Tuesday, 22 April 2025
กองทัพจีน

ทำไมอำนาจการเมืองจีนอยู่ในกำมือสีจิ้นผิงแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด และเป็นไปไม่ได้ที่จะถูกยึดอำนาจ !!

‘ทำไมรัฐประหาร ‘สีจิ้นผิง’ เป็นไปไม่ได้!!’ โครงสร้างการเมืองจีนซับซ้อนซ่อนเงื่อน ประชุมลับ #เป่ยไต้เหอ หากมีความเห็นต่างก็เคลียร์ใจ #สลายขัดแย้ง แล้วก็จบ !! ไม่มีการดิสเครดิตกันทางการเมืองหรือหวังยึดอำนาจ #จบคือจบ 

>> ที่มาข่าวลือรัฐประหาร ‘สีจิ้นผิง’ และความซับซ้อนโครงสร้างอำนาจในจีน
ตอนนี้ถือเป็นช่วงใกล้การประชุมใหญ่สมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 (จัดประชุมทุก 5 ปี) ซึ่งการประชุมครั้งนี้ ผู้นำระดับ“คีย์แมน”ของจีน ซึ่งมีอยู่ 7 คน บางคนอาจจะถูกปรับเปลี่ยนออกไปตามกลไก แต่ที่จะไม่เปลี่ยนแปลง คือเบอร์ 1 ของพรรคฯ ‘สีจิ้นผิง’ และเป็นการครองตำแหน่งในวาระที่ 3 ของสีจิ้นผิงด้วย ดังนั้น ข่าวลือ ข่าวปล่อยในช่วงนี้ของจีน โดยเฉพาะประเด็นรัฐประหารในจีน จึงกลายเป็นที่จับตาทั้งของไทยและชาวโลก 

‘จีนมีความซับซ้อนซ่อนเงื่อน’ ในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะด้านการเมืองของจีนมีความแตกต่างจากประเทศไทย และหลาย ประเทศทั่วโลก บางเรื่องเป็นสิ่งที่เราไม่รู้ และจีนเองไม่เปิดเผยข้อมูลออกสื่อ จึงทำให้เกิดข้อสงสัยกลายเป็นปริศนา ด้วยเหตุนี้ จึงควรที่จะทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบการเมืองการปกครองในแบบของจีน...

>> หมวก 3 ใบ กุมอำนาจการเมือง การปกครอง และการทหารในจีน
เพื่อความเข้าใจที่ชัดเจน อาจารย์จะขออธิบายกลไกการเมืองการปกครองของสาธารณรัฐประชาชนจีน ดังนี้…

‘พรรคคอมมิวนิสต์จีน’ เปรียบเสมือนเป็น ‘สถาบันการเมืองสูงสุดของจีน’ เป็นพรรคการเมืองเดียวที่กุมอนาคตประเทศจีน ในขณะนี้ มีสมาชิก 90 กว่าล้านคน และมีกลไกโครงสร้างซับซ้อน ที่สำคัญ พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ในการเข้าไปแทรกซึมในทุกภาคส่วนของจีน ทั้งทางตรงและทางอ้อม

'สื่อมะกัน' หักหน้า 'สีจิ้นผิง' เต้าข่าว!! กองทัพจีนโกงกันยับ คอร์รัปชันยันเชื้อเพลิง จนต้องเติมขีปนาวุธด้วยน้ำเปล่า

(10 ม.ค. 67) กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันใด เมื่อสำนักข่าว Bloomberg ของสหรัฐฯ ได้รายงานข่าวโดยอ้างอิงแหล่งข่าวจากหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ว่า ตอนนี้จีนกำลังเจอปัญหาคอร์รัปชันเรื้อรังภายในกองทัพที่โกงกันสนั่น จนล่าสุดจับได้ว่ามีการแอบกรอกน้ำเปล่าแทนน้ำมันเชื้อเพลิงในขีปนาวุธที่ฐานทัพในมณฑลซินเจียง จนขีปนาวุธไม่อยู่ในสถานะพร้อมยิงได้เลย หากมีคำสั่งด่วนขึ้นมา

