีดีเบต ซึ่งการทำกิจกรรมของผู้ช่วยหาเสียงจะต้องคิดเป็นค่าใช้จ่ายของพรรคทั้งหมด ยกเว้นกรณีที่เป็นสามีหรือภรรยาของผู้สมัครจะถือเป็นคนเดียวกันตามกฎหมาย จึงไม่ต้องคิดรวมเป็นค่าใช้จ่ายหาเสียง ดังนั้นแม้คู่สมรสจะเป็นดารานักร้องหรือนักแสดงก็สามารถช่วยหาเสียงได้โดยไม่คิดเป็นค่าใช้จ่าย


ที่มา : https://www.naewna.com/politic/722415

‘กกต.’ โดนทัวร์ลงหนัก!! หลังแห่ดูงานต่างประเทศ สับ!! ใช้งบสูงลิ่ว-เวลาไม่พอพิจารณาเรื่องสำคัญ

กกต.แห่ดูงานต่างประเทศ นัดประชุมอีกครั้งปลายเดือน โดนวิจารณ์แซดไม่เหมาะสม พิจารณาขยายลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าไม่ทัน รวมทั้งไม่สามารถวินิจฉัยนโยบายประชานิยมพรรคการเมือง เพราะเวลาไม่พอ

วันนี้ (12 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีที่ขณะนี้มีกระแสเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)วินิจฉัยนโยบายหาเสียงประชานิยมของพรรคการเมืองว่าสามารถทำได้หรือไม่ รวมทั้งมีข้อเรียกร้องให้ กกต.พิจารณาขยายระยะเวลาการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าเพิ่มเติม เนื่องจากวันสุดท้ายของการทะเบียนเกิดปัญหาระบบล่ม แต่มีรายงานว่าขณะนี้ กกต.ทั้ง 6 คน ไม่ได้อยู่ปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทย โดยทยอยเดินทางไปดูการเตรียมการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ตั้งแต่ช่วงวันที่ 4 เม.ย. โดยนายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ และนายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี เดินทางไปประเทศฮังการีและสโลวาเกีย นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. เดินทางไปประเทศแอฟริกา นายปกรณ์ มหรรณพ เดินทางไปประเทศเยอรมนีและสวิตเซอร์แลนด์

‘กกต.’ แจง!! ปมเลือกตั้งนอกราชฯ กรุงลอนดอน พิมพ์รูปผู้สมัครผิด ยอมรับผิดจริง หลังทราบเรื่อง รับสั่งแก้ไขเรียบร้อยแล้ว

เลขาฯ กกต. แจง ปมเลือกตั้งนอกราชฯกรุงลอนดอน พิมพ์รูปผู้สมัครสลับกัน ยอมรับผิดพลาดจริง แต่แก้ไขแล้ว

( 24 เม.ย.66) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงกรณีประกาศที่ออกโดยเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน พิมพ์รูปผู้สมัครส.ส.กทม.เขต 11 สลับรูปกัน สำหรับเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรผิดพลาดว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ประเทศอังกฤษก็ต้องยอมรับว่ามีความผิดพลาด แต่เราได้ทราบเรื่องและแก้ไขโดยส่งฉบับที่ถูกให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปแล้ว และได้ตรวจสอบที่สถานทูตอื่น ซึ่งที่ประเทศอังกฤษจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเยอะแล้วพอได้รับเอกสารแล้วท่านก็ส่งเลย แต่ที่ประเทศอื่นฉบับที่เราแก้ไขให้ถูกต้องได้ส่งไปถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ลงทะเบียนไว้ โดยไม่ได้ส่งฉบับที่ผิดพลาดรอบแรกไป และเท่าที่ได้ตรวจสอบกับทางสถานทูตและสถานกงสุลมีแค่ที่อังกฤษที่ผิดพลาด

‘กกต.’ ลั่น!! ไม่เชิญ ‘ชูวิทย์’ ให้ข้อมูล อสม.เก็บบัตร ปชช. ชี้!! เป็นการสร้างคอนเทนต์ เร่งติดต่อคนปล่อยคลิปให้ข้อมูล

กกต.จับตาโค้งสุดท้ายหาเสียงเลือกตั้งเดือด ลั่นไม่เชิญ ‘ชูวิทย์ ให้ข้อมูล อสม.เก็บบัตร ปชช. ชี้เป็นการทำคอนเทนต์ เร่งติดต่อคนปล่อยคลิปให้ข้อมูลเพิ่ม

