Friday, 5 July 2024
กรมทางหลวง

‘ทล.’ เล็งเปิดใช้ ‘มอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช’ 80 กม. ปลาย ธ.ค. คลุมไป-กลับ ตลอด 24 ชม. รองรับการเดินทางเทศกาลปีใหม่ 67

(6 ต.ค. 66) นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า กรมทางหลวง ได้กำกับ ติดตาม และลงพื้นที่ตรวจความพร้อมโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 6 สายบางปะอิน - นครราชสีมา ตั้งแต่ช่วงปากช่องถึงถนนเลี่ยงเมืองนครราชสีมา (ทล.204) ประกอบด้วย โครงการฯ ตอน 34, ตอน 39, ตอน 40, ด่านเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางสีคิ้ว, ด่านเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางข้ามทะเลสอ และโครงการทางแยกต่างระดับเชื่อมทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางปะอิน - นครราชสีมา กับทางหลวงชนบทหมายเลข นม.1120 (ถนนสุรนารี 2) เพื่อเร่งรัดการก่อสร้างและพิจารณาความพร้อมทุกด้านในการเพิ่มระยะทางของเส้นทางอีก 16 กิโลเมตร

ที่ผ่านมากรมทางหลวงได้เปิดให้ใช้เส้นทางชั่วคราวสำหรับเทศกาลปีใหม่และเทศกาลสงกรานต์บริเวณช่วงปากช่อง - สีคิ้ว - ขามทะเลสอ ระยะทาง 64 กิโลเมตร โดยกรมทางหลวง คาดว่าจะเปิดให้บริการบางส่วนบนทางหลวงพิเศษหมายเลข 6 ช่วงปากช่อง - สีคิ้ว - ขามทะเลสอ - ถนนเลี่ยงเมืองนครราชสีมา (ทล.204) รวมระยะทาง 80 กิโลเมตร ทั้ง 2 ทิศทาง (ขาไปและขากลับ) ตลอด 24 ชั่วโมง ในปลายเดือนธันวาคม 2566 เพื่อรองรับการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 และอำนวยความสะดวกในการเดินทางสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนืออีกด้วย

สำหรับภาพรวมโครงการทางหลวงพิเศษหมายเลข 6 สายบางปะอิน - นครราชสีมา ระยะทาง 196 กิโลเมตร งานโยธาแบ่งการก่อสร้างเป็น 40 ตอน ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จ 28 ตอน และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง 12 ตอน โดยโครงการมีความคืบหน้า 92 % (สรุป ณ เดือนกันยายน 2566) งานโยธาจะดำเนินการแล้วเสร็จในปีนี้อีก 2 ตอน คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จตลอดสายทางในเดือนมิถุนายน 2568

อย่างไรก็ตามเมื่อโครงการแล้วเสร็จจะเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์สำคัญ ที่จะช่วยเติมเต็มโครงข่ายการคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ เปิดประตูการค้าในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มความสะดวกสบาย รวดเร็ว และปลอดภัยในการเดินทาง พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น

'กรมทางหลวง' พร้อม!! ปิดตำนานถนน 7 ชั่วโคตร เปิดใช้ฟรี 'มอเตอร์เวย์บ้านแพ้ว' 8 กม.กลางปี 67

(11 ต.ค. 66) นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยภายหลังพิธีลงนามในข้อตกลงคุณธรรมร่วมกับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ในโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 82 (M82) สายทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ระยะทาง 24.7 กิโลเมตร (กม.) สำหรับการให้เอกชนร่วมลงทุน (PPP) ในการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) เมื่อวันที่ 10 ต.ค.2566

สำหรับการลงนามข้อตกลงคุณธรรมในครั้งนี้ เป็นไปตามข้อกำหนดภายใต้ประกาศสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ เรื่อง แนวทางปฏิบัติสำหรับการนำข้อตกลงคุณธรรมมาใช้กับโครงการร่วมลงทุนที่ดำเนินการตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 และ 2564 เพื่อสร้างความร่วมมือในการป้องกันการทุจริตในโครงการร่วมลงทุน ส่งผลให้กระบวนการคัดเลือกเอกชนเป็นไปด้วยความสุจริต โปร่งใส และได้รับการยอมรับจากทุกภาคส่วน