ปัญหานี้ ทำให้ สี จิ้นผิง เสียหน้ามาก และมีคำสั่งให้สังคายนากองทัพจีนอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะหน่วย 'Rocket Force' หรือ 'กองทัพขีปนาวุธของจีน' ที่มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลตั้งแต่ขีปนาวุธนิวเคลียร์ ไปจนถึงขีปนาวุธพิสัยใกล้-ไกล และข้ามทวีปที่ติดตั้งในเขตยุทธศาสตร์ต่างๆ เช่นฐานทัพที่เมืองฮามิ ในมณฑลซินเจียง หรือขีปนาวุธในปฏิบัติการซ้อมรบบริเวณช่องแคบไต้หวัน ที่กำลังตึงเครียดกันอยู่ในขณะนี้

และหากข่าวกรองเป็นจริง อาจต้องมีการประเมินศักยภาพกองทัพจีนใหม่ทั้งหมด เพราะข้อมูลขีปนาวุธของกองทัพจีนที่มีและถูกนำมาโชว์อย่างยิ่งใหญ่ในงานพิธีสวนสนามที่สำคัญ ตอนนี้ไม่อาจรู้ได้เลยว่าพร้อมใช้ยิงจริงๆ ได้กี่เปอร์เซ็นต์?

ว่าแต่ข่าวเรื่องกองทัพจีนแอบกรอกน้ำเปล่า แทนน้ำมันในขีปนาวุธ ตามที่สื่อชั้นนำของสหรัฐอ้างนั้น เป็น Fact News หรือ Fake News กันแน่? วันนี้มาลองถกประเด็นกันหน่อยดีกว่า 

สำหรับข่าววงในของจีนที่เกี่ยวกับการคอร์รัปชันนั้นมีให้เห็นบ่อยๆ ยิ่งในยุคของผู้นำ สี จิ้นผิง ที่ชูนโยบายปราบโกง กวาดล้างคอร์รัปชันในทุกองค์กร ทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา 

แต่ข่าวการคอร์รัปชันในกองทัพ โดยเฉพาะในกองกำลังขีปนาวุธนั้น มีความแปลกที่ไม่เหมือนเคสอื่นๆ ที่ผ่านมา ไม่ใช่เพราะรูปแบบการคอร์รัปชันที่พิสดารกว่าองค์กรอื่น แต่เพราะ กองกำลังขีปนาวุธถือเป็นหน่วยลับ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลทางทหารและความมั่นคงของชาติ ที่ไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณชนได้ในหลายๆ เรื่อง 

อีกทั้งยังเป็นหน่วยที่ สี จิ้นผิง ฝากความหวังไว้ค่อนข้างมาก ที่จะเป็นหน้าเป็นตาของกองทัพจีน ว่ามีแสนยานุภาพด้านขีปนาวุธระดับสูงทันสมัย ไม่แพ้ชาติมหาอำนาจใดๆ ในโลก ถ้าหากวันนี้จีนจำเป็นต้องออกศึกจริงๆ ลุงสีแกก็มั่นใจแหละว่าสู้ได้ 

แต่ทว่า ในปี 2023 ที่ผ่านมา ก็มีข่าวการปลดฟ้าผ่า ผู้บังคับบัญชาระดับสูงแห่งกองทัพขีปนาวุธออกมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่มีข่าวการตรวจสอบทุจริตของหน่วยงานต่อต้านคอร์รัปชันในกองทัพ และคนที่หลุดจากตำแหน่งคนแรกคือ หวัง เฟิงเหอ รัฐมนตรีกลาโหม และ ผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกองทัพขีปนาวุธ ที่ประกาศลาออกอย่างกะทันหัน และถูกเก็บตัวเงียบตั้งแต่เดือนมีนาคม 2023 

หลังจากนั้นเพียง 3 เดือน ผู้บังคับบัญชาของกองทัพจรวดถูกปลดฟ้าผ่าอีก 3 คนรวด คือ หลี่ หยูเชา, สู จงโป๋ และ จาง เจิ้งจง พร้อมข่าวลือสะพัดเรื่องการยักยอก ฉ้อโกง และการขายความลับของกองทัพจีนผ่านลูกชายของ หลี่ หยูเชา ที่ไปศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกา  

ตามมาด้วยข่าวการเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาของ อู่ กั๋วฮวา อดีตรองผู้อำนวยการกองกำลังขีปนาวุธและหัวหน้าแผนการลับที่สาม ที่ทางการจีนประกาศว่าเสียชีวิตจากโรคประจำตัว แต่อดีตเพื่อนร่วมงานออกมาเปิดเผยว่าเขาฆ่าตัวตายจากความเครียดที่เกิดจากหน้าที่การงาน 

