Monday, 21 April 2025
ขายออนไลน์

รวบ 7 โจ๋ ฉะเชิงเทรา!! ‘กวาดล้างแก๊งค้าอาวุธปืนเถื่อนขายทางออนไลน์’ พบของกลาง พร้อมรับสารภาพ

วันนี้ 10 ต.ค.64 เวลา 14.30 น. ตามนโยบายของตำรวจ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ให้กองบัญชาตำรวจภูธรภาค 2 ดำเนินการให้ระดมกวาดล้าง ยาเสพติดและอาวุธปืน รวมตลอดถึงอาชญากรรมทุกประเภท อันเป็นการซ้ำเติมปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จึงสั่งการให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ดำเนินการระดมกวาดล้างตามสั่งการอย่างเคร่งครัด และให้มีผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ได้สั่งการให้พล.ต.ตนันทวุฒิ สุวรรณละออง ในฐานะผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา พ.ต.อ. นเรวิช สุคนธวิท รอง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.คมกฤษ ศรีผ่องงาม รอง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา  พ.ต.อ. ชาตรี สุขศิริ รอง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.ต.อ. ธราเทพ ตูพานิช รอง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.ต.อ. นิพนธ์ คล้ายสิงห์ รอง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.ชินวุฒิ ตั้งวงษ์เลิศ ผกก.สภ.ฉิมพลี ระดมกวาดล้างอาชญากรรม และสืบสวนติดตามขยายผลจับกุมกลุ่ม ยาเสพติดและอาวุธปืนในพื้นที่รับผิดชอบ

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2564  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉิมพลี ได้ร่วมกันจับกุมตัว ได้แก่

         1.นายจักกริช ยะก๊บ  อายุ 18 ปีอยู่บ้านเลขที่ 15/1 ม.7 ต.พระอาจารย์ อ.องครักษ์ จ.นครนายก

         2.นายศุภโชค แซ่ตั้น อายุ 21 ปี บ้านเลขที่ 40/4 ม.01 ต.ศาลาแดง อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา

รวมกับ ผู้ต้องหา อีก 5 คน ซึ่งเป็นเยาวชน

พร้อมด้วยของกลาง

-  อาวุธปืนไทยประดิษฐ์แบบรีวอลเวอร์ , แบบกึ่งออโตเมติก ,แบบหักลำกลาง รวม 19 กระบอก

-  เครื่องกระสุนปืนขนาด .38 มม. ขนาด 11 มม. ขนาด .22 มม. ขนาดลูกซองเบอร์ 12 รวม 98 นัด

- กัญชาแห้ง 1.61 กรัม

- บันทึกผลตรวจปัสสาวะผลบวก 5 แผ่น

ตร.ปทุมฯ รวบ! สาวแสบหลอกขายมือถือออนไลน์ ก่อนเชิดเงินหนี พบเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 7 ล้านบาท

สถานีตำรวจภูธรสามโคก จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 แถลงจับกุมตัว นางสาวรุ้งไพลิน อินทรพัฒน์ อายุ 23 ปี  ที่อยู่ 390 ถนนคลองเรียน 1 ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงชลา ตามหมายจับ จำนวน 2 หมาย ดังนี้ 1.หมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 133/2564 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2564 ซึ่งต้องหากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” และ 2.หมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ 330/2564 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2564 ซึ่งต้องหากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” โดยทางเจ้าหน้าที่ตามจับกุม นางสาวรุ้งไพลิน อินทรพัฒน์ อายุ 23ปี  ได้ที่จับกุม หน้าบ้านเลขที่ 429/6 ถนนธรรมนูญวิถี ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และในวันที่ 22 ตุลาคม 2564 เวลาประมาณ 14.30 น.ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวมาที่ สถานีตำรวจภูธรสามโคก จังหวัดปทุมธานี

ด้านพล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 กล่าว่า ตามนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ระดมกวาดล้างอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้านให้แก่ประชาชนและเป็นภัยต่อสังคม โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งมีการหลอกลวงประชาชนโดยใช้สื่อสังคมออนไลน์(Social Media) เป็นจำนวนมาก ตำรวจภูธรภาค 1 ได้สั่งการให้กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 พร้อมชุดสืบสวน สภ.สามโคก ทำการสืบสวนจับกุม ผู้กระทำความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับ ผู้กระทำความผิด โดยการหลอกลวงประชาชน โดยใช้สื่อสังคมอนไลน์(Social Media )

กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 1 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.สามโคก ได้ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.รุ้งไพลิน อินทรพัฒน์ อายุ 23 ปี  ที่อยู่ 390 ถนนคลองเรียน 1 ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงชลา ตามหมายจับ จำนวน 2 หมาย ดังนี้

1.หมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 133/2564 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2564 ซึ่งต้องหากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” และ

2.หมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ 330/2564 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2564 ซึ่งต้องหากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง”

โดยทางเจ้าหน้าที่ตามจับกุม นางสาวรุ้งไพลิน อินทรพัฒน์ อายุ 23ปี จึงได้นำตัวมาที่ สถานีตำรวจภูธรสามโคก จังหวัดปทุมธานี พฤติการณ์ กล่าวคือ ก่อนเกิดเหตุ น.ส.รุ้งไพลิน อินทรพัฒน์ (ผู้ต้องหา) ได้ประกาศหลอกขายสินค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่ ยี่ห้อไอโฟน รุ่น เอ็กซ์อาร์ (Iphone XR) สีดำ ขนาด 64 Gb ในราคาประมาณ 11,000-12,000 บาท ในแอปพลิเคชั่นอินสตาแกรม(Instagram) ที่รับฝากขายสินค้าประเภทไอที ซึ่ง น.ส.รุ้งไพลินฯ ผู้ต้องหา ได้ลงรายละเอียดของข้อมูลสินค้าพร้อมข้อมูลการ ติดต่อซื้อ-ขายสินค้าระหว่างกัน

โดยเมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อและสนใจซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่ฯที่น.ส.รุ้งไพลินฯ (ผู้ต้องหา) ที่ประกาศเอกสารประชาสัมพันธ์หลอกขาย ผู้เสียหายจะไปติดต่อซื้อโทรศัพท์ฯกับน.ส.รุ้งไพลินฯผู้ต้องหาผ่านทางแอปพลิเคชั่นไลน์(Line)กับตัวน.ส.รุ้งไพลินฯผู้ต้องหา โดยระหว่างที่พูดคุยซื้อ-ขายกันอยู่นั้น น.ส.รุ้งไพลินฯ (ผู้ต้องหา) จะใช้กลอุบายสร้างความน่าเชื่อถือ ว่ามีสินค้าฯจริง และจะแถมอุปกรณ์เสริมจำนวนหลายรายการให้ ซึ่งสร้างความน่าเชื่อถือ และแรงจูงใจ ในการซื้อโทรศัพท์ฯให้กับผู้เสียหาย และเมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ ได้ตกลงราคาซื้อ-ขายแล้วเรียบร้อยแล้ว น.ส.รุ้งไพลินฯ (ผู้ต้องหา) จะส่งบัญชีธนาคารของน.ส.รุ้งไพลินฯ ให้กับผู้เสียหายไว้สำหรับโอนเงินชำระค้าโทรศัพท์ฯ เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงโอนเงินให้กับน.ส.รุ้งไพลินฯผู้ต้องหาไป น.ส.รุ้งไพลินฯ (ผู้ต้องหา)ไม่ยอมส่งสินค้าโทรศัพท์ฯ ให้กับผู้เสียหาย และเมื่อผู้เสียหายได้ทวงถามน.ส.รุ้งไพลินฯ (ผู้ต้องหา) ก็ได้บ่ายเบี่ยงที่จะส่งสินค้า และจะบล็อกผู้เสียหายทันที จนไม่สามารถติดต่อตัวน.ส.รุ้งไพลินฯ (ผู้ต้องหา)ได้ ต่อมาผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ดำเนินคดีกับน.ส.รุ้งไพลินฯ (ผู้ต้องหา) จนกว่าคดีจะถึงที่สุด

