‘ฮุน เซน’ สร้างเรื่อง!! เพื่อปกป้องภาพลักษณ์ ชายแดนไม่ใช่จุดจบ แต่มันคือ ‘จุดเริ่มต้น’
ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2568 ข่าวใหญ่ที่คนทั้งสองฝั่งชายแดนต้องจับตา คือเหตุการณ์ 'ปะทะชายแดนช่องบก' ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา เสียงปืนดังไม่ถึงสิบนาที แต่ 'เสียงการเมือง' ดังไกลเกินค่าย และหนึ่งในเสียงที่ดังกว่าคนอื่น ก็คือ 'สมเด็จฮุน เซน' ถึงแม้จะไม่ใช่นายกรัฐมนตรีแล้ว แต่เขาก็ยังโผล่หน้ากล้อง พูดชัดๆ ว่า “ตรงนี้เป็นดินแดนของเรา! ฉันเคยนั่งอยู่ตรงนี้ในปี 2009 แล้วจะไม่ใช่ของเรายังไง?”
ใครฟังก็รู้สึกว่า ฮุน เซนดูโกรธ ดูจริงจัง เหมือนกำลังจะทวงแผ่นดินคืน แต่พอเรามองให้ลึกลงไป…
สิ่งที่เขาทำ อาจไม่ใช่แค่ 'การปกป้องชายแดน' แต่มันคือ 'การปกป้องภาพลักษณ์ของตัวเองและครอบครัว' จากบางอย่างที่ใหญ่กว่านั้น...
ในประเทศกัมพูชา มีเรื่องหนึ่งที่พูดกันมานานแล้วแต่ยังไม่เคยเคลียร์ คือความใกล้ชิดของฮุน เซนกับ 'เวียดนาม' ย้อนกลับไปปี 1979 ฮุน เซนคือคนที่เวียดนาม 'เลือก' มาตั้งรัฐบาลหลังโค่นเขมรแดง นับแต่นั้นมา เขาก็มีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับฮานอย
บางคนบอกว่า 'เวียดนามช่วยเรา' แต่บางคนกลับมองว่า 'เวียดนามครอบงำเรา'
และนั่นแหละ คือจุดอ่อนที่ฮุน เซนหนีไม่พ้น
เพราะเมื่อเวลาผ่านไป คนรุ่นใหม่ในกัมพูชาก็เริ่มตั้งคำถาม
ทำไมเรายังยอมเวียดนามอยู่?
ทำไมรัฐบาลถึงลงนามแนวเขตที่อาจเสียเปรียบ?
ทำไมนักลงทุนเวียดนามได้สิทธิพิเศษเยอะกว่า?
คำถามพวกนี้แรงขึ้นทุกวัน
โดยเฉพาะในโซเชียลของกลุ่มเยาวชน นักศึกษา และ NGO
แล้วฮุน เซนตอบยังไง?
แทนที่จะตอบตรงๆ…
เขาหันหน้าไปยัง 'ชายแดน' แล้วพูดว่า
> “ไทยกำลังจะมายึดแผ่นดินเรา!”
จบเลยครับ
คนหันไปสนใจเรื่องภายนอก แทนที่จะตั้งคำถามกับเวียดนาม
เหมือนเวลามีคนถามเรื่องที่เราไม่อยากตอบ เราก็ชี้ไปทางอื่นแล้วพูดว่า
> “ดูนั่นสิ ไฟไหม้!”
พูดง่ายๆ คือ...
ฮุน เซนไม่ได้กลัวไทยรุกล้ำดินแดน
แต่เขากลัว 'คนในประเทศ' จะรุกล้ำความชอบธรรมของตระกูลตัวเอง
จบตอน
เหตุการณ์ที่ชายแดน คือหมากเบี่ยงประเด็น
คำพูดแข็งกร้าว คือกำแพงป้องกันศัตรูที่มองไม่เห็น
และในขณะที่โลกกำลังมองว่าไทย-กัมพูชาจะปะทะกันไหม?
ฮุน เซนกำลังชนะอยู่เงียบๆ บนกระดานภายในบ้านของเขาเอง
เรื่อง : ปราชญ์ สามสี