ต่อมาเดือนตุลาคม ก็มีคำสั่งปลด หลี่ ฉางฝุ รัฐมนตรีกลาโหมที่มาแทนตำแหน่งของ หวัง เฟิงเหอ ได้ไม่ทันข้ามปี และถูกสั่งเก็บตัวเงียบ ไม่ออกสื่อให้เห็นหน้าอีกเลย

การสังคายนากองทัพขีปนาวุธ ยังไม่จบแค่นั้น วันที่ 29 ธันวาคม ก่อนปิดสิ้นปี ก็มีคำสั่งปลดเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกองทัพรวดเดียวอีก 9 คน แถม 5 ใน 9 คนที่ถูกเด้ง ก็ยังเป็นคนของกองทัพขีปนาวุธเสียด้วย 

ข่าวลือจึงยิ่งสะพัดว่า น่าจะมีความไม่ชอบมาพากลภายในกองทัพขีปนาวุธจีนอยู่เยอะมากทีเดียว ที่ทำให้เกิดการสับเปลี่ยนตำแหน่งผู้บัญชาการระดับสูงในหน่วยนี้ ที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นการ 'ล้างบาง' ก็ว่าได้ จนกระทั่งสื่อมะกันออกมาแฉหนึ่งในปัญหาการคอร์รัปชันในกองทัพขีปนาวุธ คือ การยักยอกน้ำมันเชื้อเพลิง จนต้องกรอกน้ำเปล่าเข้าไปในถังน้ำมันแทน 

สื่อตะวันตกยังขยายความว่า ทหารในกองทัพแอบยักยอกเอาน้ำมันเชื้อเพลิงไปใช้เองบ้าง เอาไปใช้แทนแก๊ซหุงต้ม เติมหม้อไฟบ้าง จนไม่มีน้ำมันจริงไว้เติมขีปนาวุธ

*** แต่ทั้งนี้ สื่อสายเอเชียบางแห่งตั้งข้อสงสัยว่า ข่าวเรื่องเติมน้ำเปล่า แทนน้ำมันในขีปนาวุธตาม ที่หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ อ้าง น่าจะเป็น Fake News มากกว่า เพราะกองทัพจีนไม่น่าเติมน้ำมันเต็มถังทิ้งค้างไว้ในตัวขีปนาวุธนานๆ อยู่แล้ว และก็ไม่จำเป็นต้องใส่น้ำลงไปในถังเชื้อเพลิงแทนก็ได้ 

เพราะหากทำเช่นนั้น จะกลายเป็นความผิดร้ายแรงยิ่งกว่าการยักยอกน้ำมันเสียอีก เพราะเข้าข่ายการก่อวินาศกรรม บ่อนทำลายชาติ กลายเป็นคดีความมั่นคงร้ายแรงที่จะไม่จบแค่การถูกปลด ถูกเด้งจากตำแหน่งแน่นอน

เมื่อพิจารณาข้อเท็จจริงในแง่มุมนี้ ข่าวเรื่องการแอบเติมน้ำเปล่าแทนน้ำมันไม่น่าจะจริง แต่ถ้าเป็นประเด็นเรื่องคอร์รัปชัน ยักยอกเชื้อเพลิง ทรัพย์สิน หรือการขายความลับให้ชาติคู่อริ น่าจะมีมูลมากกว่า ที่สั่นสะเทือนกองกำลังขีปนาวุธจีนอยู่ในตอนนี้

และยังถือเป็นการหยามสี จิ้นผิง อย่างไม่น่าให้อภัย เนื่องจากสี จิ้นผิง เป็นคนอนุมัติงบประมาณมหาศาลให้กับกองทัพขีปนาวุธ ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งผู้นำจีนเพื่อขยายแสนยานุภาพทางทหาร ให้ครอบคลุมไปไกลทั่วโลกด้วย เมื่อหวังมากย่อมแค้นมากเป็นธรรมดา 

อีกทั้งปัญหานี้มันไม่ได้มีแค่มิติการคอร์รัปชัน แต่เป็นเรื่องของความจงรักภักดีต่อชาติ และรัฐบาลจีนด้วย จึงเชื่อได้ว่า การล้างบางภายในกองทัพขีปนาวุธ รวมถึงกองกำลังหน่วยอื่นๆ จะมีตามมาอีกระลอกใหญ่อย่างแน่นอนในไม่ช้านี้

