Sunday, 8 June 2025
การเกิด

ทารกหญิงจากฟิลิปปินส์ ประชากรโลกคนที่ 8 พันล้าน ถือกำเนิดเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2022 เวลา 01.29 น.

(16 พ.ย. 65) องค์การสหประชาชาติประกาศให้วันที่ 15 พฤศจิกายน 2022 เป็นวันที่ประชากรโลกมีครบ 8,000 ล้านคน โดยมีทารกน้อยเพศหญิง ชื่อว่า Vinice Mabansag เกิดที่โรงพยาบาล Dr. Jose Fabella Memorial ในกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อคืนวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 เวลา 01.29 น. เธอได้รับเลือกให้เป็นบุคคลที่ 8,000 ล้านของโลกอย่างเป็นทางการ

การเพิ่มขึ้นของประชาการโลก จาก 7,000 ล้านคน เป็น 8,000 ล้านคน ใช้เวลาทั้งสิ้น 11 ปี (ค.ศ.2011 หรือ พ.ศ.2554 ถึง ค.ศ.2022 หรือ พ.ศ. 2565) นอกจากนี้ องค์กรสหประชาชาติยังได้คาดการณ์ไว้ว่า ประชากรโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 ล้านคนในอีก 58 ปีข้างหน้า หรือประมาณปี ค.ศ.2088

ทั้งนี้ ตามรายงานใหม่ของสหประชาชาติผู้คนทั่วโลกมีอายุยืนยาวขึ้นและมีลูกน้อยลง โดยอายุขัยของคนโดยเฉลี่ยคาดว่าจะอยู่ที่ 77.2 ปี ในปี 2050 ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 72.98 ปี ในปี 2019 ส่วนอัตราการเกิดทั่วโลกก็ชะลอลง

ธรรมะประจำวันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม 2567 : การเกิดเป็นทุกข์ แล้วทำไมยังต้องเกิด?

จากช่องติ๊กต็อก @dhamma_tv ได้เผยแพร่คำสอนเรื่อง ‘การเกิดเป็นทุกข์ ทำไมยังต้องเกิด?’ จากรายการ ‘ธรรมะทำไม’ โดย ‘พระครูศรีปริยัติวิสุทธิ์ (หลวงพ่อโกวิท)’ รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา เจ้าอาวาสวัดด่านใน

คำถาม: ถ้าการเกิดเป็นทุกข์ แล้วทําไมถึงยังให้มนุษย์เกิดอีก? แล้วอะไรจะการันตีว่าถ้าเดินตามทางพุทธศาสนา จะพบความสุขหรือนิพพาน ทั้งที่บางคนก็เกิดมาทุกข์บางคนก็เกิดมาสุข เพราะบางศาสนาหลักการมันง่ายกว่าศาสนาพุทธหรือเปล่า?

พระครูศรีปริยัติวิสุทธิ์ (หลวงพ่อโกวิท): การเกิดหรือไม่เกิด เป็นเรื่องของเรานะ ไม่มีใครมาให้เกิดหรือไม่ให้เกิดนะ ไม่มีเทพหรือศาสดาองค์ใดมาอนุมัติให้เราเกิด เพียงแต่ว่าในคําสอนทางพุทธเจ้า สอนไว้ว่าถ้าไม่อยากเกิดก็ให้ปฏิบัติธรรมให้ได้บรรลุเป็นขั้น ๆ ไป แต่การจะบรรลุธรรมให้สิ้นภพสิ้นชาติ ก็ไม่ได้ทำกันได้ง่าย ๆ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าทำไม่ได้ ถ้าเรามานะและทำถึง

ยกตัวอย่าง การเรียนจบปริญญาตรี โท เอก มีคนเรียนจบมากมาย คนเรียนไม่จบก็มาก คำถามคือคนที่เรียนไม่จบ ทำไมถึงไม่เรียน ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นก็มีเหตุ มีปัจจัยมากมายต่างกัน เช่น สุขภาพไม่ดี เงินทองไม่พอ เวลาไม่เอื้ออำนวย จึงไม่สามารถกำหนดให้ทุกคนเหมือนกันหมดไม่ได้

ฉะนั้น ตามหลักคำสอนของศาสนาพุทธที่พระพุทธเจ้าสอนไว้เปรียบเสมือนพระองค์บอกทาง ส่วนการเดินไปถึงจุดหมายหรือไม่เป็นเรื่องของเรา บางคนอยากไปถึงไว ก็รีบเดิน บางคนไม่ได้อยากถึงไว ก็จะเดินช้า ๆ ดังนั้นไม่มีใครมาทําให้เราเกิด หรือไม่เกิด

ส่วนเรื่องที่บอกว่า ‘การเกิดเป็นทุกข์’ พระพุทธเจ้าตรัสสอนอย่างนี้ เพื่อให้เราหาทางออกจากทุกข์ เพราะว่าต้นธารแห่งความทุกข์ มีที่มาจากการเกิด การเจ็บป่วยก็มาจากการเกิด แก่ชราก็มาจากการเกิด หรือแม้กระทั่งความตายก็มาจากการเกิด

สุดท้าย ‘พระนิพพาน’ อยากจะบอกทุกท่านว่าอย่าไปเถียงกัน เพราะจะไม่จบด้วยการเถียง การคุยกันเรื่องนิพพาน ก็เหมือนกันการคุยเรื่องรสชาติ (หวาน เค็ม มัน เผ็ด) แต่ทั้งคู่ไม่เคยกินเลย ต่อให้เถียงกันจนตายก็ไม่รู้เรื่อง ทางเดียวที่จะรู้คือเอาเข้าปากแล้วเคี้ยว ถึงจะรู้ว่านั้นคือรสชาติอะไร 

ดังนั้นในเรื่องของ ‘นิพพาน’ การรู้กับความรู้ ไม่เหมือนกัน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top