หลายคนเสียดายที่ชาติเรา ‘ไม่เก่งภาษาอังกฤษ’ เพราะเรา ‘ไม่เคยตกเป็นอาณานิคม’ คุ้มไหม!! ต้องตกเป็น ‘ขี้ข้า’ เพื่อจะเก่งภาษาของชาติอื่น อยู่ใต้เงาของเขาตลอดไป

(19 เม.ย. 68) เพจ ‘Bangkok I Love You’ โพสต์ข้อความ ระบุว่า …

มีคนบอกว่าเสียดายที่เราไม่เก่งอังกฤษเพราะเราไม่ได้เป็นอาณานิคมของอังกฤษ แต่แอดจะบอกว่า หากประเทศไทยตกเป็นอาณานิคมตะวันตกวันนั้น วันนี้ เราคงถูกแบ่งแยกเป็นเหนือ กลาง ใต้ และอีสาน และคงไม่มีประเทศไทยที่มั่นคงเหมือนทุกวันนี้ คนที่พูดพร้อมจะแลกมั้ยล่ะ ???

หากประวัติศาสตร์เดินไปในเส้นทางที่แตกต่างออกไป และประเทศไทยต้องตกเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตก เช่น อังกฤษหรือฝรั่งเศส ผลลัพธ์ในปัจจุบันอาจเปลี่ยนแปลงไปอย่างมหาศาล หนึ่งในผลกระทบที่น่าจะเกิดขึ้นก็คือ การแบ่งแยกประเทศไทยออกเป็นหลายดินแดน เหมือนกับที่เกิดขึ้นในอินโดจีน พม่า หรืออินเดียในอดีต

1. นโยบาย 'แบ่งแยกและปกครอง' ของอาณานิคม
ประเทศที่ตกเป็นอาณานิคมมักถูกแบ่งแยกออกเป็นเขตปกครองต่าง ๆ ตามเชื้อชาติ ภาษา วัฒนธรรม หรือภูมิศาสตร์ เพื่อให้อำนาจอาณานิคมสามารถควบคุมดินแดนได้ง่ายขึ้น อังกฤษและฝรั่งเศสใช้วิธีนี้กับอินเดีย พม่า เวียดนาม และลาว ซึ่งทำให้เกิดเส้นแบ่งที่ยังคงมีผลกระทบถึงปัจจุบัน

หากไทยตกเป็นอาณานิคม ก็อาจถูกแบ่งออกเป็นหลายส่วน เช่น

ภาคเหนือ อาจถูกควบคุมร่วมกับพม่า หรือกลายเป็นรัฐอิสระที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของอังกฤษ

ภาคอีสาน อาจกลายเป็นส่วนหนึ่งของอาณานิคมฝรั่งเศสในอินโดจีน รวมเข้ากับลาว

ภาคกลาง โดยเฉพาะกรุงเทพฯ อาจกลายเป็นศูนย์กลางของการปกครองอาณานิคม

ภาคใต้ อาจถูกผนวกเข้ากับมลายูภายใต้การปกครองของอังกฤษ

2. การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์
หากประเทศไทยถูกแบ่งออกเป็นหลายเขตปกครอง เอกลักษณ์ความเป็น 'ไทย' อาจไม่เป็นหนึ่งเดียวอย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน ภาษาที่ใช้ วัฒนธรรม และแม้แต่ศาสนาอาจมีความแตกต่างกันมากขึ้น บางพื้นที่อาจใช้ภาษาฝรั่งเศสหรืออังกฤษเป็นภาษาราชการแทนภาษาไทย เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในเวียดนามและมาเลเซีย

นอกจากนี้ ศิลปะ วรรณกรรม และประเพณีของไทยก็อาจถูกแทรกแซงหรือกลายเป็นวัฒนธรรมที่ผสมผสานกับอิทธิพลตะวันตกมากขึ้น อาจมีระบบการศึกษาแบบอังกฤษในภาคกลาง และระบบการศึกษาแบบฝรั่งเศสในภาคอีสาน เป็นต้น