‘จีน’ เปิดตัว ‘หุ่นยนต์สุนัขติดไรเฟิล’ ระหว่างซ้อมรบกับต่างชาติ ตอกย้ำ!! เทคโนโลยีสงครามของประเทศก้าวหน้าไประดับหนึ่ง

(29 พ.ค. 67) สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ในระหว่างการซ้อมรบ Golden Dragon 2024 ของกองทัพกัมพูชา และจีน กองทัพจีนได้เปิดตัว ‘หุ่นยนต์สุนัข’ ที่ติดตั้งอาวุธปืนไรเฟิลอัตโนมัติไว้ที่หลัง ซึ่งเทคโนโลยีนี้ได้เปลี่ยนเพื่อนรักแสนรู้ของมนุษย์ ไปอยู่ในรูปแบบของ ‘เครื่องจักรสังหาร’

‘เฉิน เว่ย’ ทหารจากกองทัพจีน กล่าวผ่านวิดีโอการซ้อมรบที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวซีซีทีวีของรัฐบาลจีนว่า

ในการเปิดตัวหุ่นยนต์สุนัข กองทัพจีนได้แสดงให้เห็นว่า หุ่นยนต์นี้สามารถเดิน กระโดด นอน และเดินถอยหลังได้ ภายใต้การควบคุมของรีโมตสั่งการ

นอกจากนี้ ในการซ้อมรบ กองทัพจีนยังได้เปิดตัวปืนไรเฟิลอัตโนมัติที่ติดตั้งอยู่ใต้โดรนแบบ 6 ใบพัด แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของอุปกรณ์อัจฉริยะที่ไร้มนุษย์ควบคุมของจีน

แน่นอนว่าหุ่นยนต์สุนัขที่ใช้ทางทหาร และโดรนติดตั้งอาวุธนี้ไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่ แต่รายงานของซีซีทีวีตอกย้ำว่า สุนัขอิเล็กทรอนิกส์แบกปืนไรเฟิลของจีน มีส่วนร่วมในการฝึกซ้อมระหว่างกองทัพจีน และชาติอื่น ๆ มากขึ้น อาทิ กองทัพกัมพูชา กองทัพลาว กองทัพมาเลเซีย กองทัพไทย และกองทัพเวียดนาม

อีกทั้งยังดูเหมือนว่า หุ่นยนต์สุนัขนี้จะได้รับการประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักมากมาย เพื่อแสดงถึงความก้าวหน้าของกองทัพปลดปล่อยประชาชน และหุ่นยนต์ชนิดนี้ปรากฏอยู่ในโซเชียลมีเดียของจีนมาแล้วอย่างน้อย 1 ปี

ตามข้อมูลของโกลบอลไทม์ส สื่อรัฐบาลจีน ระบุว่า การปรากฏของหุ่นยนต์สุนัขสังหารในการฝึกซ้อมร่วมกับกองทัพต่างชาติบ่งชี้ถึงการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงของจีน

นักวิชาการคนหนึ่งเผยกับโกลบอลไทม์สว่า “ปกติแล้ว อุปกรณ์ใหม่ ๆ จะไม่นำมาร่วมฝึกซ้อมกับประเทศอื่น ดังนั้น หุ่นยนต์สุนัขจะต้องมีความพร้อมทางเทคนิคในระดับหนึ่งแล้ว”

จีนปลด 2 นายพลพ้นสภาฯ เซ่นกวาดล้างทุจริตในกองทัพ

(27 ธ.ค.67) ทางการจีนประกาศปลดนายทหารระดับสูงสองนายอย่างกะทันหันจากการเป็นสมาชิกสภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) โดยไม่มีการชี้แจงอย่างละเอียด สะท้อนถึงการเดินหน้ากวาดล้างบุคลากรระดับสูงในกองทัพอย่างต่อเนื่อง  

ตามรายงานของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก คณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาประชาชนแห่งชาติได้ยกเลิกสมาชิกภาพของ หยู่ ไห่เทา อดีตรองผู้บัญชาการกองทัพบกปลดปล่อยประชาชน และ หลี่ เผิงเฉิง ผู้บัญชาการกองทัพเรือประจำเขตยุทธการภาคใต้ ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นเขตที่มีข้อพิพาทด้านดินแดน ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ จู้ ซินชุน ผู้ดำรงตำแหน่งก่อนหน้าของหลี่ ก็ถูกปลดจากสภาเมื่อปีที่ผ่านมา  

