ธุรกิจต้องมาก่อน เมื่อบริษัทยักษ์ใหญ่สหรัฐกว่า 150 แห่ง ยังทำธุรกิจในรัสเซีย แม้ถูกคว่ำบาตรหนัก

(19 มี.ค. 68) บริษัทสัญชาติสหรัฐฯ ราว 150 แห่ง นำโดย โคคา-โคลา ฟอร์ด ไมโครซอฟท์ ไอบีเอ็ม แมคโดนัลด์ ยังคงเดินหน้าทำธุรกิจในรัสเซีย แม้วอชิงตันจะประกาศมาตรการคว่ำบาตรต่อมอสโกหลายต่อหลายรอบ จากการเปิดเผยของ คิริล ดมิทรีเยฟ ผู้แทนพิเศษด้านการลงทุนและความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับต่างประเทศของประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน

ดมิทรีเยฟระบุว่า แม้รัฐบาลสหรัฐฯ จะเพิ่มแรงกดดันทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย แต่บริษัทอเมริกันหลายแห่งยังคงเลือกที่จะรักษาผลประโยชน์ทางธุรกิจในประเทศ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมพลังงาน เทคโนโลยี และสินค้าอุปโภคบริโภค

“มีบริษัทสหรัฐฯ จำนวนมากที่ยังคงดำเนินธุรกิจในรัสเซีย เนื่องจากตระหนักถึงความสำคัญของตลาดและโอกาสทางเศรษฐกิจที่นี่” ดมิทรีเยฟกล่าว

ดมิทรีเยฟ กล่าวเสริมอีกว่าบริษัทอเมริกันจะประสบความยากลำบากในการกลับสู่รัสเซีย และทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับบริษัทเหล่านี้คือการร่วมทุนกับธุรกิจในท้องถิ่น “หอการค้าอเมริกันแสดงให้เห็นว่ามีบริษัทสหรัฐฯ 150 แห่งอยู่ในตลาดรัสเซีย โดย 75% ของบริษัทเหล่านี้ดำเนินกิจการมานานกว่า 25 ปีแล้ว และแน่นอนว่าพวกเขาต้องการดำเนินธุรกิจต่อไปในรัสเซีย”

รายงานระบุว่า บริษัทข้ามชาติบางแห่งได้ปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจ เช่น การใช้ตัวแทนท้องถิ่นหรือเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการลงทุนเพื่อให้ยังสามารถดำเนินงานในรัสเซียได้ โดยไม่ขัดต่อมาตรการคว่ำบาตรของรัฐบาลสหรัฐฯ

ในขณะที่หลายบริษัทตะวันตกถอนตัวจากรัสเซียหลังจากความขัดแย้งในยูเครนปะทุขึ้นตั้งแต่ปี 2022 บริษัทอเมริกันบางแห่งกลับ ยังคงรักษาผลประโยชน์ทางธุรกิจในรัสเซีย ท่ามกลางสภาวะที่ซับซ้อนทางภูมิรัฐศาสตร์

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่า แม้มาตรการคว่ำบาตรจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจรัสเซีย แต่ในความเป็นจริง บริษัทต่างชาติบางแห่งยังต้องพึ่งพาตลาดรัสเซีย ทำให้ไม่สามารถถอนตัวออกจากธุรกิจได้โดยง่าย