นายสราวุธ กล่าวว่าแผนการดำเนินโครงการ O&M มอเตอร์เวย์ M82 นั้น วงเงิน 15,724 ล้านบาท สัญญาสัมปทาน 32 ปี แบ่งเป็น ค่างาน O&M วงเงิน 14,687 ล้านบาท ระยะเวลา 30 ปี และ ค่าก่อสร้างงานระบบ วงเงิน 1,037 ล้านบาท ระยะเวลา 2 ปี เบื้องต้นได้แต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 และ ทล. จัดทำร่างเอกสารประกาศเชิญชวนให้เอกชนร่วมลงทุน (RFP) แล้วเสร็จ อยู่ระหว่างเตรียมเสนอโครงการฯ ต่อคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 พิจารณาเห็นชอบต่อไป

นายสราวุธ กล่าวต่อว่า ทล.มีแผนจะประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุน และจำหน่ายเอกสารการคัดเลือกเอกชน (RFP) ในไตรมาส 1/2567 โดยจะเปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอฯ ในช่วงไตรมาส 3/2567 ก่อนจะสรุปผลการคัดเลือกเอกชน และเสนอไปยังคณะกรรมการอัยการสูงสุด พร้อมลงนามในสัญญาภายในปลายปี 2567 หลังจากนั้นจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบผลการคัดเลือกในช่วงไตรมาส 1/2568 ต่อไป 

ส่วนความคืบหน้าการก่อสร้างงานโยธานั้น ตอนที่ 1 หรือสัญญาที่ 1-3 ช่วงบางขุนเทียน-เอกชัย ระยะทาง 8.3 กม. วงเงิน 10,477.386 ล้านบาท ณ ก.ย. 2566 มีความคืบหน้าอยู่ที่ 86.45% จะแล้วเสร็จในช่วงกลางปี 2567 และจะเปิดให้บริการทดลองใช้ฟรีทันที เชื่อมต่อการเดินทางกับโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตกของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) แบบไร้รอยต่อ 

นายสราวุธ กล่าวว่าขณะที่ ตอนที่ 2 อีก 10 สัญญา ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว ระยะทาง 16.4 กม. ปัจจุบันผลงานคืบหน้า 33.94% ได้เร่งรัดให้ดำเนินการแล้วเสร็จภายในกลางปี 2568 จากแผนจะแล้วเสร็จในปลายปี 2568 ซึ่ง ทล. จะพิจารณาเปิดใช้งานโยธา ควบคู่การส่งมอบพื้นที่ให้กับเอกชน เพื่อเข้าพื้นที่ไปดำเนินการโครงการ O&M โดยคาดว่า จะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในปี 2569

“โครงการมอเตอร์เวย์ M82 ที่จะวิ่งลงสู่ภาคใต้นั้น ผมได้เร่งรัดให้งานโยธาแล้วเสร็จภายในกลางปี 68 จากเดิมกำหนดแล้วเสร็จภายในปลายปี 68 ซึ่งจะถือว่า เป็นการปิดตำนานถนนเจ็ดชั่วโคตรบนถนนพระราม 2 จบแน่นอน ส่วนต่อขยายจากบ้านแพ้ว ไปยังปากท่อ ซึ่งอยู่ในแผนฯ ของ ทล.นั้น คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในปี 71 ซึ่งในช่วงดังกล่าว ยังมีปริมาณการจราจรไม่มากนัก และรอความชัดเจนของนโยบายรัฐบาลในระยะต่อไป“ นายสราวุธ กล่าว

นายสราวุธ กล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าโครงการ O&M มอเตอร์เวย์ หมายเลข 6 (M6) สายบางปะอิน–นครราชสีมา และหมายเลข 81 (M81) สายบางใหญ่–กาญจนบุรี โดยกลุ่มกิจการร่วมค้า BGSR ซึ่งประกอบด้วย บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STECON) และ บมจ.ราช กรุ๊ป (RATCH) เป็นผู้ได้รับการคัดเลือกนั้น 

ทั้งนี้ ในส่วนของโครงการ M6 มีความคืบหน้าการดำเนินการล่าช้ากว่าแผน 19% เหตุจาก ทล. ส่งมอบพื้นที่ล่าช้า เนื่องจากขณะนี้ อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 12 ตอน ภายหลังได้รับการเพิ่มวงเงินจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2566 โดยในปี 2566 จะก่อสร้างแล้วเสร็จ 2 ตอน, ปี 2567 แล้วเสร็จ 6 ตอน และจะแล้วเสร็จอีก 4 ตอนครบตลอดสายทางภายใน มิ.ย. 2568 ขณะที่ โครงการ O&M M81 ล่าช้ากว่าแผน 16% อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ไม่กระทบต่อแผนการดำเนินโครงการอย่างแน่นอน

