สีจิ้นผิง บอกลา ไบเดน ชี้สัมพันธ์จีนสหรัฐ สำคัญต่อมนุษยชาติ

(18 พ.ย. 67) ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนกล่าวกับประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐอเมริกาว่า ความสัมพันธ์ที่มั่นคงระหว่างสองประเทศไม่เพียงสำคัญต่อประชาชนของทั้งสองฝ่าย แต่ยังส่งผลต่ออนาคตของมนุษยชาติทั้งหมด

รายงานจากสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีนระบุว่า การสนทนานี้เกิดขึ้นในระหว่างการพบหารือนอกรอบการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มเอเปคครั้งที่ 31 ที่กรุงลิมา ประเทศเปรู เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยประธานาธิบดีสีแสดงความยินดีที่ได้พบประธานาธิบดีไบเดนอีกครั้ง พร้อมย้ำว่า แม้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศจะเผชิญความผันผวนในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา แต่การเจรจาและความร่วมมือที่เกิดขึ้นช่วยให้ความสัมพันธ์โดยรวมมีเสถียรภาพ

ประธานาธิบดีสีกล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐในช่วง 45 ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าทุกครั้งที่ทั้งสองฝ่ายปฏิบัติต่อกันด้วยความเป็นมิตรและมองหาโอกาสความร่วมมือ พร้อมทั้งเคารพความแตกต่าง ความสัมพันธ์จะก้าวหน้าอย่างชัดเจน แต่หากปฏิบัติต่อกันในฐานะศัตรูหรือคู่แข่ง ความสัมพันธ์มักตกอยู่ในความวุ่นวายและถดถอย

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีสียังเน้นย้ำถึงความสำคัญของความสัมพันธ์จีน-สหรัฐที่มั่นคง โดยระบุว่า ไม่เพียงแค่เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ แต่ยังส่งผลต่อชะตากรรมของมนุษยชาติในอนาคต แม้ว่าสหรัฐเพิ่งเสร็จสิ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่เป้าหมายของจีนในการสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนและมั่นคงกับสหรัฐยังคงไม่เปลี่ยนแปลง พร้อมย้ำว่าจีนพร้อมทำงานร่วมกับรัฐบาลสหรัฐเพื่อคงไว้ซึ่งการเจรจา ขยายความร่วมมือ และจัดการความแตกต่าง เพื่อผลักดันความสัมพันธ์ให้ราบรื่นและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนของทั้งสองชาติ

ด้านนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งจีนว่า สหรัฐไม่ต้องการทำสงครามเย็น และไม่ต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงระบบของจีน โดยพันธมิตรของสหรัฐเองก็ไม่ได้พุ่งเป้าที่จะต่อต้านจีน

ผู้นำสหรัฐกล่าวด้วยว่า สหรัฐไม่ได้ต้องให้ไต้หวันแยกตัวเป็นอิสระ รวมทั้งไม่ได้ต้องการที่จะขัดแย้งกับจีน และไม่ได้ต้องการให้นโยบายของประเทศที่มีต่อไต้หวันนั้นเป็นหนทางที่จะแข่งขันกับจีน

ทั้งนี้ นายไบเดนได้แสดงความคิดเห็นดังกล่าวกับนายสี จิ้นผิง นอกรอบการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก หรือ เอเปค (APEC) ที่กรุงลิมา ประเทศเปรู