ฝนสะสม 3 วัน มวลน้ำจากเทือกเขาหลวงทะลัก สุราษฎร์ธานีอ่วมประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ บางจุดสูง 1 เมตร

(16 ธ.ค. 67) จังหวัดสุราษฎร์ธานีประกาศพื้นที่ภัยพิบัติเพิ่มเป็น 8 อำเภอ หลังชาวบ้านประสบความเดือดร้อนหนักจากน้ำท่วม รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ ปภ. และฝ่ายปกครอง นำถุงยังชีพเยี่ยมชาวบ้าน โดยมีราษฎรได้รับความเดือดร้อน 14,319 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 3 ราย  ขณะที่สถานการณ์ล่าสุดยังมีฝนตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่

พื้นที่บ้านดอนหลวง ม.1 ต.ท่าอุแท อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นจุดรับน้ำก่อนลงทะเล ประสบปัญหาน้ำท่วมสูงกว่า 80 เซนติเมตร บางจุดสูงถึง 1 เมตร โดยมวลน้ำจากเทือกเขาหลวง จ.นครศรีธรรมราช และมวลน้ำฝนที่ตกหนักต่อเนื่องมากกว่า 3 วัน ไหลมาสมทบ สร้างความยากลำบากในการใช้ชีวิตของชาวบ้าน

นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมเจ้าหน้าที่จาก ปภ. และฝ่ายปกครอง ได้นำถุงยังชีพมาเยี่ยมชาวบ้านในพื้นที่ และประเมินสถานการณ์ในช่วงกลางคืน พบว่าชาวบ้านสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ในระดับหนึ่ง แต่ยังคงประสบความยากลำบากในการดำรงชีวิต โดยล่าสุดประกาศพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว 8 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี อ.กาญจนดิษฐ์ อ.ดอนสัก อ.ท่าชนะ อ.ท่าฉาง อ.เกาะสมุย อ.เกาะพะงัน และ อ.บ้านนาสาร

สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ อ.กาญจนดิษฐ์ มีผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมแล้ว 8 ตำบล 47 หมู่บ้าน 2,208 ครัวเรือน รวม 5,247 คน ส่วนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้มี 2 ราย โดยล่าสุดคือ นายวรกิตต์ อายุ 15 ปี ซึ่งเสียชีวิตจากดินถล่มในพื้นที่ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี เมื่อเช้าวันนี้ (16 ธ.ค.)

ในส่วนของเขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง ทำให้ถนนหลายสายถูกน้ำท่วมขังและเกิดการจราจรติดขัดจากถนนกาญจนวิถีไปจนถึงหน้าโรงพยาบาลทักษิณ ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มที่รับน้ำจากถนนอื่นๆ น้ำจึงท่วมสูงและการสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ล่าสุดรักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้สั่งปิดการจราจรบนถนนเส้นดังกล่าวชั่วคราว และจัดการสูบน้ำท่วมขังออกจากพื้นที่ด้วยรถสูบน้ำของ ปภ.สุราษฎร์ธานี

นอกจากนี้โรงเรียนในเขตเทศบาลได้ประกาศปิดเรียนหลายแห่ง และปรับแผนมาเรียนออนไลน์เพื่อความปลอดภัยของนักเรียน ขณะเดียวกัน สายการบินหลายแห่งที่มีกำหนดการถึงสนามบินสุราษฎร์ธานีในช่วง 19.00-19.30 น. ต้องเปลี่ยนเส้นทางไปยังสนามบินภูเก็ตจนกว่าสภาพอากาศจะดีขึ้น ก่อนจะบินกลับมายังสนามบินสุราษฎร์ธานีในช่วง 20.00-21.00 น.