คณะกรรมาธิการระบุเพียงว่า ทั้งสองนายตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าละเมิดกฎหมายและวินัย ซึ่งมักเป็นคำที่พรรคคอมมิวนิสต์ใช้กล่าวถึงการทุจริต การดำเนินการครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการต่อต้านการทุจริตในกองทัพ ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว โดยเป้าหมายหลักในระยะแรกคือหน่วยจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์และกองกำลังขีปนาวุธ  

เมื่อเดือนที่ผ่านมา จีนได้สั่งพักงานเจ้าหน้าที่ระดับสูงในคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลาง ซึ่งเป็นองค์กรสูงสุดด้านการทหารที่มีประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เป็นประธาน นอกจากนี้ เมื่อวันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม จีนได้สร้างความประหลาดใจอีกครั้งด้วยการแต่งตั้งผู้ตรวจการทางการเมืองคนใหม่ประจำกองทัพบก  

การเคลื่อนไหวดังกล่าวตอกย้ำถึงความพยายามของรัฐบาลจีนในการเสริมสร้างความโปร่งใสและความเป็นระเบียบในกองทัพ ท่ามกลางความตึงเครียดในภูมิภาคและการเฝ้าจับตามองจากนานาชาติ

รู้จัก DF-21D และ YJ-21 ขีปนาวุธต่อต้านเรือรบของกองทัพจีน ที่พร้อมต่อกรกองเรือสหรัฐฯและพันธมิตรในทะเลจีนใต้

(17 มี.ค. 68) ในขณะที่กองเรือสหรัฐฯและพันธมิตรเสริมกำลังทางเรืออย่างเข้มข้นในทะเลจีนใต้ กองทัพเรือแห่งกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนก็ได้เผยแพร่ข้อมูลของขีปนาวุธต่อต้านเรือรบ 2 แบบซึ่งน่าจะเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่สุดต่อกองเรือสหรัฐฯและพันธมิตร

(1) DF-21D หรือที่รู้จักกันในชื่อ Dongfeng-21D เป็นขีปนาวุธพิสัยกลางของจีนที่ออกแบบมาเพื่อปฏิบัติการต่อต้านเรือรบโดยเฉพาะ โดยมีพิสัยการโจมตีประมาณ 1,500 กิโลเมตร (ประมาณ 930 ไมล์) ขีปนาวุธรุ่นนี้ใช้ระบบนำทางขั้นสูงที่ผสมผสานระบบนำทางเฉื่อย (INS) เข้ากับระบบนำทางขั้นสุดท้ายโดยใช้เรดาร์หรือวิธีการทางแสง ทำให้สามารถโจมตีเป้าหมายทางทะเลที่กำลังเคลื่อนที่ได้อย่างแม่นยำ ขีปนาวุธรุ่นนี้เข้าสู่ชั้นบรรยากาศด้วยความเร็วประมาณ 10 มัค เช่นเดียวกับขีปนาวุธพิสัยกลางทั่วไป ความเร็วปลายทางของขีปนาวุธรุ่นนี้คาดว่าจะอยู่ระหว่างมัค 3 ถึง มัค 5 ขีปนาวุธรุ่นนี้สามารถบรรทุกหัวรบระเบิดแรงสูงแบบธรรมดาหรือหัวรบนิวเคลียร์ได้ ทำให้มีขีดความสามารถในการโจมตีที่หลากหลาย 

DF-21D ซึ่งยิงจากแท่นเคลื่อนที่สามารถนำไปใช้งานและเคลื่อนย้ายได้อย่างรวดเร็ว ทำให้มีความสามารถในการเอาตัวรอดจากการถูกโจมตีตอบโต้ ขีปนาวุธรุ่นนี้ใช้งานโดยกองกำลังจรวดของกองทัพปลดปล่อยประชาชนเป็นหลัก และถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของกลยุทธ์ของจีนในการต่อต้านปฏิบัติการทางเรือของศัตรูที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะในทะเลจีนใต้ ขีปนาวุธรุ่นนี้มีการออกแบบให้มีลักษณะเฉพาะในการ "ทำลายล้างเรือบรรทุกเครื่องบิน" เป็นการเฉพาะ โดยถูกออกแบบมาเพื่อโจมตีเรือบรรทุกเครื่องบินและเรือรบขนาดใหญ่อื่น ๆ โดยใช้ความเร็วและความคล่องตัว โดยรวมแล้ว DF-21D ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในด้านความสามารถในการต่อต้านการเข้าถึง/ปฏิเสธพื้นที่ (A2/AD) ของจีน 

