Wednesday, 23 April 2025
กรมธนารักษ์

'ธนารักษ์' เตรียมประกาศราคาประเมินที่ดินใหม่ 1 ม.ค.นี้

นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ตามประกาศคณะกรรมการประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ เรื่องกำหนดวันเริ่มใช้บัญชีราคาประเมินที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างตามพระราชบัญญัติการประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ พ.ศ. 2562 โดยคณะกรรมการประจำจังหวัดประกาศบัญชีราคาประเมินที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่จัดทำ ทุกรอบ 4 ปี ซึ่งต้องประกาศล่วงหน้าก่อนวันเริ่มใช้บัญชีเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 30 วัน และบัญญัติให้บัญชีราคาประเมินที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง เริ่มใช้ ณ วันที่ 1 มกราคม ของปีที่คณะกรรมการประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อประโยชน์แห่งรัฐกำหนด

ทั้งนี้จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบันยังคงส่งผลกระทบโดยรวมต่อสภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ทางคณะกรรมการประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ จึงออกประกาศให้เริ่มใช้บัญชีราคาประเมินที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างตามพระราชบัญญัติการประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ พ.ศ.2562 โดยให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2566 พร้อมกันทั่วประเทศ 

 

ศาลฯ ส่งคืนแล้ว บ้านพักป่าแหว่ง 45 หลัง ปลดล็อกเปิดทางปลูกป่าฟื้นฟูดอยสุเทพ

อธิบดีกรมธนารักษ์ รับมอบคืนพื้นที่บ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 เบื้องต้นในส่วนของบ้านพัก 45 หลัง ปลดล็อกเปิดทางให้ภาคประชาชนปลูกป่าฟื้นฟูผืนป่าดอยสุเทพ ส่วนอาคารชุดอีก 9 หลังรอดำเนินการลำดับต่อไป 

วันนี้ (27 เม.ย.) ที่โครงการบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 บนพื้นที่ราชพัสดุ 147 ไร่ เชิงดอยสุเทพ ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ และผู้บริหารศาลอุทธรณ์ภาค 5 เป็นตัวแทนทั้งสองหน่วยงาน ในการส่งมอบพื้นที่ในส่วนของบ้านพัก 45 หลัง พื้นที่ประมาณ 85 ไร่ พร้อมด้วยครุภัณฑ์ต่างๆ จากศาลอุทธรณ์ภาค 5 คืนให้กับกรมธนารักษ์ โดยมีตัวแทนเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ นำโดยนายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายฯ ร่วมเป็นสักขีพยานและร่วมกันตรวจสอบพื้นที่ในส่วนของบ้านพัก 45 หลังและครุภัณฑ์ ก่อนที่จะมีการส่งมอบพื้นที่ด้วย ขณะที่ในส่วนของอาคารชุดที่เหลืออีก 9 หลัง จะมีการดำเนินการต่อไปตามลำดับ

นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า การรับมอบพื้นที่คืนในครั้งนี้เบื้องต้นเพื่อเป็นการปลดล็อคให้สามารถดำเนินการบริหารจัดการพื้นที่และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ต่อไปตามลำดับ โดยจากนี้ทางคณะกรรมการระดับจังหวัดที่มีผู้แทนเครือข่ายฯ ร่วมอยู่ด้วย จะไปพิจารณาหารือร่วมกันเพื่อกำหนดรายละเอียดการดำเนินการต่างๆ ต่อไป ให้สอดคล้องตรงความต้องการของประชาชนในพื้นที่ที่เรียกร้อง และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อทุกฝ่าย 

ส่วนครุภัณฑ์ต่างๆ นั้น เมื่อรับมอบแล้วจากนี้มีการดำเนินการระเบียบ ทั้งตรวจสอบและตรวจนับ พร้อมส่งมอบให้ส่วนราชการต่างๆ ที่ต้องการนำไปใช้ประโยชน์ หรือหากไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ก็จำหน่ายออกไปตามระเบียบ สำหรับในส่วนของอาคารชุด 9 หลัง ที่เหลือนั้น จะดำเนินการในลำดับต่อไป

นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางภาคประชาชนเรียกร้องมาเกือบ 4 ปี วันนี้รู้สึกดีใจที่ทางกรมธนารักษ์ได้ดำเนินการรับมอบคืนพื้นที่โครงการบ้านพักตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 แล้ว แม้เบื้องต้นจะเป็นในส่วนของบ้านพัก 45 หลัง พื้นที่ประมาณ 85 ไร่ ส่วนอาคารชุดอีก 9 หลัง จะดำเนินการต่อไป ซึ่งต้องขอบคุณทางศาลอุทธรณ์ภาค 5 ด้วย ที่ให้ความร่วมมือ ขณะที่ขั้นตอนจากนี้ทางเครือข่ายฯ วางแผนเบื้องต้นว่าอีกประมาณ 1 เดือน ประมาณช่วงต้นเดือน มิ.ย. 65 จะนำประชาชนชาวเชียงใหม่ร่วมกันทำพิธีฮ้องขวัญ (เรียกขวัญ) ดอยสุเทพ และทำการปลูกป่าพื้นฟูสภาพป่าพื้นที่เชิงดอยสุเทพบริเวณนี้ให้สมบูรณ์ดังเดิม

ส่วนประเด็นเกี่ยวกับการรื้อถอนบ้านพักทั้งหมดนั้น นายธีระศักดิ์ กล่าวว่า ข้อเรียกร้องที่ผ่านมาของเครือข่าย ยืนยันให้ทำการรื้อถอน แต่ติดขั้นตอนและข้อกฎหมาย ซึ่งจะมีการหารือร่วมกันต่อไป ทั้งนี้ในที่สุดแล้วหากไม่สามารถรื้อถอนได้ ทางเครือข่ายฯ จะพิจารณาฟ้องศาลปกครองต่อไป เพื่อให้ปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง ซึ่งมีมติให้รื้อถอนทั้งบ้านพัก 45 หลัง และอาคารชุด 9 หลัง ออกไป 

สำหรับอาคารชุด 9 หลัง ที่ยังไม่มีการส่งมอบคืนนั้น จะให้เวลาอีกประมาณ 4 เดือน ถึงวันที่ 7 ก.ย. 65 ที่เป็นกำหนดที่ว่าจะย้ายออกไปหลังจากที่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 ที่จังหวัดเชียงราย ก่อสร้างเสร็จ ตามมติ ครม.ที่จังหวัดลำปาง ซึ่งแม้ในความเป็นจริงเวลานี้ศาลอุทธรณ์ภาค 5 ที่จังหวัดเชียงรายเพิ่งจะมีความคืบหน้าก่อสร้างไป 10% เท่านั้น และไม่น่าเสร็จทัน แต่ทางเครือข่ายฯ จะขอยึดกำหนดเวลาดังกล่าว

ทั้งนี้ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ระบุด้วยว่า เบื้องต้นทางเครือข่ายฯ กำหนดด้วยว่าอาจจะนัดเคลื่อนไหวใหญ่ในวันที่ 7 ก.ย. 65 เพื่อทวงสัญญาและเรียกร้องให้ผู้ที่อยู่อาศัยในอาคารชุดทั้ง 9 หลัง ทยอยย้ายออกไป และส่งมอบพื้นที่ดังกล่าวคืนเพื่อปลูกป่าฟื้นฟูผืนป่าเชิงดอยสุเทพที่ถือเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเชียงใหม่ให้กลับมาอุดมสมบูรณ์เหมือนเดิมและลบร่องรอยป่าแหว่งออกไป

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับกรมธนารักษ์ จัดทำโครงการบ้านพักสวัสดิการแก่ข้าราชการตำรวจและลูกจ้างประจำในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนที่พักอาศัย

วันที่ (15 ก.ย. 65) เวลา 10.00 น. ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ. สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการบ้านพักสวัสดิการเพื่อข้าราชการตำรวจและลูกจ้างประจำในสังกัด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับกรมธนารักษ์ กระทรงการคลัง โดยมีนายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์เป็นผู้แทนลงนามฯ ทั้งนี้ มีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมธนารักษ์ร่วมในพิธีฯ

สำหรับพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ตามที่ พล.ต.อ. สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข 
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาการขาดแคลนที่พักอาศัยของข้าราชการตำรวจ และลูกจ้างประจำในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีจำนวนไม่เพียงพอ และในกรณีของข้าราชการตำรวจ ที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว ก็ประสบปัญหาไม่มีที่พักอาศัยเนื่องจากต้องคืนบ้านพักราชการ 