สำหรับโครงการมอเตอร์เวย์ M82 จะใช้ระบบจัดเก็บค่าผ่านทางในรูปแบบไร้ไม้กั้น (M-Flow) เต็มรูปแบบ 100% ทั้งนี้ ทล. คาดการณ์ปริมาณจราจรในปีแรกที่เปิดให้บริการอยู่ที่ 64,203 คันต่อวัน และมีปริมาณจราจรตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ได้รับสัมปทานรวม 1,548,539,113 คัน ส่วนการคาดการณ์รายได้ค่าธรรมเนียมผ่านทางปีแรกที่เปิดให้บริการอยู่ที่ 1,272.71 ล้านบาท และมีรายได้ค่าผ่านทางตลอดสัญญาสัมปทาน 30 ปี อยู่ที่ 116,954.15 ล้านบาท

‘ทล.’ ชี้ ถ.กาญจนาฯ ทรุดตัว เหตุได้รับผลกระทบจากการสร้างอุโมงค์ส่งน้ำ เร่งประสาน ‘กปน.’ ซ่อมผิวจราจร-ตรวจสอบมาตรฐานการก่อสร้างด่วน

‘กรมทางหลวง’ เผย เหตุถนนกาญจนาภิเษกก่อนออกพระราม 2 ทรุดตัวจากชิ้นส่วนผนังอุโมงค์ท่อประปาแตก ทำให้น้ำและทรายไหลเข้าอุโมงค์ เร่งซ่อมโดยด่วน สั่ง!! วิศวกรลงพื้นที่ตรวจสอบขั้นตอน วิธีการก่อสร้างของ ‘กปน.’ เป็นไปตามแบบที่ขออนุญาตหรือไม่

เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 67 กรมทางหลวง (ทล.) ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุถนนทรุดตัว บนทางหลวงหมายเลข 3902 ตอน พระประแดง - บางแค ที่ กม.15+500 หลังรับทราบเหตุเจ้าหน้าที่ได้ทำการลงพื้นที่ตรวจสอบทันที พบว่า ถนนบริเวณที่ได้รับแจ้งผิวจราจรมีรอยแตกและเกิดการทรุดตัว สาเหตุเกิดจากผิวจราจรได้รับผลกระทบ จากการดำเนินงานก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำตามแนวถนนกาญจนาภิเษก จากถนนกัลปพฤกษ์ ถึง สถานีสูบจ่ายน้ำบางมด ซึ่งแนวเจาะท่อประปาอยู่ลึกลงประมาณ 25 เมตรจากระดับพื้นดิน แต่เนื่องจาก มีชิ้นส่วนผนังก่อสร้างอุโมงค์แตกจำนวน 1 ชิ้นส่วน จากทั้งหมด 5 ชิ้นส่วน ทำให้น้ำและทรายไหลเข้าอุโมงค์ โดยโครงการก่อสร้างดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของการประปานครหลวง (กปน.)

ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการปิดการจราจรในบริเวณที่ทรุดตัว และทำการเบี่ยงการจราจรไปใช้ทางหลวงหมายเลข 9 และกรมทางหลวงได้รับการประสานจากผู้รับจ้างของการประปานครหลวง ว่า จะดำเนินการซ่อมผิวทางเพื่อคืนผิวจราจรโดยจะทำการปรับระดับด้วย Asphalt Bound Base ซึ่งจะสามารถดำเนินการได้ในวันนี้ (6 ม.ค.) ก่อนที่จะสามารถเปิดการจราจรได้ตามปกติ

ทั้งนี้ กรมทางหลวง ได้สั่งการให้วิศวกรและผู้เชี่ยวชาญของกรมทางหลวง ลงพื้นที่ตรวจสอบขั้นตอน วิธีการก่อสร้างของงานโครงการดังกล่าว ว่าเป็นไปตามแบบที่ กปน. ได้ขออนุญาตไว้หรือไม่ และจะได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ กปน. ดำเนินการด้วยความละเอียดรอบคอบตามหลักวิศวกรรมเพื่อความปลอดภัยแก่ผู้ใช้ทาง

สำหรับโครงการก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำตามแนวถนนกาญจนาภิเษก จากถนนกัลปพฤกษ์ ถึง สถานีสูบจ่ายน้ำบางมด ของการประปานครหลวง (กปน.) มี ระยะทาง 15.6 กิโลเมตร มีบริษัท สี่แสงการโยธา (1979) จำกัด เป็นผู้รับจ้าง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top