รัสเซียย้ำชัด โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ‘ซาปอริซเซีย’ เป็นของมอสโก ยูเครน-ชาติตะวันตก ไม่สามารถอ้างสิทธิ์ได้อีกต่อไป

(26 มี.ค. 68) กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียประกาศเมื่อวานนี้ (25 มี.ค.) ว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย (Zaporizhzhia Nuclear Power Plant - ZNPP) ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของรัสเซียโดยสมบูรณ์ และย้ำชัดว่า เป็นไปไม่ได้ที่ยูเครนหรือประเทศอื่นๆ จะเข้ามาควบคุมโรงไฟฟ้าแห่งนี้

“โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียเป็นของสหพันธรัฐรัสเซีย การโอนความเป็นเจ้าของหรือให้ชาติอื่นเข้ามาควบคุมนั้นไม่สามารถเกิดขึ้นได้” กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุในแถลงการณ์

สำหรับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย เป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน และถูกกองทัพรัสเซียเข้าควบคุมตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022 ท่ามกลางสงครามรัสเซีย-ยูเครน 

อย่างไรก็ตาม บริษัทพลังงานนิวเคลียร์ยูเครน (Energoatom) ยังคงอ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าแห่งนี้ และเน้นย้ำว่ารัสเซียไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการเข้าควบคุม

ด้านสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของโรงไฟฟ้าแห่งนี้ เนื่องจากอยู่ในเขตสู้รบ และมีรายงานเหตุการณ์โจมตีใกล้กับโรงไฟฟ้าหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา

ขณะที่ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้โทรศัพท์พูดคุยกับ ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนในเดือนนี้ โดยมีรายงานว่า ทรัมป์ได้เสนอแนวคิดให้สหรัฐฯ เข้าควบคุม หรือแม้กระทั่ง “ครอบครอง” โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้งหมดในยูเครน เพื่อเป็นหลักประกันในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซีย

แต่เซเลนสกีได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้งหมด “เป็นของชาวยูเครน” และย้ำว่ายูเครนจะไม่ยอมให้ประเทศอื่นเข้ามาครอบครองหรือควบคุมโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่สำคัญของประเทศ

รายงานระบุว่า ผู้นำยูเครนได้หารือกับทรัมป์เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะเข้ามาร่วมลงทุนในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย (ZNPP) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และปัจจุบันอยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซีย

การพูดคุยระหว่างทรัมป์และเซเลนสกีครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สถานการณ์ด้านความมั่นคงพลังงานของยูเครนยังคงเผชิญแรงกดดันจากรัสเซีย ซึ่งยึดครองโรงไฟฟ้าซาปอริซเซียมาตั้งแต่ปี 2022 ขณะที่สหรัฐฯ และชาติตะวันตกกำลังมองหาหนทางในการช่วยเหลือยูเครนทั้งในด้านการทหารและเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียได้ลงนามออก กฤษฎีกาประกาศให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย เป็นทรัพย์สินของรัสเซียอย่างเป็นทางการ ตอกย้ำการควบคุมของมอสโกเหนือโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ท่ามกลางข้อพิพาทระหว่างรัสเซียและยูเครนเกี่ยวกับความเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าแห่งนี้