ทรัมป์ชี้ DeepSeek จากจีน กระตุ้นสหรัฐฯ สู้ศึก AI ปลุกอุตสาหกรรมเทคโนโลยี!

(28 ม.ค. 68) หลังจากที่มีการเปิดตัวแอปพลิเคชันโมเดล AI จากบริษัทสตาร์ทอัพจีนอย่าง DeepSeek จนกล่าวเป็นแอปที่มียอดดาวน์โหลดอันดับหนึ่งใน App Store ที่สหรัฐ ซึ่ง DeepSeek ได้ออกมาอ้างว่า ประสบความสำเร็จในการพัฒนาโมเดล AI รุ่นใหม่ภายใต้ชื่อ DeepSeek-R1 ซึ่งทางผู้พัฒนาจากจีนอ้างว่าเป็น AI ที่มีต้นทุนต่ำและประมวลผลเร็วกว่านั้น

ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ เปิดเผยว่า เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) จากบริษัทสตาร์ทอัพจีนอย่าง DeepSeek ควรจะเป็นแรงกระตุ้นให้อุตสาหกรรมเทคโนโลยีของสหรัฐฯ พัฒนาความสามารถในการแข่งขัน และกล่าวว่า การที่บริษัทจีนสามารถพัฒนาเทคโนโลยี AI ที่มีต้นทุนต่ำและรวดเร็วขึ้นนั้นถือเป็นสิ่งที่ดี

ทรัมป์กล่าวว่า "การเปิดตัวโมเดล AI จากบริษัทสัญชาติจีนอย่าง DeepSeek ควรเป็นสัญญาณเตือนให้อุตสาหกรรมของเราต้องมุ่งมั่นเต็มที่เพื่อการแข่งขันที่ดีขึ้น"

กระแสความนิยมของ DeepSeek ซึ่งเป็นโมเดล AI ต้นทุนต่ำ ทำให้บรรดานักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ แห่เทขายหุ้นในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เนื่องจากกังวลว่า AI ของจีนอาจจะท้าทายความเป็นผู้นำด้าน AI ของสหรัฐฯ จนส่งผลให้หุ้นหลายตัวของบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐถูกเทขายมหาศาล โดยเฉพาะหุ้นของบริษัทผู้ผลิตชิปอย่าง NVIDIA ที่สูญเสียมูลค่าตลาดวันเดียวเฉียด 600,000 ล้านดอลลาร์ สังเวยให้กับการเปิดตัวของ DeepSeek 

ทรัมป์กล่าวว่า "ผมได้อ่านเกี่ยวกับจีนและบางบริษัทในจีน โดยเฉพาะบริษัทหนึ่งที่สามารถพัฒนาโมเดล AI ที่เร็วกว่าและราคาถูกกว่า ซึ่งถือเป็นเรื่องดี เพราะมันไม่ต้องใช้เงินลงทุนมาก ผมมองในแง่บวก และเห็นว่าเป็นทรัพย์สินหนึ่ง"

นอกจากนี้ ทรัมป์ยังกล่าวว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนได้กล่าวกับเขาว่าสหรัฐฯ มีนักวิทยาศาสตร์ที่เก่งที่สุดในโลก และชี้ว่า หากอุตสาหกรรมจีนสามารถพัฒนาเทคโนโลยี AI ที่ราคาถูกได้ บริษัทในสหรัฐฯ ก็จะทำตาม

"เรามีไอเดียเสมอ เราคือผู้นำเสมอ ดังนั้นผมมองว่าเป็นพัฒนาการที่ดีมาก แทนที่จะต้องใช้เงินลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ คุณจะใช้เงินน้อยลงและหวังว่าจะได้ผลลัพธ์เหมือนกัน" ทรัมป์กล่าว

ในเวลาเดียวกัน ทรัมป์ยังกล่าวถึงประเด็น TikTok โดยคาดว่าจะมีผู้สนใจเสนอราคาซื้อ TikTok อย่างมาก แต่เขากล่าวว่าไม่ต้องการให้รัฐบาลจีนมีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทโซเชียลมีเดียยอดนิยมนี้ และต้องการให้สหรัฐฯ ถือหุ้น 50% ในกิจการร่วมค้าของ TikTok

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางส่วนตั้งข้อสังเกตว่า AI ต้นทุนต่ำที่บริษัทจีนกล่าวถึงนั้น มีที่มาจากอะไร เนื่องจากการสร้างโมเดล AI ต้องใช้ชิปประมวลผลระดับสูงจำนวนมาก ซึ่งชิปที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาด AI คือชิปจากบริษัท NVIDIA แต่รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ออกคำสั่งห้ามจีนเข้าถึงเทคโนโลยีชิปปัญญาประดิษฐ์ ส่งผลให้เกิดคำถามว่า จีนใช้เทคโนโลยีชิปประมวลผลแบบใดในการสร้างโมเดล AI ของ DeepSeek

ทั้งนี้ มีข้อมูลบางส่วนที่หลุดออกมาระบุว่า DeepSeek ได้ใช้ชิป NVIDIA H800 ในการฝึกฝนโมเดล AI ของตน โดยมีค่าใช้จ่ายเพียงไม่ถึง 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแม้จะมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับคำประกาศนี้ แต่การที่บริษัทสามารถพัฒนาโมเดล AI ประสิทธิภาพสูงด้วยชิปที่มีสมรรถนะต่ำกว่าที่สหรัฐฯ ห้ามส่งออกไปจีน และด้วยต้นทุนที่ต่ำ ได้ทำให้ผู้บริหารเทคโนโลยีในสหรัฐฯ เริ่มตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพของมาตรการควบคุมการส่งออกชิปขั้นสูงที่สหรัฐฯ ใช้กับจีน