‘ธนารักษ์-กฟผ.’ เสริมแกร่งบูรณาการข้อมูลที่ดินร่วมกัน มั่นใจ!! ประชาชนได้ค่าทดแทนถูกต้อง-รวดเร็วขึ้น

(13 พ.ค. 67) นายจำเริญ โพธิยอด อธิบดีกรมธนารักษ์ และนายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการแลกเปลี่ยน เชื่อมโยง และบูรณาการข้อมูลร่วมกันระหว่างกรมธนารักษ์กับ กฟผ. ณ ห้องออดิทอเรียม อาคาร 50 ปี กฟผ. สำนักงานใหญ่ จ.นนทบุรี

นายจำเริญ โพธิยอด อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า กรมธนารักษ์มีความพร้อมด้านเทคโนโลยีที่จะสนับสนุนข้อมูลราคาประเมินที่ดินและข้อมูลที่ดินราชพัสดุ ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนการดำเนินภารกิจ กฟผ. ในการจ่ายเงินค่าทดแทนที่ดินของเอกชนและค่าตอบแทนการขออนุญาตใช้ที่ดินราชพัสดุที่ระบบโครงข่ายไฟฟ้าพาดผ่าน ส่วนกรมธนารักษ์สามารถนำข้อมูลแนวเขตระบบโครงข่ายไฟฟ้า สถานีไฟฟ้าแรงสูง และข้อมูลแปลงที่ดินของ กฟผ. ไปใช้ในการประเมินราคาที่ดินของกรมธนารักษ์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวเพิ่มเติมว่า กฟผ. มีภารกิจพัฒนาระบบโครงข่ายไฟฟ้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งจำเป็นต้องรอนสิทธิที่ดินใต้แนวเขตทั้งที่เป็นที่ดินของเอกชนและที่ดินของรัฐเพื่อความปลอดภัยของประชาชนและระบบโครงข่ายไฟฟ้า โดย กฟผ. มีหน้าที่ในการจ่ายเงินค่าทดแทนการรอนสิทธิด้วยความเป็นธรรม ดังนั้นการบูรณาการข้อมูลราคาประเมินที่ดินและข้อมูลที่ดินราชพัสดุจากระบบออนไลน์ของกรมธนารักษ์ กับข้อมูลที่ดินจากระบบจัดการข้อมูลงานจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน (Land AIMS) ของ กฟผ. จะช่วยให้ กฟผ. สามารถดึงข้อมูลราคาประเมินที่ดินและข้อมูลที่ดินราชพัสดุจากฐานข้อมูลของกรมธนารักษ์ได้โดยตรง ทำให้สามารถจ่ายเงินค่าทดแทนแก่เจ้าของที่ดิน ค่าตอบแทนและค่าเช่าการขออนุญาตใช้ที่ดินราชพัสดุแก่กรมธนารักษ์ รวมถึงใช้ในการวางแผน การจ่ายค่าเช่าและภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วยิ่งขึ้น

‘ธนารักษ์’ เตรียมจำหน่าย ‘เหรียญที่ระลึก’ เฉลิมพระเกียรติในหลวง ร.10 เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา ตั้งแต่ 24 ก.ค.นี้

(19 ก.ค. 67) นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว จะทรงเจริญชนมพรรษา 6 รอบ ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 กระทรวงการคลัง โดยกรมธนารักษ์จัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก เหรียญที่ระลึก และเหรียญเฉลิมพระเกียรติดังกล่าวขึ้น

ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระองค์ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ ด้วยน้ำพระราชหฤทัยอันเต็มเปี่ยมที่มีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ทรงแก้ไขและบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของพสกนิกรให้มีความร่มเย็นเป็นสุข เพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรและความอุดมสมบูรณ์แก่แผ่นดิน และเพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณให้แผ่ไพศาลทั้งภายในประเทศและนานาประเทศทั่วโลก

สำหรับการจัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก เหรียญที่ระลึก และเหรียญเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ครั้งนี้ ประกอบด้วย

เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 5 ชนิด
1.เหรียญทองคำขัดเงา
-ชนิดราคา 20,000 บาท จำหน่ายราคาเหรียญละ 50,000 บาท

2.เหรียญเงินขัดเงา
-ชนิดราคา 1,000 บาท จำหน่ายราคาเหรียญละ 3,000 บาท

3.เหรียญโลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล)
-ชนิดราคา 50 บาท จ่ายแลกราคาเหรียญละ 50 บาท 

4.เหรียญโลหะสีขาวขัดเงา (ทองแดงผสมนิกเกิล)
-ชนิดราคา 20 บาท จำหน่ายราคาเหรียญละ 200 บาท 

5.เหรียญโลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล)
-ชนิดราคา 20 บาท จ่ายแลกราคาเหรียญละ 20 บาท

โดยเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ทั้ง 5 ชนิด มีลวดลาย ดังนี้

ด้านหน้า กลางเหรียญมีพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ผินพระพักตร์ทางเบื้องขวา ทรงฉลองพระองค์เครื่องแบบเต็มยศจอมทัพ ฉลองพระองค์ครุยมหาจักรีบรมราชวงศ์ ทรงเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์และสายสร้อยจุลจอมเกล้า ภายในวงขอบเหรียญเบื้องล่างมีข้อความว่า ‘พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว’

ด้านหลัง กลางเหรียญมีรูปตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เบื้องล่างมีข้อความบอกราคาว่า ๒๐๐๐ บาท / ๑๐๐๐ บาท / ๕๐ บาท และ ๒๐ บาท ตามลำดับ ภายในวงขอบเหรียญเบื้องบนมีข้อความว่า ‘พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗’ เบื้องล่างมีข้อความว่า ‘ประเทศไทย’ โดยมีลายไทยประดิษฐ์คั่นระหว่างข้อความเบื้องบนกับเบื้องล่างทั้งสองข้าง

เหรียญที่ระลึก 3 ประเภท
1. เหรียญทองคำ ราคาเหรียญละ 60,000 บาท มีลวดลาย ดังนี้

ด้านหน้า กลางเหรียญมีพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์เครื่องแบบเต็มยศจอมทัพ ฉลองพระองค์ครุยมหาจักรีบรมราชวงศ์ ทรงเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์และสายสร้อยจุลจอมเกล้า ภายในวงขอบเหรียญเบื้องล่างมีข้อความว่า ‘พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว’

ด้านหลัง กลางเหรียญมีรูปตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ภายในวงขอบเหรียญเบื้องล่างมีข้อความว่า ‘พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗’

2. เหรียญเงินรมดำพ่นทรายพิเศษ ราคาเหรียญละ 10,000 บาท มีลวดลาย ดังนี้

ด้านหน้า กลางเหรียญมีพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์เครื่องแบบเต็มยศจอมทัพ ฉลองพระองค์ครุยมหาจักรีบรมราชวงศ์ ทรงเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์และสายสร้อยจุลจอมเกล้า ด้าน

ข้างพระบรมรูปทั้งสองข้างมีโต๊ะเคียงทอดเครื่องราชูปโภค โต๊ะเคียงด้านขวาทอดพานพระขันหมาก โต๊ะเคียงด้านซ้ายทอดพระมณฑปรัตนกรัณฑ์ เบื้องล่างด้านซ้ายทอดพระสุพรรณราช เบื้องหลังพระบรมรูปมีพระที่นั่งภัทรบิฐ ภายในวงขอบเหรียญเบื้องล่างมีข้อความว่า ‘พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว’

ด้านหลัง กลางเหรียญมีรูปตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ภายในวงขอบเหรียญเบื้องบนมีข้อความว่า ‘พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ’ เบื้องล่างมีข้อความว่า ‘๒๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๗’

3. เหรียญทองแดงรมดำพ่นทรายพิเศษ ราคาเหรียญละ 3,000 บาท มีลวดลายเช่นเดียวกับลวดลายของเหรียญที่ระลึกชนิดเงินรมดำพ่นทรายพิเศษ

ขณะที่ เหรียญที่ระลึกชนิดเงินรมดำพ่นทรายพิเศษเหรียญเฉลิมพระเกียรติ (เหรียญที่ระลึกประดับแพรแถบ) เหรียญเงิน ชนิดบุรุษและชนิดสตรี จำหน่ายราคาเหรียญละ 1,600 บาท โดยมีลวดลาย ดังนี้