(24 เม.ย.66) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.กล่าวถึงการตรวจสอบจับตาโค้งสุดท้ายหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งมีความเข้มข้นมากในขณะนี้ ว่า พูดเป็นภาพรวมเราบริหารสถานการณ์ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยความร่วมมือของหน่วยงานราชการ ฝ่ายความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายปกครอง ภาคประชาชนที่เข้ามาร่วมกันสอดส่องดูแล แจ้งเหตุทุจริตเลือกตั้ง ซึ่ง กกต.ก็มีศูนย์ข่าวกรอง

ทั้งนี้ เมื่อประชาชนแจ้งข้อมูลก็จะเชิญมาให้ข้อมูลด้วย เช่น หากใครบอกว่ามีการซื้อเสียงกกต.ก็จะเชิญมา เพื่อรวมมือกันทำให้การทำให้การเลือกตั้งมีความสุจริต เมื่อพูดแล้วต้องมีข้อมูล ไม่พูดแล้วผ่าน กกต.จะไม่ยอมให้ผ่าน แต่จะเชิญมาให้ข้อมูลว่าที่พูดมานั้น มีข้อเท็จจริงอย่างไร เพื่อจะได้ดำเนินการตามข้อเท็จจริงที่เสาะได้มา ซึ่งจะทำไปจนถึงวันเลือกตั้ง

นายแสวง กล่าวว่า ส่วนเรื่องเฟคนิวส์ และสื่อโซเชียลมีเดีย ก็จะดำเนินการอีกลักษณะหนึ่ง โดยร่วมกับแพลตฟอร์มใหญ่ๆ ทั้งกูเกิล ติ๊กต๊อก เฟซบุ๊ก และไลน์ โดยจะมีการประชาสัมพันธ์ การตรวจข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ถือว่าน้อยกว่าการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการร้องเรียนการเลือกตั้งไม่สุจริต ไม่เที่ยงธรรม

เมื่อถามว่า กกต.จะเชิญ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการออกมาเปิดเผยว่าอาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) เดินเก็บบัตรหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า เรื่องนี้ได้มีการสอบถามไปยังผู้รับผิดชอบแล้ว เห็นว่ายังไม่ถึงกับต้องเชิญนายชูวิทย์มาให้ข้อมูล เพราะเป็นการสร้างคอนเทนต์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามผู้ที่เอาคลิปมาลงในติ๊กต๊อกเพื่อมาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ แต่ยังติดตามไม่ได้และก็ออกจากพื้นที่ไปแล้ว


ที่มา : https://www.naewna.com/politic/726411

‘แสวง’ เผย กกต.ส่งพยานหลักฐานเพิ่ม คดียุบพรรค ‘ก้าวไกล’ ชี้!! ทำตามหน้าที่อย่างดีที่สุด ตามที่กฎหมายให้อำนาจ

(15 มิ.ย.67) นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ให้สัมภาษณ์กรณี ศาลรัฐธรรมนูญให้ กกต. ส่งพยานหลักฐานเพิ่มเติมในคดียุบพรรคก้าวไกลว่า กกต. ได้ส่งพยานหลักฐานเพิ่มเติมไปแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา ส่วนจะเป็นพยานบุคคลหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า คำวินิจฉัยเพียงพอแล้ว (ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินพรรคก้าวไกล) กกต.จึงได้ส่งเอกสารเพิ่มบางอย่างที่เป็นข้อกฎหมาย

ส่วนกรณีนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ออกมาให้ความเห็นว่า กกต. ตีความเป็นศรีธนญชัย นายแสวง ไม่ขอแสดงขอความเห็น ขอให้รอฟังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

ส่วนที่คู่กรณีเห็นว่า กกต. ไม่มีอำนาจ หรือ ลุแก่อำนาจ อาจกระทบความเชื่อมั่นองค์กร นายแสวง กล่าวว่า เรารู้ว่าต้องทำอะไร ทำผิดทำเกินทำน้อยคงไม่ได้ ทุกเรื่องมีการกระทำมีข้อเท็จจริง คนที่ได้รับผลดีผลร้าย สิ่งนี้เกิดจากกฎหมายกำหนดไว้ก่อนว่า ลักษณะเช่นไรที่เป็นความผิด เมื่อมีข้อเท็จจริง กกต. ก็ดำเนินการไปตามข้อเท็จจริง ท่านไม่ได้รับผลร้าย หรือผลดีจากการตัดสินของ กกต. ท่านได้รับผลร้าย จากข้อเท็จจริงที่ท่านทำ

เรารู้ว่าเราต้องทำอะไร ส่วนความเชื่อมั่นผมว่าเราก็ทำตามกฎหมาย ประชาชนจะสงสัยก็เป็นจุดที่ทำให้เรา ทำให้ประชาชนเชื่อมั่นเป็นหน้าที่ เราก็ทำอย่างดีที่สุดเท่าที่กฎหมายให้เราทำ

