Monday, 9 June 2025
ก่อการร้าย

สถานทูตไทยในวอชิงตัน ประกาศเตือน!! 'คนไทย' ในสหรัฐฯ เฝ้าระวังก่อการร้าย

เพจสถานเอกอัครราชทูตไทยเตือนคนไทยติดตามสถานการณ์การก่อการร้ายให้ดี หลังกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐออกโรงเตือนและให้มีผลถึง 8 ก.พ. 65

11 พ.ย. 64 เพจสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์เอกสารจากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ เตือนภัยด้านการก่อการร้ายระบุว่า เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ (DHS) ได้เผยแพร่เอกสาร National Terrorism Advisory System Bulletin (NTAS) เตือนภัยเฝ้าระวังการก่อเหตุจากกลุ่มนิยมความรุนแรงภายในประเทศ (Domestic Violent Extremists- DVEs) และกลุ่มนิยมแนวทางรุนแรงที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกลุ่มก่อการร้ายสากล ที่อาจก่อเหตุในห้วงเทศกาลวันหยุดและวันสำคัญทางศาสนาซึ่งมักจะตกเป็นเป้าหมายการโจมตีอยู่บ่อยครั้ง

โดยเตือนให้เตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินและเพิ่มความระมัดระวังกับสถานการณ์ที่อาจเกิดความเสี่ยงกับตนเอง รวมถึงขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นหรือ FBI ในกรณีที่พบเห็นเหตุการณ์ที่น่าสงสัยหรือเหตุการณ์ที่อาจก่อให้เกิดความไม่สงบ ซึ่งรวมถึงภัยคุกคามในโลกออนไลน์

อย่างไรก็ตาม กระทรวงความมั่นคงฯ ยังไม่พบภัยคุกคามเฉพาะเจาะจง และไม่มีสถานที่เฉพาะเจาะจงที่จะเกิดเหตุ

นาทีระทึก!! ‘นักเรียน ม.2’ ถูกคนร้ายบุกยิงดับ หน้ามัสยิด ในปัตตานี จนท. เร่งตามล่าผู้ก่อเหตุ คาดหลบหนี ‘อ.ยะรังฯ’

เด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.2 นั่งอยู่กับแม่หน้ามัสยิด ถูกคนร้ายขับรถมายิง เสียชีวิต 1 ราย ที่ ปัตตานี
.
(10 มี.ค.66)  เวลาประมาณ 08.35 น. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุเหตุใช้อาวุธปืนยิง ที่ม้านั่งหินขัด หน้ามัสยิดดารุสนัดวะตุสอิสลามียะห์บริเวณโรงเรียน ประชารักษ์ ม.6 ต.ปุยุค อ.เมือง จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เป็นนักเรียน ชั้น ม.2 ทราบชื่อ ด.ญ.กูตักวา เงินสองสี อายุ 14 ปี ชาวปัตตานี ถูกกระสุนปืนเข้าบริเวณหน้าอกด้านซ้าย นำส่งโรงพยาบาลปัตตานี และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

‘ฝรั่งเศส’ ยกระดับเฝ้าระวังก่อการร้ายสูงสุด หลังเกิดเหตุบุกแทงคนใน รร. คาดผลพวงสถานการณ์ฉนวนกาซา ด้าน ‘สถานทูต’ เตือนคนไทยระวังตัว

(15 ต.ค. 66) เฟซบุ๊กสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความเตือนคนไทยในฝรั่งเศส หลังเกิดเหตุการณ์วุ่นวายซึ่งคาดว่าอาจเป็นผลจากสถานการณ์ในฉนวนกาซา ดังนี้

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ขอแจ้งว่า ตามที่ทางการฝรั่งเศสได้ประกาศยกระดับการเฝ้าระวังสถานการณ์การก่อการร้ายภายในประเทศ เป็นระดับสูงสุด ภายหลังเกิดเหตุผู้ร้ายใช้มีดทำร้ายร่างกายคนในโรงเรียนฝรั่งเศส เมือง Arras เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2566 โดยทางการฝรั่งเศสคาด ว่าอาจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สู้รบบริเวณฉนวนกาซาขณะนี้อีกทั้งต่อมา วานนี้ (14 ต.ค. 66) ทางการฝรั่งเศสได้มีการอพยพผู้คนโดยด่วนออกจากพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์และพระราชวังแวร์ซาย และสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอื่นๆ เนื่องจากทางการฝรั่งเศสได้รับแจ้งเตือนว่าอาจมีการวางระเบิดในพื้นที่ดังกล่าว

