Monday, 21 April 2025
กระทรวงศึกษาสหรัฐ

ทรัมป์เล็งสั่งยุบกระทรวงศึกษาฯ คืนอำนาจมลรัฐ หวังลดงบประมาณ แต่ติดด่านสภาคองเกรส

(5 ก.พ. 68) สื่อสหรัฐรายงานว่า ทำเนียบขาวเตรียมออกคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามคำสั่งเพื่อยุบกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นไปตามที่ประธานาธิบดีทรัมป์เคยหาเสียงไว้ก่อนหน้านั้น

อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ ไม่สามารถยุบกระทรวงศึกษาธิการได้ตามใจชอบ หากไม่ได้รับการรับรองจากสภาคองเกรสเสียก่อน

สำหรับหน่วยงานด้านการศึกษาสหรัฐเคยก่อตั้งขึ้นในปี 1867 โดยประธานาธิบดีแอนดรูว์ จอห์นสัน แต่ในขณะนั้นมีหน้าที่้เพียงรวบรวมข้อมูลและสถิติเกี่ยวกับโรงเรียนทั่วประเทศ กระทั่งในปี  1979 ประธานาธิบดีจิมมี่ คาร์เตอร์ แห่งพรรคเดโมแครต ได้สั่งก่อตั้งกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐ (United States Department of Education)ขึ้น โดยมีหน้าที่กำหนดนโยบาย บริหารความช่วยเหลือด้านการศึกษาของรัฐบาลกลาง และช่วยประธานาธิบดีบังคับใช้กฎหมายการศึกษาเพื่อให้แน่ใจว่านักเรียนทุกคนจะได้รับการศึกษาที่จำเป็นและสมควรได้รับ กล่าวคือ เป็นหน่วยงานที่คอยกำหนดหลักสูตรการเรียนการสอนทั่วสหรัฐ มีหน้าที่ดูแลการจัดสรรเงินทุนสำหรับโรงเรียนของรัฐ บริหารจัดการเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา และดำเนินโครงการต่าง ๆ ที่ช่วยเหลือนักเรียนที่มีรายได้น้อย

รัฐบาลท้องถิ่นของแต่ละมลรัฐในสหรัฐฯ มีหน่วยงานด้านการศึกษาที่ดูแลสถานศึกษาและงบประมาณในพื้นที่ของตน แต่ไม่สามารถกำหนดหลักสูตรให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ ตามที่ทรัมป์เคยหาเสียงไว้ เขาต้องการให้แต่ละมลรัฐมีอิสระในการจัดการหลักสูตรและการเรียนการสอน เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการแรงงานในแต่ละพื้นที่ อย่างไรก็ตาม มีข้อกังวลว่า หากแต่ละมลรัฐต้องบริหารการศึกษาเอง อาจเกิดความเหลื่อมล้ำ เนื่องจากงบประมาณที่มีในแต่ละท้องถิ่นไม่เท่ากัน

ก่อนหน้านี้ในช่วงที่ทรัมป์หาเสียงเลือกตั้ง เขาเคยกล่าวในหลายครั้งว่า "อีกสิ่งหนึ่งที่ผมจะทำในช่วงเริ่มต้นบริหารคือการปิดกระทรวงศึกษาธิการในวอชิงตัน ดี.ซี. และโอนงานด้านการศึกษาทั้งหมดกลับไปยังหน่วยงานท้องถิ่นของแต่ละมลรัฐต่างๆ"

ทรัมป์ยังกล่าวว่า " “ในสังคมอเมริกันโดยรวมแล้ว เราทุ่มเงินกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปีให้กับระบบการศึกษาของรัฐ แต่เราแทนที่จะอยู่บนสุดของรายชื่อการศึกษาโลก เรากลับอยู่ล่างสุดอย่างแท้จริง ... เดาสิเพราะอะไร"