ด้านหน้า กลางเหรียญมีพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์เครื่องแบบเต็มยศจอมทัพ ฉลองพระองค์ครุยมหาจักรีบรมราชวงศ์ ทรงเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์และสายสร้อยจุลจอมเกล้า ภายในวงขอบเหรียญเบื้องล่างมีข้อความว่า ‘พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว’

ด้านหลัง กลางเหรียญมีรูปตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ภายในวงขอบเหรียญเบื้องล่างมีข้อความว่า ‘พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗’

ขอบนอกเหรียญ ด้านหน้าเบื้องบนมี เลข ๑๐ ภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฎ เบื้องหลังประดิษฐานพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร เบื้องล่างด้านขวามีเลข ‘๗’ ด้านซ้ายมีเลข ‘๒’ หมายถึง พระชนมพรรษา 72 พรรษา ด้านหลังขอบนอกเหรียญมีห่วงสำหรับบุรุษใช้ห้อยกับแพรแถบ กว้าง 32 มิลลิเมตร สำหรับสตรีใช้ห้อยกับแพรแถบดังกล่าว ผูกเป็นรูปแมลงปอ

โดยความหมายของแพรแถบ แพรแถบกว้าง 32 มิลลิเมตร พื้นของแพรแถบเป็นสีขาวนวล หมายถึง น้ำพระราชหฤทัยอันบริสุทธิ์ผุดผ่อง ประกอบไปด้วยพระมหากรุณาธิคุณและพระเมตตาที่เปี่ยมล้นที่พระองค์มอบสู่ประชาชนของพระองค์ ทั้งสองข้างมีริ้วสีเหลืองข้างละ 2 ริ้ว สีเหลือง เป็นสีประจำวันพระบรมราชสมภพ และเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ และมีริ้วสีม่วงข้างละ 1 ริ้ว สีม่วง เป็นสีประจำวันพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ที่ทรงเคียงคู่บุญบารมีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

นายจำเริญ โพธิยอด อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมธนารักษ์กำหนดเปิดจำหน่ายจ่ายแลก และรับจองเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก เหรียญที่ระลึก และเหรียญเฉลิมพระเกียรติ (เหรียญที่ระลึกประดับแพรแถบ) ณ สถานที่ดังต่อไปนี้

เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก เริ่มจำหน่าย จ่ายแลก วันที่ 24 กรกฎาคม 2567

-กรมธนารักษ์ ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพมหานคร โทร. 0 2278 5439, 0 2618 6340
-พิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณานุรักษ์ ถนนจักรพงษ์ กรุงเทพมหานคร โทร. 0 2282 0820
-พิพิธบางลำพู ถนนพระสุเมรุ กรุงเทพมหานคร โทร. 0 2281 9812
-พิพิธตลาดน้อย ซอยภาณุรังษี เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร โทร. 0 2233 7390
-พิพิธภัณฑ์ธนารักษ์ จังหวัดเชียงใหม่ โทร. 0 5322 4237 - 8
-พิพิธภัณฑ์ธนารักษ์ จังหวัดขอนแก่น โทร. 0 4330 6167
-พิพิธภัณฑ์ธนารักษ์ จังหวัดสงขลา โทร. 0 7430 7071
-Online : www.treasury.go.th

‘เผ่าภูมิ’ ลุยสวนผึ้ง มอบสัญญาเช่าที่ดิน ในโครงการ ‘ธนารักษ์เอื้อราษฎร์’ เน้น!! แก้ปัญหาในด้าน ‘ที่อยู่อาศัย-ที่ดินทำกิน’ สร้างชีวิตที่สดใสให้ปชช.