สถานเอกอัครราชทูตจึงขอประกาศเตือนคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวไทยในฝรั่งเศสให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง หลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมชนและสถานที่ท่องเที่ยว ตรวจสอบเส้นทางการเดินทาง และการเปิดทำการของสถานที่ต่างๆ รวมทั้งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำของทางการฝรั่งเศสอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ หากมีเหตุด่วนและฉุกเฉินต้องการความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตกรุณาติดต่อหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน +33 6 03 59 97 05 และ +33 6 46 71 96 94

‘รัฐบาล’ เตือน ‘คนไทยในฝรั่งเศส’ เลี่ยงพื้นที่ชุมนุม-สถานที่ท่องเที่ยว  หลังทางการออกประกาศยกระดับเฝ้าระวังเหตุก่อการร้ายสูงสุด

(15 ต.ค. 66) นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประชาสัมพันธ์ข่าวสารจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปารีส ประกาศเตือนคนไทยในฝรั่งเศสให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง-ท่องเที่ยว ภายหลังทางการฝรั่งเศสประกาศยกระดับการเฝ้าระวังสถานการณ์การก่อการร้ายเป็นระดับสูงสุด

จากกรณีเกิดเหตุร้ายเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งทางการฝรั่งเศสคาดว่าอาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลาง อีกทั้งต่อมาในวันที่ 14 ตุลาคม 2566 ทางการฝรั่งเศสได้มีการอพยพผู้คนโดยด่วนออกจากพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ และพระราชวังแวร์ซาย และสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอื่น ๆ เนื่องจากทางการฝรั่งเศสได้รับแจ้งเตือนว่าอาจมีการวางระเบิดในพื้นที่ดังกล่าว

ทางสถานเอกอัครราชทูตฯ จึงได้ประกาศเตือนคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวไทยในฝรั่งเศสให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง หลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมชนและสถานที่ท่องเที่ยว ตรวจสอบเส้นทางการเดินทาง และการเปิดทำการของสถานที่ต่าง ๆ รวมทั้งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำของทางการฝรั่งเศสอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ หากมีเหตุด่วนและฉุกเฉินต้องการความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตฯ กรุณาติดต่อหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน +33 6 03 59 97 05 และ +33 6 46 71 96 94

“รัฐบาลห่วงใยสวัสดิภาพและความปลอดภัยของประชาชนไทยทุกคนด้วยขอให้ติดตามข่าวสารจากช่องทางหลักของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนการเดินทาง หรือก่อนวางแผนการเดินทางทุกครั้ง” นายสัตวแพทย์ชัย กล่าว

‘ออสเตรเลีย’ ออกกฎหมายแบน ‘การชูมือแบบนาซี’ ในประเทศ หวังไม่ให้มีที่ยืนสำหรับคนที่เชิดชู ฝ่าฝืน!! จำคุกสูงสุด 12 เดือน

(8 ม.ค. 67) สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัฐบาลออสเตรเลียได้ออกกฎหมายแบนการชูมือคารวะแบบนาซี ตลอดจนการแสดงหรือการจำหน่ายสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้าย โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ (8 ม.ค.) เป็นต้นไป กฎหมายนี้เกิดขึ้นหลังเกิดเหตุการณ์ต่อต้านชาวยิวเพิ่มขึ้นจากสงครามระหว่างอิสราเอล-กาซา

