'อ.เจษฎ์' ค้านรัฐขึ้นภาษีน้ำมัน-ลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน แนะควรขึ้นภาษีเหล้าเบียร์ บุหรี่ หาเงินทดแทนดีกว่า

ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า 

น้ำมันเชื้อเพลิง เป็นสินค้าจำเป็นสำหรับชีวิตประจำวันของประชาชน และเป็นต้นทุนในด้านการขนส่งของเศรษฐกิจประเทศ ..

จึงไม่ควรแค่จะขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมัน (เพื่อหาเงินเติมคลัง) แต่ควรจะหาทางลด เพื่อช่วยเหลือประชาชน ด้วยซ้ำครับ

อย่างน้อย ช่วงที่ราคาน้ำมันโลกลดลงต่อเนื่องแบบนี้ ก็ควรจะตรึงค่าภาษีสรรพสามิตไว้ จะได้ทำให้ราคาน้ำมันของผู้บริโภคในประเทศลดตามไปด้วย (ไม่ใช่ทำมาเป็นโม้ว่า ช่วยตรึงค่าน้ำมันให้คงที่ไว้ แต่จริงๆ คือเก็บภาษีเพิ่ม)

ไปขึ้นภาษีสรรพสามิตสินค้าฟุ่มเฟือยอื่นๆ อย่าง เหล้า เบียร์ไวน์ บุหรี่ ฯลฯ ดีกว่าครับ .. ถ้าจะหาเงินโปะ แก้รัฐถังแตก

นอกจากนี้ ดร.เจษฎา ยังระบุด้วยว่า (จากท้ายประกาศฯ) "เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่ปัจจุบันราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวลดลง สมควรเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน ประเภทน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซล เพื่อให้รัฐมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้น อันเป็นการรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศและเสถียรภาพทางการคลังของรัฐ จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้"

ดังนั้น มันไม่ได้ 'ปรับสมดุลรายรับ' อะไรหรอกครับ จริงๆ มันก็คือแอบเนียนๆ หาเงินภาษี มาโปะคลังเพิ่ม เพราะรัฐขาดรายได้ไปมาก (จากการไปสนับสนุนราคารถอีวีนั่นแหละ)

หรือพูดง่ายๆ คือ เทคนิคโยกเงินที่กองทุนน้ำมันควรจะได้ ไปเข้ากระเป๋ารัฐ เอาไปใช้อย่างอื่นแทน