แม้สหรัฐฯ ไม่ส่งขีปนาวุธ 20,000 ลูกให้ยูเครน เชื่อใกล้บีบรัสเซียหยุดยิงได้

(9 มิ.ย. 68) โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เปิดเผยในการสัมภาษณ์กับ ABC News ว่าสหรัฐฯ ได้ยกเลิกแผนส่งมอบขีปนาวุธต่อต้านโดรนจำนวน 20,000 ลูก ตามที่เคยรับปากไว้กับยูเครนในสมัยรัฐบาลโจ ไบเดน โดยอ้างว่าขีปนาวุธดังกล่าวถูกส่งไปยังกองกำลังอเมริกันในตะวันออกกลางแทน ซึ่งสิ่งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ยูเครนต้องต่อกรกับฝูงโดรนชนิดชาเฮด (Shahed) ที่รัสเซียนำมาใช้โจมตีอย่างต่อเนื่อง

ถึงแม้เหตุการณ์นี้จะถูกมองว่าเป็นอุปสรรคทางยุทธศาสตร์ แต่เซเลนสกียืนยันว่าเขาไม่ได้วิตกกังวลต่อการเปลี่ยนท่าทีของสหรัฐฯ และเขาเชื่อว่าตอนนี้ยูเครนอยู่ในจุดที่สามารถชนะรัสเซียได้ พร้อมกล่าวชัดเจนว่า “เรากำลังเข้าใกล้จุดที่เราแทบจะบังคับให้รัสเซียหยุดสงคราม หรืออย่างน้อยก็หยุดยิงชั่วคราว”

ผู้นำยูเครนยังอธิบายว่า กำลังมองเห็นผลจากปฏิบัติการทางทหารที่เจาะลึกเข้าไปภายในดินแดนรัสเซีย ทำให้ฝ่ายตรงข้ามเกิดความตื่นตระหนกและรู้ซึ้งถึง “ศักยภาพแท้จริง” ของยูเครน ขณะที่เขาเน้นว่าโมเมนตัมนี้ช่วยให้เกิดแรงกดดันทางจิตใจต่อกองกำลังรัสเซีย

สำหรับเบื้องหลังการเปลี่ยนเส้นทางส่งมอบขีปนาวุธครั้งนี้ มีรายงานจาก Wall Street Journal และ Kyiv Independent ว่าเป็นคำสั่งจากกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ในสมัยรัฐบาลทรัมป์ ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนเพื่อตอบโต้ภัยคุกคามจากอิหร่านและกลุ่มฮูตีในเยเมน แต่เซเลนสกียังเรียกร้องให้สหรัฐฯ กลับมาส่งมอบยุทโธปกรณ์ครบถ้วน พร้อมขยายความร่วมมือหลากหลายด้านเพื่อช่วยเร่งจุดจบของสงครามและผลักดันให้รัสเซียยอมเจรจาหยุดยิงถาวร