'อัษฎางค์' มอง!! เหตุลอบยิงประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไม่ใช่เรื่องใหม่ เปรียบเหมือนคำถามจากประชาชนที่สะท้อนผ่านกระสุนเสรีภาพ
(14 ก.ค.67) อัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เผยถึงกรณีประธานาธิบดีสหรัฐ โดนลอบยิงไม่ใช่เรื่องใหม่ ระบุว่า..
การถูกลอบยิงนั้นไม่เกี่ยวกับการเป็นประเทศประชาธิปไตยหรือเป็นประเทศที่พัฒนาไปแล้วมากน้อยแค่ไหน
เพราะประเทศอื่นๆ ที่เป็นประชาธิปไตยและเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ก็ไม่มีปัญหาซ้ำซากเหมือนสหรัฐอเมริกา
แต่มันคือเรื่องของ 'เสรีภาพ' ซึ่งสหรัฐอเมริกาใช้เป็น สโลแกน หรือ ภาพลักษณ์ของประเทศ
ซึ่งนี่ก็คือ ผลพวงของความเสรีภาพ อย่างไร้ขีดจำกัด
ประชาชนอเมริกันต้องเผชิญกับปัญหาสังคมและเศรษฐกิจในประเทศอย่างหนักและไม่ได้รับเหลียวแล ใยดี จากรัฐบาลเท่าที่ควรจะเป็น
เพราะรัฐบาลเอาแต่ไปยุ่งวุ่นวายกับปัญหากิจการระหว่างประเทศหรือไปแทรกแซงกิจการของประเทศอื่นๆ ทั่วโลก
รัฐบาลอเมริกันใช้ทั้งเงิน เวลาและทรัพยากรมนุษย์ไปกับเรื่องราวนอกบ้าน แต่ปัญหาในบ้าน รัฐบาลอเมริกันกลับปล่อยปละละเลย
พี่แดง ซึ่งอาศัยอยู่สหรัฐอเมริกา คนที่ผมเคยเอามาเล่าให้ฟังว่า ลูกชายทำกิจการร้านอาหารไทยในอเมริกาจนได้รางวัล เล่าให้ผมฟังว่า...
"ร้านค้าข้างร้านของเราโดนทุบกระจกเข้าไปขโมยทรัพย์สิน และเงินที่ดันเก็บไว้ในร้าน $5,000"
"อเมริกาตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อน ต้องอยู่อย่างระแวดระวัง จะออกจากบ้านก็ต้องเช็ก ต้องกดปุ่ม สารพัด"
"รถยนต์ จอดก็ต้องมีกล้องมองติดรถ รวมทั้งทั้งที่หน้าบ้าน และที่ร้านค้าก็ต้องติดกล้อง และเฝ้าระวัง"
“ถ้ามาเห็นในดาวน์ทาวน์แล้วจะหดหู่ใจมาก คนไม่กล้าไปเดินเพราะกลัวคนจรจัด และในที่สุดธุรกิจก็อยู่ไม่ได้"
"รัฐบาลมัวแต่ไปยุ่งเรื่องชาวบ้าน ไม่ดูแลบ้านเมือง ตำรวจเกียร์ว่าง มีกฎหมายบ้า ๆ เช่น ถ้าโจรกรรมไม่เกิน $900 ไม่มีความผิด"
"อเมริกาไม่ปลอดภัย บ้านหรือร้านค้าที่แอลเอ ต้องล็อคประตูสองสามชั้น ไม่ต้องพูดถึง นิวยอร์ก ซานฟรานซิสโก แอตแลนต้า และเมืองใหญ่อื่นๆ"
"แปลกใจกับกฎหมายและการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ปล่อยให้ประชาชนต้องช่วยเหลือตนเองกัน"
"ในดาวน์ทาวน์กลางใจเมือง กิจการร้านค้าที่ปิดตัวไปเยอะมาก และย่านอื่น ๆ ก็เช่นกัน มันเงียบน่าใจหาย สกปรกมาก เทศบาล ไม่ดูแล"
นี่แหละครับ สหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน ให้เสรีภาพกับประชาชนอย่างล้นหลาม แล้วรัฐบาลก็ออกไปทำตัวเป็นผู้จัดระเบียบโลก แต่ลืมจัดระเบียบในประเทศของตนเอง