‘ชาวอินโดฯ’ ประท้วง!! หลังรัฐบาลพลิกคำตัดสินศาล รธน. ส่อเจตนาเอื้อประโยชน์ต่อพรรครัฐบาลผสมของ ‘โจโกวี’

เมื่อวานนี้ (21 ส.ค.67) ชาวอินโดนีเซียจำนวนมากออกมารวมตัวกันประท้วงรัฐบาลที่พยายามพลิกคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีคำวินิจฉัยเปิดโอกาสให้คู่แข่งจากพรรคการเมืองเล็ก ๆ เข้ามาร่วมลงสมัครรับเลือกตั้งด้วยได้

เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันที่ 21 ส.ค. ศาลรัฐธรรมนูญของอินโดนีเซียวินิจฉัยว่า พรรคการเมืองไม่จำเป็นต้องมีผู้แทนอย่างน้อย 20% ในสภานิติบัญญัติระดับภูมิภาคของตนจึงจะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งในสนามที่ใหญ่ขึ้นได้

คำวินิจฉัยดังกล่าวหมายความว่า พรรคเล็กที่มีฐานเสียงไม่มากจะมีโอกาสในการแข่งขันทางการเมืองกับพรรคใหญ่ที่มีอิทธิพลได้

อย่างไรก็ตาม ไม่ถึง 24 ชั่วโมงหลังคำวินิจฉัยดังกล่าว รัฐสภากลับยื่นร่างกฎหมายผ่านญัตติฉุกเฉินเพื่อพลิกคำตัดสินดังกล่าว ซึ่งทำให้เกิดการประณามอย่างกว้างขวาง เพราะเกรงว่าจะเป็นวิกฤตการณ์ทางรัฐธรรมนูญ

ผู้ประท้วงรวมตัวกันนอกรัฐสภาในกรุงจาการ์ตา รวมถึงเมืองใหญ่ ๆ อื่น ๆ เช่น ปาดัง บันดุง และยอกยาการ์ตา คาดว่ากฎหมายฉบับเร่งด่วนที่จะพลิกคำตัดสินบางส่วนของศาลจะผ่านสภาในช่วงบ่ายของวันที่ 22 ส.ค.

กฎหมายดังกล่าวจะเอื้อประโยชน์ต่อพรรคการเมืองในรัฐบาลผสมของประธานาธิบดี โจโก วิโดโด หรือ ‘โจโกวี’ ที่กำลังจะลงจากตำแหน่ง รวมถึง ปราโบโว สุเบียนโต ว่าที่ประธานาธิบดีที่กำลังจะขึ้นตำแหน่งในเดือน ต.ค. นี้

ถ้าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญถูกพลิก จะทำให้ อานีส บาสวีดัน อดีตผู้ว่าการกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย และเป็นผู้ที่มักวิจารณ์รัฐบาล จะไม่สามารถลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าการกรุงจาการ์ตาได้

รัฐบาลอินโดนีเซียยังพยายามหาทางยกเลิกการตัดสินใจของศาลรัฐธรรมนูญที่จะคงอายุขั้นต่ำผู้สมัครรับเลือกตั้งไว้ที่ 30 ปี เพราะจะทำให้ กาเอซาง ปังงาเรพ ลูกชายวัย 29 ปีของวิโดโดลงเลือกตั้งระดับภูมิภาคในชวาตอนกลางไม่ได้

ผู้สังเกตการณ์กล่าวว่า การงัดอำนาจกันระหว่างศาลรัฐธรรมนูญของประเทศ กับรัฐสภาอินโดนีเซีย ซึ่งเต็มไปด้วยอิทธิพลของผู้สนับสนุนวิโดโด อาจก่อให้เกิดวิกฤตทางการเมือง

อย่างไรก็ตาม วิโดโดได้พยายามลดความสำคัญของข้อพิพาทนี้ลง โดยกล่าวว่า การแก้ไขคำวินิจฉัยดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของหน้าที่รัฐบาล ‘การตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจ’

ผู้ประท้วงคนหนึ่งที่ชื่อ โจโก อันวาร์ กล่าวว่า ผู้นำของประเทศดูเหมือนจะตั้งใจที่จะรักษาอำนาจของตนเองเอาไว้ ‘ในที่สุด เราจะกลายเป็นเพียงกลุ่มวัตถุที่ไร้อำนาจ แม้ว่าเราจะเป็นผู้มอบอำนาจให้กับพวกเขาก็ตาม ... เราต้องออกมาเดินขบวนบนท้องถนน เราไม่มีทางเลือกอื่น’

ตีตี อังไกรนี นักวิเคราะห์การเลือกตั้งจากมหาวิทยาลัยอินโดนีเซีย กล่าวว่า การที่รัฐสภาตัดสินใจเพิกถอนคำตัดสินของศาลถือเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ ‘นี่คือการขโมยรัฐธรรมนูญ’