ต่อมาพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน และขออนุมัติหมายจับต่อศาลฯ ตามรายละเอียดข้างต้น เพื่อสืบสวนติดตามตัวน.ส.รุ้งไพลินฯ (ผู้ต้องหา) มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อมาวันที่ 22 ตุลาคม 2564 เวลาประมาณ 14.30 น. จากการสืบสวนจนทราบว่า น.ส.รุ้งไพลินฯ (ผู้ต้องหา) ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับฯ ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 469/6 ถนนธรรมนูญวิถี ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึง และพบน.ส.รุ้งไพลินฯ (ผู้ต้องหา) ยืนอยู่บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว ทางเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุม จึงได้เข้าไปแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ โดย น.ส.รุ้งไพลินฯ (ผู้ต้องหา) รับเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และยังไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับในคดีนี้มาก่อน จากนั้นเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุม จึงได้แจ้สิทธิ์และข้อกล่าวหา ตามหมายจับ ให้น.ส.รุ้งไพลินฯผู้ต้องหาทราบ ว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” ทางด้าน น.ส.รุ้งไพลินฯผู้ต้องหาทราบและเข้าใจดีแล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

 

‘หมู่แต๋ม’ โพสต์คลิปพร้อมข้อความ เป็นกำลังใจให้ ‘คนสู้ชีวิต’ เผย!! รับจ้างซักผ้า ตั้งแต่อายุ 18 ปี ก่อนจะมีเงินล้านในวัย 24 ปี  

(16 มิ.ย.67) สมาชิกติ๊กต็อกชื่อ ‘tamnatteeหมู่แต๋ม’ โพสต์คลิปวิดีโอพร้อมเขียนข้อความว่า

เป็นกำลังใจให้ทุกคนสู้ไปด้วยกัน สอบถามได้นะครับนี่ลงแค่ส่วนหนึ่ง

ในคลิปเป็นภาพชุดเส้นทางชีวิตของเจ้าของโพสต์ตั้งแต่วัยเด็กที่ตั้งแต่เกิดมาก็เห็นแม่รับจ้างตัดผ้ากว่าจะได้เงินแต่ละบาท เรียนจบ ม.3 ก็เลือกเรียนต่อสายอาชีพ พอเรียนจบ ปวช. ก็ต่อ ปวส. ธุรกิจแรกที่ทำตอนอายุ 18 ปี แม่ดาวน์เครื่องซักผ้าให้ รับจ้างซักผ้าเพื่อส่งตัวเองเรียน ตกเย็นไปเป็นเด็กเสิร์ฟร้านหมูกระทะ

เรียนจบ ปวส.ไม่มีเงินเรียนต่อมหาวิทยาลัยจึงเลือกสอบตำรวจ แต่ก็ไม่ง่ายเลย สอบ 4 ครั้ง 3 ครั้งไม่ผ่านและครั้งที่ 4 สอบติด ตชด. กลับมาบ้านครั้งแรกกับชุดนักเรียน กราบเท้าพ่อแม่ พ่อแม่ร้องไห้ และได้ออกมาฝึกงานที่ สภ.เมืองอุดรบ้านเกิด พอเรียนจบก็เลือกบรรจุที่ กทม.

ทำงานที่ กทม.เปิดโลกมากเห็นคนรวยเยอะ รถมีแต่คันสวย ๆ คิดหาวิธีที่จะรวยบ้าง เริ่มจากรับงานพิเศษเฝ้าร้านทองในวันหยุดราชการ เป็นการ์ดรักษาความปลอดภัยนอกเวลาราชการ ขายลอตเตอรี่ ปล่อยเช่าพระ รับจ้างถ่ายละคร ได้จับเงินล้านตอนอายุ 24 ปี

อายุ 25 ปีมารู้จักแฟนขายออนไลน์ ลองขายแพ็กกันตี 3 ตี 4 ทุกวัน ซื้อรถตอนที่เด็ก ๆ ได้แค่ยืนมอง อายุ 26 ปี เป็นเจ้าของแบรนด์ อายุ 27 ปี จับมือกับโรงงานอันดับ 1 ของประเทศ

หลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไปมีคนเข้ามาคอมเมนต์ชื่นชมเป็นจำนวนมาก เช่น 

เก่งมากเลยค่ะ, เก่งมากๆ ค่ะ ความพยายามล้วน ๆ, เท่ครับ จะเป็นแบบน้องให้ได้สักวัน, สุดยอดมากครับ, แบบนี้แหละที่วัยรุ่นควรเอาเป็นแบบอย่างเป็นไอดอล ในการพัฒนาตัวเอง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top