พบ ‘ศพชายปริศนา’ อยู่ในฝ้าใต้สกายวอล์ก ข้ามแยก สาทร–นราธิวาส ตร.คาด!! เป็นขโมยเข้ามาก่อเหตุลักสายไฟ ก่อนถูกไฟดูดเสียชีวิต
เมื่อวานนี้ (6 ก.ย.67) จากกรณี พบศพชายปริศนา อยู่ในฝ้าใต้สกายวอล์ก ข้ามแยก สาทร–นราธิวาส เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 5 กันยายน 67 ที่ผ่านโดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าเป็นหัวขโมยเข้ามาก่อเหตุลักสายไฟ ก่อนถูกไฟดูดเสียชีวิตนาน 4-5 เดือน
ที่จุดเกิดเหตุพบว่า ใกล้บริเวณพบศพนั้นมีประตูอยู่โดยมีกุญแจล็อกไว้ จากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ให้ข้อมูลว่า ประตูนี้มีไว้ให้ช่างไฟหรือช่างซ่อมบำรุงขึ้นไปตรวจสอบเท่านั้น และไม่เคยมีใครเห็นว่ามีคนขึ้นไปนอกจากช่าง
นางสาวณี อายุ 50 ปี เจ้าหน้าที่กวาดถนน สังกัด กทม. เขตสาทร เผยว่า ตัวเองทำงานกวาดถนนอยู่บริเวณนี้ช่วงเช้าถึงบ่ายของทุกวัน ซึ่งทุกเช้ามืดตัวเองจะนำมอเตอร์ไซค์มาจอดบริเวณนี้ประจำจน เมื่อช่วงเดือนเมษายน ตัวเองเริ่มเห็นมีเลือดและน้ำหนองไหลออกจากฝ้าเพดานจุดนี้ และเริ่มส่งกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง จึงได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ดูแลความสะอาดด้านบนสกายวอล์ก เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดบอกว่าด้านบนสกายวอล์กได้กลิ่นแรงกว่าด้านล่าง แต่ก็คิดว่าเป็นเพียงสุนัขหรือสัตว์อื่น ๆ ที่เสียชีวิต และไม่คิดเลยว่าเป็นคน เพราะด้านในนั้นเป็นพื้นที่แคบ
เคยมีคนร้องเรียนไปยัง กทม. ว่าจุดนี้มีเลือดและน้ำหนองไหล เป็นจำนวนมาก ทาง กทม. จึงให้เจ้าหน้าที่มาทำความสะอาดพื้นบริเวณนี้ แต่หลังทำความสะอาดก็ยังพบว่ามีเลือดและน้ำหนองไหลอยู่แต่ไม่มากเท่าไหร่ หลังเกิดเหตุส่วนตัวรู้สึกกลัวและตกใจที่เป็นคนตาย เพราะตัวเองพักอยู่ตรงจุดนี้เสมอ แต่ก็ไม่กังวลเพราะเหตุการณ์ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง
ขณะที่ นายหนุ่ย อายุ 42 ปี วินมอเตอร์ไซค์ เล่าว่า มีคนเห็นว่าจุดนี้มีไฟฟ้าช็อต จึงเรียกช่างไฟมาดู เมื่อช่างไฟมาตรวจสอบก็พบกะโหลกคนอย่างที่ปรากฏในสื่อ ส่วนตัวได้กลิ่นเหม็นนั้นมาเป็นปีแล้วแต่ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมากลิ่นนั้นเหม็นอย่างมาก แต่ตัวเองก็คิดแค่ว่าเป็นกลิ่นจากน้ำคลองหรือไม่ หลังเกิดเหตุเมื่อพบว่าเป็นคน ส่วนตัวก็คิดว่าเป็นขโมยเพราะมีอุปกรณ์ประแจ และหากเป็นช่างซ่อมบำรุงก็น่าจะมีคนมาตามหาแล้ว
ส่วนบริเวณนี้นั้นส่วนใหญ่จะมีแต่คนเร่ร่อนที่พบเห็นอยู่บ่อยครั้ง ส่วนขโมยนั้นส่วนตัวไม่ทราบว่ามีหรือไม่ แต่ก็ไม่เคยเห็น
จากการสอบถาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ ให้ข้อมูลว่า ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุตัวตนได้ว่าเป็นใคร เนื่องจากขณะที่เจอตัวผู้เสียชีวิตนั้นไม่พบเอกสารส่วนตัวใด ๆ แต่จะตรวจสอบอีกครั้งว่าลายนิ้วมือของผู้เสียชีวิตที่แห้งสามารถนำไปตรวจสอบได้หรือไม่ หรือตามสิ่งของเครื่องใช้ที่พบในที่เกิดเหตุมีลายนิ้วมือหลงเหลืออยู่หรือไม่ ส่วนนี้จะประสานเจ้าหน้าที่ พฐ. อีกครั้ง นอกจากนี้ก็จะนำโทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิตไปกู้ข้อมูลเพื่อตรวจสอบอีกครั้งว่าผู้เสียชีวิตมีการติดต่อใครบ้างก่อนจะเกิดเหตุ
ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีใครที่แสดงตัวเป็นญาติเดินทางมาติดต่อที่ สน. และในช่วงที่ผู้ตายเสียชีวิตนั้น ก็ไม่มีใครเดินทางมาแจ้งคนหายแต่อย่างใด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ขอยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง และต้องดูจากผลตรวจสอบอัตลักษณ์จากแพทย์อีกครั้ง