กฎหมายดังกล่าวระบุว่า การชูมือคารวะแบบนาซี หรือการแสดงสัญลักษณ์สวัสติกะหรือสัญลักษณ์ประจำหน่วยชุทซ์ชตัฟเฟิล (SS) ในที่สาธารณะ ตลอดจนการจำหน่ายและแลกเปลี่ยนสัญลักษณ์เหล่านี้ ถือเป็นความผิดต้องโทษจำคุกสูงสุด 12 เดือน

นอกจากนี้ กฎหมายใหม่ยังห้ามการแสดงหรือค้าขายแลกเปลี่ยนสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับองค์กรก่อการร้ายที่ถูกแบน เช่น กลุ่มรัฐอิสลาม (IS), ฮามาส หรือพรรคแรงงานเคอร์ดิสถาน (PKK) อย่างไรก็ตาม กฎหมายนี้มีข้อยกเว้นสำหรับการใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางวิชาการ การศึกษาหรือศิลปะ

นายมาร์ก เดรย์ฟัส อัยการสูงสุด กล่าวในแถลงการณ์ว่า กฎหมายนี้ส่งสารชัดเจนว่า ในออสเตรเลียไม่มีพื้นที่ให้สำหรับผู้ยกย่องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวหรือการก่อการร้าย

“นี่เป็นกฎหมายฉบับแรกในลักษณะนี้ และจะทำให้แน่ใจว่า ไม่มีใครในออสเตรเลียสามารถยกย่องหรือแสวงหาผลกำไรจากการกระทำและสัญลักษณ์ที่เชิดชูพวกนาซีและอุดมการณ์ชั่วร้ายของพวกมัน”

ทั้งนี้ กฎหมายดังกล่าวได้รับการเสนอในเดือนมิ.ย.และผ่านความเห็นชอบในเดือนธ.ค. 2566 โดยกฎหมายนี้มีความสำคัญมากยิ่งขึ้นท่ามกลางกระแสต่อต้านชาวยิวและศาสนาอิสลามที่เพิ่มขึ้นหลังจากเหตุการณ์การโจมตีของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ซึ่งทางการอิสราเอลรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตประมาณ 1,200 ราย และถูกจับเป็นตัวประกัน 240 ราย

ตัวอย่างกระแสเกลียดชังชาวยิวที่ปรากฏในออสเตรเลียได้แก่กรณีคลิปวิดีโอแสดงภาพชายกลุ่มเล็ก ๆ ในม็อบสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ที่ชุมนุมกันนอกซิดนีย์โอเปราเฮาส์เมื่อเดือนต.ค. โดยมีการตะโกนว่า ‘gas the Jews’ (จับพวกยิวไปรมแก๊ส)

‘รัสเซีย’ บล็อก!! ‘Discord’ ข้อหาไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ด้านการสื่อสาร งานเข้า!! ทหารหมีขาว เต็มๆ เพราะดันใช้สื่อสารกันเอง ในกองทัพ

(12 ต.ค. 67) รัสเซียสั่งบล็อกการใช้งาน Discord ด้วยเหตุผลว่าไม่ปฏิบัติตามกฎหมายด้านการสื่อสารของรัสเซีย ที่ต้องป้องกันการนำไปใช้ก่อการร้าย และยาเสพติด

รัสเซียบล็อกช่องทางโซเชียลของต่างชาติ เช่น Facebook, Twitter ตั้งแต่วันแรก ๆ ของสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนช่วงต้นปี 2022 การบล็อก Discord หลังเวลาผ่านไปแล้วเกือบ 3 ปีอาจเป็นเรื่องน่าแปลกใจว่าทำไมเพิ่งมาบล็อกตอนนี้

อย่างไรก็ตาม Washington Post รายงานว่าการบล็อก Discord ครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อกองทัพรัสเซียเอง เพราะทหารในกองทัพรัสเซียสื่อสารกันด้วย Discord เนื่องจากเป็นช่องทางการส่งข้อความที่ปลอดภัย เข้ารหัส และยังไม่ถูกบล็อกการใช้งานในประเทศ ทางการรัสเซียเคยสัญญาว่าจะทำแอปแชตของตัวเอง แต่มาถึงปัจจุบันก็ยังไม่เกิดขึ้น