จากข้อมูลในปี 2024 ระบุว่า กระทรวงศึกษาธิการสหรัฐ ภายใต้รัฐบาลโจ ไบเดน ได้จัดโปรแกรมประถมศึกษาและมัธยมศึกษาให้แก่นักเรียนมากกว่า 50 ล้านคนในโรงเรียนรัฐบาลประมาณ 98,000 แห่งและโรงเรียนเอกชน 32,000 แห่ง นอกจากนี้ยังให้ ทุนการศึกษา เงินกู้ และความช่วยเหลือด้านการทำงานและการเรียนแก่นักเรียนระดับหลังมัธยมศึกษาจำนวนมากกว่า 12 ล้านคน

ด้าน เบ็กกี้ พริงเกิล ประธานสมาคมการศึกษาแห่งชาติ ซึ่งเป็นกลุ่มแรงงานสำคัญ ออกแถลงการณ์เตือนเมื่อวันอังคารว่า คำสั่งที่กำลังจะออกของทรัมป์จะส่งผลกระทบต่อนักเรียนและครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มประชากรที่เปราะบาง

ทั้งนี้ ไม่ใช่แค่โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการยุบกระทรวงศึกษาธิการ ก่อนหน้านั้นในสมัยประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน ได้เคยมีความพยายามยุบกระทรวงศึกษาธิการของรัฐบาลกลางแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ

นับตั้งแต่โดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาดำรงตำแหน่ง กระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ ถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดโดยกรมประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาล (DOGE) ซึ่งก่อตั้งโดยอีลอน มัสก์ การตรวจสอบนี้เกิดขึ้นหลังจากพนักงานหลายสิบคนของกระทรวงฯ ถูกสั่งพักงานตามนโยบายของทรัมป์ ที่ต่อต้านโครงการสนับสนุนความหลากหลาย (DEI) คำสั่งดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามลดจำนวนพนักงานและโครงการของรัฐบาลในหน่วยงานต่างๆ

ทรัมป์สั่งยุบกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ ถามกลับ มีไว้ทำไมหากอันดับการศึกษาตกต่ำ

เมื่อวันที่ (12 ก.พ.68) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่ากระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ นั้นเป็นแหล่งรวมเรื่องหลอกลวงครั้งใหญ่ และต้องการยุบกระทรวงฯ ทันที

ทรัมป์ระบุว่าจากการจัดอันดับระบบการศึกษา 40 ประเทศชั้นนำทั่วโลก สหรัฐฯ ติดอยู่ในอันดับที่ 40 แต่กลับครองอันดับที่ 1 ในแง่ต้นทุนค่าใช้จ่ายสำหรับนักเรียน

ก่อนหน้านี้ทรัมป์อ้างว่าเขาต้องการปิดกระทรวงฯ เพื่อคืนหน้าที่ความรับผิดด้านการศึกษาให้แต่ละรัฐดูแล และเคยเสนอให้ปิดกระทรวงฯ ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการลดขนาดและหน้าที่ของรัฐบาลกลาง

สื่อสหรัฐฯ รายงานว่ากระทรวงฯ มีพนักงานอยู่ 4,245 คน และใช้จ่ายเงิน 2.51 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8.49 ล้านล้านบาท) ในปีล่าสุด ซึ่งการปิดกระทรวงฯ ทันทีอาจส่งผลกระทบต่อเงินช่วยเหลือนักเรียนตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงมัธยมปลายหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงเงินช่วยเหลือค่าเล่าเรียนสำหรับนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัย

ช่วงสัปดาห์หลังจากเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ทรัมป์ได้ผลักดันการปฏิรูปครั้งใหญ่ภายในรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงเร่งลดจำนวนพนักงานของรัฐบาลกลางและอนุญาตให้กระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล ที่นำโดยอีลอน มัสก์ เข้าถึงระบบการชำระเงินสำคัญของหลายหน่วยงาน

นอกจากนี้ ทรัมป์ยังพยายามจะปิดอีกหลายหน่วยงาน เช่น สำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) โดยอ้างว่าหน่วยงานเหล่านี้เต็มไปด้วยการฉ้อโกงร้ายแรง ทว่าการปิดสำนักงานฯ และกระทรวงศึกษาธิการนั้นจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากสภากองเกรส


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top