‘พรรคล้มสถาบัน’ เด็กเช็ดรองเท้าตะวันตก ดึงโลกมา ‘ปกป้องความผิด’ ของตัวเอง

ปากร้องตะโกนโหยหาแต่ ‘ความเท่าเทียม-เสมอภาค’ แต่พฤติกรรมแต่ละดอกที่แสดงออกให้โลกเห็นกลับย้อนแย้ง กลิ้งกลอก อยากมีอยากได้แต่สิ่งที่ตนเองพึงพอใจ หาใช่ตามกฎหมายกำหนดไม่

เลว และอยากได้ในสิ่งที่ ‘เหนือคนอื่น’ ทำผิดแต่ไม่อยากโดนตัดสินว่าผิด ความชั่วช้าจึงไม่ต่างจาก ‘นักโทษนุ่งผ้าถุงชั้น 14’ ที่ยอมให้คนประณามหยามหมิ่น ทำผิดกับชาติอย่างสาหัส แต่เลือกที่จะหลบเร้นนอนนอกคุก เรียกใช้เหล่าข้าราชการที่ ‘นับถือเงิน’ มากกว่า ‘ความชอบธรรม’ คอยปกป้องคุมกันรอถึงวันสิ้นสุดคดี

คนการเมืองแบบนี้น่ะหรือที่เรียกว่า ‘คนน่านับถือ’ หรือ ‘น่าไว้วางใจ’ ควรคู่กับการยกประเทศชาติให้บริหาร สามัญสำนึกอันต่ำเตี้ยเรี่ยดินเช่นนี้หรือ ที่สมควรจะมาเป็นนักการเมืองที่ดีงามของประเทศชาติให้ผู้คนยกย่อง มองยังไงก็มองไม่เห็นแสงแห่งความชอบธรรม เกรงประเทศจะสิ้นชื่อไม่เหลือซากต่างหากถ้าปล่อย ‘คนพฤติกรรมเน่า’ เช่นนี้เป็นใหญ่เป็นโตขึ้นมาในบ้านเมืองเรา

พฤติกรรมกัดเซาะ จาบจ้วง ดูหมิ่น แถมยังทำทุกวิถีทางในการสนับสนุน ‘กลุ่มเด็กไร้อนาคต’ ให้กระทำผิด 112 เพื่อกระทบชิ่งไปถึงเบื้องสูง ทุกการกระทำตลอดหลายปีเปลือยให้เห็นล่อนจ้อนถึง ‘เจตนาร้าย’ ที่มีต่อสถาบันการปกครองไทย เมื่อจะถูกศาลตัดสินให้ตนเองอาจจะสิ้นชื่อ ก็ร้องไห้ เดินหน้าฟ้องสังคมไทย ตีโพยตีพายไปเป่าหูถึงสังคมโลกที่มี ‘หัวใจชั่ว’ เฉกเช่นตัวเอง ให้เข้ามาช่วยสาระแนสร้างกระแสให้ศาลไม่กล้าลงโทษรุนแรง

ทำผิด แต่กลับกลัวโทษจากความผิด

ทำผิด แต่กลับบอกว่าถ้าศาลลงโทษรุนแรง ศาลนั่นแหละที่ทำผิด หากศาลกล้าตัดสินรุนแรงสังคมไทยก็จะปั่นป่วน ต่างชาติจะมองประเทศไทยล้าหลัง มีตำหนิ และไม่น่าเชื่อถือ

โอ้ว! พฤติกรรมราวเด็กทำส้มที่แกะเปลือกออกแล้วกำลังจับใส่ปากตกลงบนพื้นดิน ดื้อด้านชี้จะเอาส้มลูกใหม่ให้ได้ ร้องไห้งอแง เดินสายฟ้องคนโน้นทีคนนี้ที หาคนช่วยไม่เลือกบ้านเลือกเมืองประสา ‘เด็กโง่ไร้น้ำยา’ ไปวัน ๆ อย่าเป็นเลยนักการเมือง มันจะทำให้ชาติดูน่าอดสูกว่าเก่า

มาเป็น ‘เด็กเช็ดรองเท้า’ ให้ตะวันตกดีกว่า สมฉายา ‘ขี้ข้าฝรั่ง’ ดี


เรื่อง: แจ็ค รัสเซล