ขณะเดียวกันนายแสวงยืนยันว่าตั้งแต่ตนมารับตำแหน่งเลขาธิการ กกต. ไม่มีใบสั่ง หรือคำชี้นำ จาก กกต. หรือจากข้างนอก ส่วนความคืบหน้าการดำเนินการเกี่ยวกับคำร้อง ยื่นยุบพรรคภูมิใจไทย นายแสวง กล่าวว่าเรื่องที่จะยื่นศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้เกี่ยวกับการยุบพรรคเลย หรือเกี่ยวกับกฎหมายพรรคการเมืองอะไรเลย แต่มีคนเอามาโยงว่าสามารถที่จะยุบพรรคได้หรือไม่ จึงทำให้มีคนคิดว่าพรรคภูมิใจไทยก็ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ พรรคก้าวไกลก็ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งสองกรณีนั้นแตกต่างกันมาก ส่วนฐานความผิดของพรรคภูมิใจไทยคือการอำพรางเรื่องหุ้น ไม่ได้เกี่ยวกับการยุบพรรคการเมืองตามกฎหมายพรรคการเมืองเลย แค่มีการเอาไปโยงกันเท่านั้น

ทั้งนี้เมื่อมีคนร้องต่อ กกต.มาก็ต้องมีการดำเนินการ ตรวจสอบเงินบริจาคว่ามีที่มาจากไหน เป็นเงินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หากเป็นเงินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายก็ไม่ได้ตัดสินที่คนบริจาคแต่ตัดสินด้วยกฎหมาย และคนที่มีอำนาจชี้ ซึ่งต้องรอหน่วยงานที่มีอำนาจ เป็นคนตัดสินซึ่งก็ไม่ใช่กกต. หรือนายทะเบียนโดยขณะนี้มีการตรวจสอบและถามกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ จนกว่าจะได้ข้อยุติ

นายแสวง ยังยกตัวอย่างกรณีการบริจาคของนายตู้ ห่าว ที่บริจาคให้กับพรรคพลังประชารัฐ มีคนบอกว่าเงินชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องมีการพิสูจน์ว่าเงินชอบด้วยกฎหมายยังไง ก็ต้องรองหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทรัพย์สินเช่นปปง. หรือป.ป.ส. เป็นต้น เป็นผู้ตัดสินมาก่อนจึงจะนำคำตัดสินมาใช้ได้ ทั้งนี้โดยกฎหมายพรรคการเมือง ไม่ได้ให้นายทะเบียนเป็นคนวินิจฉัย ว่าเงินนี้ชอบหรือไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะไม่มีอำนาจตัดสิน พร้อมยืนยันว่ากรณีการยื่นร้องพรรคภูมิใจไทยไม่ได้เป็นการยื้อเวลา เป็นไปตามกระบวนการ ซึ่งยื่นมาตามช่องทางของนายทะเบียนจึงมีการตรวจสอบตามมาตรา 93 ไม่ได้เข้าเกณฑ์ในมาตรา 92 ซึ่งกฎหมายก็มีหลายวิธี

ว่าที่ ส.ว. ‘นันทนา’ ข้องใจส.ว.ชุดเก่า ‘ขยันอะไรตอนนี้-ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้ทำอะไร’  ชี้!! โดยมารยาท ควรหยุดทำงานได้แล้ว จี้ กกต.เร่งประกาศรับรองโดยเร็ว

(7 ก.ค.67) ที่อาคารบางซื่อจังชั่น รศ.ดร.นันทนา นันทวโรภาส ว่าที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่มีการประกาศรับรองส.ว.ชุดใหม่ ว่า กระบวนการเลือกและเสร็จสิ้นลงแล้ว พบว่ามีผู้ร้องคัดค้านค่อนข้างมากกับ แต่ว่าในการเลือกตั้งทุกครั้งจะพบว่าจะต้องมีผู้ร้องคัดค้าน แต่การร้องคัดค้านไม่ได้แปลว่าจะเป็นการล้มกระดานหรือโมฆะ เพราะฉะนั้นกกต.ก็ควรจะพิจารณาว่า การเลือกสิ้นสุดลงแล้ว มีผู้ผ่านการเลือกเข้ามาแล้วควรที่จะรับรองผู้ที่เข้ามาก่อน แล้วคนใดกรณีใดที่มีข้อสงสัยว่า มีการทุจริตในการเข้ามาแบบไม่ตรงกลุ่มอาชีพด้วยวิธีการใดๆ ตรงนี้กกต.สามารถที่จะแขวนเอาไว้ก่อน แต่ว่ากลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่เข้ามาแบบปกติสุจริต ควรรับรองไปก่อน เพราะกระบวนการได้สิ้นสุดลงแล้ว และส.ว.ที่รักษาการอยู่ก็รักษาการมาพอสมควรแล้ว เราควรที่จะเปิดโอกาสให้คณะใหม่เข้ามา เรียกร้องไปยัง กกต.ควรที่จะรับรองไปก่อนแล้วก็สอยทีหลัง