(21 ก.ย.67) ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยในการมอบสัญญาเช่าที่ดิน ใน อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ในโครงการ ‘ธนารักษ์เอื้อราษฎร์’ ว่า

โครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์ ‘สัญญาเช่าที่ดิน พลิกชีวิตประชาชน’ ของกระทรวงการคลัง จัดให้มีการมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุให้ประชาชนในวันนี้ (21 ก.ย. 2567) เป็นการมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ รบ.553 (บางส่วน) ต.ป่าหวาย ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี รวม 162 สัญญา เนื้อที่ 1,500 ไร่ 72 ตารางวา เป็นเพื่ออยู่อาศัย จำนวน 55 สัญญา เนื้อที่ 139 ไร่ 1 งาน 33 ตารางวา เพื่อประกอบการเกษตร จำนวน 107 สัญญา เนื้อที่ 1,360 ไร่ 3 งาน 39 ตารางวา ในอัตราค่าเช่าต่ำ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน

กระทรวงการคลังมุ่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน ช่วยให้ประชาชนมีที่ดินในการประกอบอาชีพ มีรายได้ และมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง เข้าถึงบริการสาธารณะขั้นพื้นฐานของรัฐ ทั้งสาธารณูปโภค และสาธารณูปการ และยังสามารถมีสิทธิการเช่าที่ดินไปใช้ประกอบการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้อีกด้วย ซึ่งจะเป็นการสร้างชีวิตใหม่ โอกาสใหม่ให้กับประชาชน 

โดยมีค่าเช่าที่ต่ำ เริ่มต้นที่ 20 บาท/ไร่/ปี สำหรับเนื้อที่ไม่เกิน 50ไร่

โดยในปีนี้ กรมธนารักษ์ ได้มอบสัญญาเช่าที่ดิน สร้างชีวิตใหม่ให้ประชาชนแล้วกว่า 2,800 ราย พื้นที่กว่า 9,000 ไร่ และที่ต่อไป ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ก็คือ จังหวัดสุราษฎร์ธานี 

'เผ่าภูมิ' เผย 'ธนารักษ์' ยกเว้นค่าเช่าที่ราชพัสดุ ช่วยน้ำท่วมใต้ เสียหายบางส่วน 1 ปี ทั้งหลัง 2 ปี 

ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เผยว่า กระทรวงการคลัง โดยกรมธนารักษ์ เล็งเห็นว่า สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ทำให้ประชาชนในพื้นที่ซึ่งเป็นผู้เช่าที่ราชพัสดุได้รับความเสียหายต่อทรัพย์สิน กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพ และการดำเนินธุรกิจของประชาชนเป็นอย่างมาก จึงออกมาตรการเร่งด่วน “ยกเว้นค่าเช่าที่ราชพัสดุ สำหรับผู้เช่าที่ราชพัสดุที่ประสบอุทกภัย” ดังนี้

1. ผู้เช่าที่ดินราชพัสดุเพื่ออยู่อาศัย หากอาคารที่พักอาศัยเสียหายบางส่วนให้ยกเว้นค่าเช่า 1 ปี หากเสียหายทั้งหลัง ให้ยกเว้นค่าเช่า 2 ปี โดยความเสียหายทั้งหลังพิจารณาจากสภาพอาคารที่พักอาศัยที่ไม่สามารถเข้าอยู่ได้โดยสิ้นเชิง เนื่องจากตัวบ้านได้รับความเสียหายหรือโครงสร้างของบ้านเสียหายจนไม่สามารถเข้าอยู่อาศัยได้

2. ผู้เช่าที่ดินราชพัสดุเพื่อประกอบการเกษตร หากพืชหรือผลผลิตได้รับความเสียหายจากเหตุอุทกภัย ให้ยกเว้นการเรียกเก็บค่าเช่า 1 ปี

3. ผู้เช่าอาคารราชพัสดุและผู้เช่าที่ดินเพื่อประโยชน์อย่างอื่น ให้ยกเว้นการเรียกเก็บค่าเช่าตามข้อเท็จจริงว่า ไม่สามารถดำเนินกิจการตามวัตถุประสงค์ในที่เช่าได้ โดยให้ยกเว้นการเรียกเก็บค่าเช่าเป็นรายเดือนตามข้อเท็จจริง (กรณีผู้เช่าอาคารราชพัสดุ ต้องไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติเป็นเวลาเกิน 3 วัน)   

พี่น้องประชาชนสามารถติดต่อสำนักงานธนารักษ์พื้นที่จังหวัดของท่าน เพื่อขอรับการช่วยเหลือจากกรมธนารักษ์ครับ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top