การบล็อก Discord ของรัสเซีย เกิดขึ้นไล่เลี่ยกับการบล็อกในตุรกี ซึ่งหน้าสถานะของ Discord ก็ยืนยันว่าถูกทั้งสองประเทศบล็อกจริง ๆ

'เทสลา ไซเบอร์ทรัก' ระเบิด ดับ 1 ราย มัสก์เชื่ออาจเป็นเหตุก่อการร้าย

(2 ม.ค. 68) เกิดเหตุรถกระบะไฟฟ้า 'ไซเบอร์ทรัก' (Tesla Cybertruck) ระเบิดที่ลานจอดรถด้านนอกโรงแรมทรัมป์ อินเตอร์เนชันแนล โฮเทล (Trump International Hotel) เมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา เมื่อวันพุธที่ 1 มกราคม ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอย่างน้อย 7 ราย ขณะที่สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI) กำลังเร่งตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าว

ภาพจากกล้องวิดีโอแสดงให้เห็นว่า รถไซเบอร์ทรักคันดังกล่าวเกิดระเบิดและไฟลุกท่วมในขณะที่จอดอยู่ด้านนอกของโรงแรมทรัมป์ อินเตอร์เนชันแนล โฮเทล

นายเควิน แมคมาฮิลล์ นายอำเภอเขตคล้ากเคาตี เปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์ KSNV ซึ่งเป็นสื่อท้องถิ่นว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 08:40 น. ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่รถคันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณทางเข้าโรงแรม และเริ่มมีควันก่อนเกิดการระเบิดอย่างรุนแรง มีผู้เสียชีวิตภายในรถ 1 ราย

สำนักงานตำรวจลาสเวกัสได้โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์ม X ระบุว่า “เรากำลังสอบสวนเหตุการณ์ระเบิดรถไซเบอร์ทรักที่ทางเข้าอาคารทรัมป์ ทาวเวอร์ส ขณะนี้เพลิงถูกควบคุมแล้ว ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงพื้นที่ดังกล่าว”

ตำรวจยืนยันว่า มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 7 ราย โดย 2 รายต้องถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษา ผู้พักอาศัยส่วนใหญ่ในโรงแรมทรัมป์ อินเตอร์เนชันแนล ได้รับการย้ายไปยังโรงแรมใกล้เคียงคือ รีสอร์ท เวิลด์ ลาสเวกัส

แหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ที่ได้รับรายงานสรุปเหตุการณ์ เปิดเผยกับสำนักข่าว ABC News ว่า รถไซเบอร์ทรักคันนี้บรรทุกดอกไม้ไฟชนิดกระสุนปืนครก (fireworks-style mortars) ซึ่งฝ่ายสืบสวนกำลังหาสาเหตุว่าการระเบิดเป็นอุบัติเหตุหรือจงใจ

“การสืบสวนกำลังพุ่งเป้าไปที่ความเป็นไปได้ของการก่ออาชญากรรมและการก่อการร้าย จนกว่าจะพบแรงจูงใจที่ชัดเจน” รายงานระบุ

ด้านนายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลา โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า “ทีมผู้บริหารระดับสูงของเทสลากำลังสอบสวนเรื่องนี้อย่างจริงจัง เรายืนยันว่าเหตุการณ์เกิดจากดอกไม้ไฟขนาดใหญ่หรือระเบิดที่อยู่ในรถไซเบอร์ทรักที่เช่ามา และไม่เกี่ยวข้องกับระบบของรถเอง”

เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความตื่นตระหนกแก่ผู้พักอาศัยในพื้นที่และผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าของเทสลา ซึ่งยังคงต้องติดตามผลการสืบสวนต่อไป

BRN ใช้!! ‘ความเงียบ’ เป็นข้ออ้างในการเดินหน้าก่อการร้าย ซุ่มยิง ลอบสังหาร ฆ่าเด็ก ผู้หญิง คนพิการ อย่างโหดเหี้ยม