“ไม่แน่ใจว่าส.ว.ชุดรักษาการจะเกิดมาขยันอะไรตอนนี้ เพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้พบว่าทำอะไรสักเท่าไหร่ ตอนนี้น่าจะเปิดให้เป็นเวลาของส.ว.คณะใหม่เข้ามาได้แล้ว และโดยมารยาทการเลือกได้สิ้นสุดลงแล้ว หมดวาระหน้าที่ของส.ว.ชุดปัจจุบันแล้ว ควรจะหยุดปฏิบัติหน้าที่ได้แล้ว เป็นหน้าที่ของชุดใหม่ ” รศ.ดร.นันทนา กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีส.ว.ชุดรักษาการจะมีการนัดประชุมโดยพุ่งเป้าไปที่ส.ว.ชุดใหม่โดยตรงในเรื่องกระบวนการเลือก ส.ว. รศ.ดร.นันทนา กล่าวว่า กระบวนการเลือก ส.ว.ไม่ใช่เรื่องของส.ว.ชุดเก่า ถ้าบุคคลใดมีข้อสงสัยต้องการร้องคัดค้าน ก็ไปร้องคัดค้านที่กกต. ไปตรวจสอบกันตรงนั้น ไม่ใช่บทบาทของส.ว.เก่าที่จะมาตรวจสอบ ตนคิดว่าผิดช่องทาง ผิดภาระหน้าที่ ส.ว.ชุดเก่าควรหยุดปฏิบัติหน้าที่ได้แล้ว

ตำรวจ รวบ!! หนุ่มเชียงราย ฉีกบัตรเลือกตั้ง อบจ. อ้าง!! ไม่อยากเลือกใคร ไม่รู้ผิดกฎหมาย

(1 ก.พ. 68) ที่ศูนย์กีฬาเทศบาลเมืองบางแก้ว ซึ่งเป็นหน่วยเลือกตั้ง อบจ. บรรยากาศการเลือกตั้ง เป็นไปอย่างคึกคัก ประชาชนทยอยเดินทางมารอใช้สิทธิ ตั้งแต่ก่อนเปิดหีบเลือกตั้ง

โดยประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เปิดเผยว่า อยากเห็นนายก อบจ. คนใหม่เข้ามาแก้ปัญหาเรื่องเส้นทางคมนาคมในพื้นที่ การเข้าถึงสถานพยาบาลของรัฐที่ยากลำบาก พร้อมสะท้อนถึงปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่ชาวสมุทรปราการได้รับผลกระทบโดยตรง เนื่องจากเป็นพื้นที่โรงงานอุตสาหกรรม โดยขอให้ผู้ที่จะมาเป็นนายกอบจ.คนใหม่ ทำงานให้เต็มที่

ทั้งนี้ นายนพดล สมยานนทนากุล ผู้สมัคร นายก อบจ.สมุทรปราการ ได้เดินทางมาใช้สิทธิ และเชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง

จากนั้นเวลา 11.30 น. นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เดินทางมาที่ จ.สมุทรปราการ เพื่อสังเกตการณ์การเลือกตั้ง และดูความเรียบร้อยในภาพรวมของพื้นที่ พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า ตนมาติดตามว่า ขณะนี้ตัวเลขผู้ใช้สิทธิ์เป็นอย่างไร และกลุ่มแรงงานต่างๆ ได้รับการอำนวยความสะดวกจากนายจ้างหรือไม่

สำหรับบรรยากาศการเลือกตั้ง นายก อบจ.เชียงราย และส.อบจ.เชียงราย ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 24 ต.บ้านดู่ จ.เชียงราย ประชาชนทยอยมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง โดยบรรยากาศทั่วไปเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย

ขณะที่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 7 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่จัน นำโดย พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ จิตรประสาร ผกก.สภ.แม่จัน ได้ทำการควบคุมตัว นายณัฐกิต อายุ 27 ปี ชาว ต.ป่าซาง หลังจากที่ได้ฉีกบัตรเลือกตั้งภายในคูหาเลือกตั้ง

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายณัฐกิต ได้ให้การว่า ตนไม่ต้องการเลือกใคร จึงต้องการทำให้เป็นบัตรเสีย จึงได้ฉีกบัตรเลือกตั้ง แต่ไม่ทราบว่า การฉีกบัตรเลือกตั้งนั้นเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย หลังจากที่ได้ทำการสอบสวนเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวส่งไปพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top