เร่งหาพันธมิตรรายใหม่ หลังดีลฮอนด้าล่ม คาดคืนวงเจรจาบริษัทชิป ลุยตลาดรถอีวีเต็มสูบ

(6 ก.พ. 68) Nissan Motor กำลังเร่งหา “พันธมิตรใหม่” ในขณะที่การเจรจาควบรวมกิจการกับ Honda Motor ใกล้ถึงทางตัน โดยมีรายงานว่าค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นรายนี้ต้องการจับมือกับบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ เพื่อเสริมศักยภาพรับมือยุคยานยนต์ไฟฟ้า  

แหล่งข่าววงในเปิดเผยว่า Nissan ต้องการพาร์ตเนอร์ที่มีรากฐานในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี และตั้งอยู่ในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดสำคัญที่สุดของบริษัท แนวโน้มของอุตสาหกรรมที่กำลังเปลี่ยนไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าและระบบอัตโนมัติ ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกต้องเร่งสร้างเครือข่ายพันธมิตรนอกเหนือจากอุตสาหกรรมยานยนต์แบบเดิม  

หลังมีกระแสข่าวดังกล่ว ในวันพฤหัสบดี หุ้นของ Nissan ปรับตัวขึ้นสูงสุดถึง 8.7% ในช่วงบ่ายของการซื้อขายที่ตลาดหุ้นโตเกียว แม้โฆษกของ Nissan จะปฏิเสธให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยระบุเพียงว่า รายละเอียดเกี่ยวกับการเจรจากับ Honda จะถูกเปิดเผยตามแผนในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์  

การเจรจากับ Honda ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว สะดุดลงจากหลายปัจจัย หนึ่งในนั้นคือข้อเสนอที่ Honda ต้องการซื้อกิจการ Nissan และทำให้เป็นบริษัทลูก ซึ่งแนวคิดนี้ได้รับแรงต้านอย่างหนักจากฝ่ายบริหารของ Nissan นอกจากนี้ ข้อกำหนดของ Honda ที่ต้องการให้ Nissan ปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ ก่อนที่ดีลจะเกิดขึ้นจริง ก็เป็นอีกอุปสรรคสำคัญ  

อย่างไรก็ตาม การสิ้นสุดการเจรจาครั้งนี้ไม่ส่งผลให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องจ่ายค่าฉีกสัญญาสูงถึง 100,000 ล้านเยน (ประมาณ 657 ล้านดอลลาร์) ตามข้อตกลงที่ลงนามเมื่อวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา  

บอร์ดบริหารของ Nissan กำลังผลักดันให้ CEO มาคิโตะ อุจิดะ และทีมผู้บริหาร เร่งวางแผนปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ เพื่อสร้างเสถียรภาพให้บริษัทก่อนการประกาศผลประกอบการรายไตรมาสในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่บอร์ดจะประชุมและสรุปทิศทางของบริษัทในอนาคต  

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่การจับกุมและปลดอดีตประธาน Carlos Ghosn ในปี 2018 Nissan ต้องเผชิญวิกฤติอย่างต่อเนื่อง จากไลน์ผลิตภัณฑ์ที่ล้าสมัยและกำลังการผลิตที่มากเกินไป จุดเปลี่ยนล่าสุดเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เมื่อกำไรสุทธิของ Nissan ร่วงลงถึง 94% ส่งผลให้บริษัทต้องประกาศปลดพนักงาน 9,000 ตำแหน่ง ลดกำลังการผลิตลง 20% และปรับลดคาดการณ์กำไรประจำปีลง 70%  

นักวิเคราะห์จาก Citigroup เตือนว่า หาก Nissan ไม่เร่งปรับโครงสร้าง อาจเกิดการถดถอยของผลประกอบการอีกครั้ง พร้อมเน้นย้ำว่า “มาตรการปรับโครงสร้างเพิ่มเติมเป็นสิ่งจำเป็น”  

ก่อนหน้านี้ Foxconn บริษัทเทคโนโลยีจากไต้หวันที่ผลิต iPhone ให้ Apple และกำลังมุ่งเข้าสู่ตลาดผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบรับจ้างผลิต เคยให้ความสนใจ Nissan แต่ต้องพักแผนไปชั่วคราวเมื่อทราบว่าบริษัทญี่ปุ่นกำลังเจรจากับ Honda อย่างจริงจัง อย่างไรก็ตาม Foxconn ยังไม่ได้ล้มเลิกความสนใจทั้งหมด และอาจกลับมาพิจารณาอีกครั้งหากดีลกับ Honda ยุติลงจริง