(5 พ.ค. 68) ขณะที่ประเทศไทยกำลังสลดกับเหตุการณ์สะเทือนขวัญ — เด็กหญิงวัย 9 ขวบถูกยิงเสียชีวิต ผู้หญิงตาบอดถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม — กลับมีบางเสียงในสังคมผลักดันให้รัฐไทย "เจรจา" กับกลุ่มผู้ก่อเหตุภายใต้หน้ากากคำว่า "สันติภาพ" และ "หยุดยิงชั่วคราว" 15 วัน จากกลุ่ม BRN

ข้อเสนอของ BRN ดังกล่าวถูกส่งมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2568 โดยอ้างว่าเพื่อสร้าง “ความไว้เนื้อเชื่อใจ” และ “บรรยากาศสันติภาพ” แต่ตลอดช่วงเวลากว่าสามเดือนหลังจากนั้น — แทนที่เราจะได้เห็นท่าทีสงบ — กลับเต็มไปด้วยข่าวการซุ่มยิง การลอบสังหาร และที่รุนแรงที่สุดคือการฆ่าเด็ก ผู้หญิง และผู้พิการ

นั่นคือหลักฐานชัดเจนว่า BRN ไม่ได้รอการตอบรับ — แต่ใช้ “ความเงียบ” เป็นข้ออ้างในการเดินหน้าก่อการร้ายต่อ

1. ข้อเสนอที่ขาดความจริงใจ ไม่ใช่หนทางของประเทศไทย
“สันติภาพ” ที่ปราศจากจริยธรรม ไม่ใช่สันติภาพที่ประเทศไทยควรยอมรับ ข้อเสนอของ BRN ฟังดูหรูหราทางเทคนิค แต่ในทางคุณธรรม มันคือการขอคืนภาพลักษณ์จากสังคมโลก โดยไม่ต้องไถ่โทษให้เหยื่อแม้แต่รายเดียว ประเทศไทยจะให้รางวัลกับความรุนแรงหรือ??

2. หยุดยิง 15 วัน หรือหยุดเพื่อตั้งลำยิงใหม่?
ข้อเสนอ “หยุดยิงสองฝ่าย” โดยตั้งทีมติดตามจาก CSO และ NGO ที่ไร้ความชัดเจนในจุดยืน อาจเป็นเพียงกลไกให้ BRN ซุ่มสะสมกำลังใหม่ พื้นที่หยุดยิงคือพื้นที่ปลอดภัยสำหรับผู้ก่อการร้าย ไม่ใช่สำหรับประชาชน

3. ความเงียบของทางการไทย คือหลักประกันว่าประเทศนี้ไม่อ่อนข้อให้ความตาย
การที่ไทยยังไม่ตอบรับตลอด 3 เดือน ไม่ได้แปลว่าไม่ใส่ใจ แต่เป็นการแสดงจุดยืนอย่างมีหลักการ เพราะความเงียบไม่ควรถูกตอบแทนด้วยกระสุนที่ยิงใส่เด็กวัย 9 ขวบ หรือคนชราที่ไร้อาวุธ

4. หาก BRN จริงใจ – หยุดยิงโดยไม่ต้องต่อรอง
ประเทศไทยไม่ใช่ผู้เริ่มความรุนแรง และไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายยื่นมือก่อน หาก BRN ต้องการเจรจาจริง — ขอให้ปลดอาวุธ หยุดทุกการกระทำอันเป็นภัยต่อประชาชน และแสดงความเสียใจกับเหยื่อ เสียก่อน

5. ยื่นข้อเสนอแล้วฆ่าเด็ก = เจตนาไม่บริสุทธิ์
การที่ BRN ยื่นข้อเสนอหยุดยิง แต่กลับดำเนินความรุนแรงต่อเนื่อง โดยเฉพาะต่อเป้าหมายที่อ่อนแอที่สุดของสังคม คือ การกระทำที่เป็นปฏิปักษ์โดยตรงต่อแนวคิด “สันติภาพ”

หากยังมีใครพยายามผลักให้ประเทศไทยยอมอ่อนข้อในสถานการณ์เช่นนี้ — จงอย่าหลอกตัวเองว่านั่นคือสันติภาพ แต่คือการเปิดประตูให้กับการทำร้ายซ้ำอีกครั้ง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top