3. ผลกระทบต่อการรวมชาติเพื่อเอกราช
หากไทยถูกแบ่งเป็นหลายดินแดน การรวมตัวกันเพื่อเรียกร้องเอกราชอาจเป็นเรื่องยากขึ้น เหมือนที่เกิดขึ้นในอินเดีย ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่าจะรวมกันเป็นประเทศเดียว หรืออย่างพม่า ที่มีชนกลุ่มน้อยแยกตัวออกมาต่อต้านรัฐบาลกลางอยู่จนถึงปัจจุบัน

ภาคเหนืออาจมีขบวนการชาตินิยมของตนเอง ภาคใต้ก็อาจได้รับอิทธิพลจากมลายู และอาจมีความพยายามแยกตัวเป็นเอกราช ภาคอีสานอาจใกล้ชิดกับลาวมากขึ้น และกลายเป็นส่วนหนึ่งของรัฐอินโดจีนของฝรั่งเศส เหล่านี้ล้วนเป็นไปได้ หากไทยไม่สามารถรักษาอิสรภาพของตนเองไว้ได้

นอกจากนี้ ประวัติศาสตร์ยังแสดงให้เห็นว่า การแบ่งแยกดินแดนที่เกิดขึ้นจากอาณานิคมนำไปสู่สงครามกลางเมืองในหลายประเทศ เช่น:

อินเดียและปากีสถาน ที่เกิดการแบ่งแยกประเทศหลังได้รับเอกราช ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงระหว่างศาสนาและเชื้อชาติ

เวียดนาม ที่ถูกแบ่งออกเป็นเวียดนามเหนือและเวียดนามใต้ ก่อนจะเกิดสงครามเวียดนามที่ยืดเยื้อ

รวันดาและซูดาน ที่เกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อันเป็นผลมาจากนโยบายแบ่งแยกของอาณานิคม

พม่า ที่มีกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ก่อความไม่สงบต่อรัฐบาลกลางจนถึงปัจจุบัน

4. ไทยอาจไม่มีอยู่ในแผนที่โลกอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
การตกเป็นอาณานิคมอาจทำให้เส้นเขตแดนของประเทศไทยถูกเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง ประเทศไทยอาจไม่สามารถรวมตัวเป็นประเทศเดียวได้ แต่ถูกแบ่งออกเป็นรัฐเล็ก ๆ ที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของมหาอำนาจต่างชาติ เส้นแบ่งแยกนี้อาจทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างภูมิภาคไปตลอด เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในบางประเทศที่เคยเป็นอาณานิคมมาก่อน

การที่ไทยสามารถรักษาเอกราชไว้ได้ในอดีต ทำให้เรายังเป็นประเทศที่มีอัตลักษณ์เป็นเอกภาพ ไม่ถูกแบ่งแยกออกเป็นหลายดินแดนเหมือนอินโดจีนหรือพม่า หากไทยตกเป็นอาณานิคมวันนั้น วันนี้ เราอาจไม่มีคำว่า “ประเทศไทย” อยู่บนแผนที่โลก อาจกลายเป็นรัฐเล็ก ๆ หลายแห่งที่แตกต่างกันทางวัฒนธรรมและภาษา ความเป็นไทยที่เรารู้จักอาจไม่มีอยู่ หรืออาจเป็นเพียงหนึ่งในหลายอัตลักษณ์ที่แยกจากกันไปตามการปกครองของอาณานิคม

5.สมบัติชาติและทรัพยากรจำนวนมหาศาลของเราจะถูกนำกลับไปยังประเทศเจ้าอาณานิคม เช่น พระแก้วมรกต อาจจะโชว์ในบริติชมิวเซียม หรือพระพุทธชินราช อาจจะถูกนำไปประดับพิพิธภัณฑ์ลูฟเป็นต้น

ดังนั้น ประวัติศาสตร์ที่เราเป็นอิสระ ไม่ใช่อาณานิคมของชาติตะวันตก จึงเป็นสิ่งที่ทำให้ไทยสามารถดำรงอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ และยังสามารถกำหนดอนาคตของตัวเองได้โดยไม่ต้องอยู่ใต้เงาของมหาอำนาจจากภายนอก
อ่านจบแล้วตอบอีกที พร้อมจะแลกไหม??