จีนมีทรัพยากรในการรวบรวมข้อมูลข่าวกรองที่จำเป็น รวมถึงเรดาร์ช่องรับแสงสังเคราะห์ (SAR) บนดาวเทียมในวงโคจรแบบซิงโครนัส เพื่อระบุตำแหน่งของเป้าหมายทางทะเล ส่งต่อพิกัดไปยังเครื่องยิง เมื่อทำการยิงขีปนาวุธ และแจ้งตำแหน่งอัปเดตของขีปนาวุธจะถูกส่งต่อไปผ่านลิงก์การสื่อสารผ่านดาวเทียมในระยะกลาง ขีปนาวุธมีเรดาร์ค้นหาของตัวเองสำหรับระยะสุดท้าย ซึ่งมีไม่กี่ประเทศที่มีโครงสร้างพื้นฐานสำหรับรองรับยุทโธปกรณ์เหล่านี้

(2) YJ-21 หรือที่รู้จักกันในชื่อ Yingji-21 เป็นขีปนาวุธร่อนต่อต้านเรือรบของจีนที่มีความสามารถในการโจมตีทางทะเลขั้นสูง ด้วยระยะประมาณ 1,500 กิโลเมตร (ประมาณ 930 ไมล์) ทำให้สามารถโจมตีเป้าหมายทางทะเลได้อย่างมีประสิทธิภาพจากระยะไกล ขีปนาวุธนี้ได้รับการออกแบบมาให้ยิงจากแพลตฟอร์มต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เรือผิวน้ำ เรือดำน้ำ และเครื่องบิน จึงช่วยเพิ่มความหลากหลายในสถานการณ์ปฏิบัติการที่แตกต่างกัน YJ-21 ซึ่งติดตั้งระบบนำทางขั้นสูง ใช้เรดาร์และระบบนำทางเฉื่อยเพื่อกำหนดเป้าหมายเรือที่กำลังเคลื่อนที่ได้อย่างแม่นยำ การออกแบบของ YJ-21 เน้นที่ความเร็วสูงและความคล่องตัว ทำให้สามารถหลบเลี่ยงการสกัดกั้นได้ในขณะที่เข้าใกล้เป้าหมาย ขีปนาวุธรุ่นนี้สามารถบรรทุกหัวรบระเบิดแบบธรรมดาได้ จึงเพิ่มประสิทธิภาพในการโจมตีเรือของศัตรูได้ 

ขีปนาวุธ YJ-21 (Eagle Strike 21) เป็นขีปนาวุธต่อต้านเรือรบความเร็วเหนือเสียงที่พัฒนาโดยจีน ขีปนาวุธรุ่นนี้โดดเด่นด้วยความสามารถด้านความเร็วที่น่าประทับใจ YJ-21 มีความเร็วเดินทางเกินมัค 6 ในระยะกลางของการเคลื่อนที่ในระดับความสูงมาก (~30 กม.) ที่อากาศเบาบาง ในระยะสุดท้าย ขีปนาวุธรุ่นนี้สามารถพุ่งดิ่งลงสู่พื้นด้วยความเร็วถึงมัค 10 จากพลังงานของจรวดเสริมกำลังขั้นสุดท้าย ความเร็วสูงเหล่านี้จะลดความสามารถในการติดตามและสกัดกั้นของระบบป้องกันขีปนาวุธ (BMD) AEGIS/SM-6 ของเรือรบสหรัฐฯ ลงเป็นอย่างมาก โดยการออกแบบ YJ-21 นั้นเป็นการผสมผสานระบบอากาศพลศาสตร์และระบบขับเคลื่อนขั้นสูงที่ปรับให้เหมาะสมสำหรับการบินความเร็วเหนือเสียง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการโจมตีเป้าหมายทางทะเลที่มีความสำคัญสูง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top