รัฐบาลสหรัฐฯ รอดชัตดาวน์ รัฐสภาอนุมัติงบฯ ใช้จ่าย 45 วัน หลังร่างที่อนุมัตินี้ไร้เงินหนุนยูเครนทำสงครามกับรัสเซีย

เมื่อวานนี้ (1 ต.ค. 66) ตามเวลาไทย ซึ่งตรงกับวันที่ 30 กันยายนตามเวลาสหรัฐ มติชนรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการชัตดาวน์ระบบของรัฐได้ในนาทีสุดท้าย หลังสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาเห็นพ้องกับข้อตกลงงบประมาณระยะสั้น ที่จะทำให้รัฐบาลมีเงินสำหรับใช้จ่ายไปจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งไม่มีการเพิ่มงบช่วยเหลือให้กับยูเครนแต่อย่างใด

ร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวดังกล่าวซึ่งจะใช้สำหรับเวลา 45 วัน ได้รับการอนุมัติในวุฒิสภาด้วยคะแนน 88 ต่อ 9 เสียง เสนอโดยนายเควิน แมคคาร์ธี (Kevin McCarthy) ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน หลังจากที่ความพยายามครั้งแรกถูกสมาชิกรีพับลิกันขวาจัดในสภาล่างคว่ำไปก่อนหน้านี้

ในบ่ายวันที่ 30 กันยายน ตามเวลาในสหรัฐ สภาผู้แทนราษฎรได้ผ่านร่างงบประมาณชั่วคราว ซึ่งจะทำให้รัฐบาลมีงบประมาณในการดำเนินงานต่อไปอีก 45 วัน แต่ไม่มีการกำหนดกรอบวงเงินค่าใช้จ่ายในประเด็นหลักใด ๆ 

ร่างงบประมาณดังกล่าวได้รับเสียงสนับสนุนจากสมาชิกพรรคเดโมแครตในสภาล่างมากกว่าสมาชิกพรรครีพับลิกัน ซึ่งลงมติคัดค้านมากถึง 90 เสียง และยังส่งผลกระทบต่อกลุ่มขวาจัดของพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรที่ดึงดันจะให้มีการดำเนินการในการปรับลดค่าใช้จ่ายโดยไม่สนใจที่จะประนีประนอมใด ๆ

ทั้งนี้ เนื่องจากสมาชิกสภาคองเกรสส่วนใหญ่ต้องการหลีกเลี่ยงการชัตดาวน์ ร่างงบประมาณที่ผ่านการรับรองโดยวุฒิสภาจึงมีข้อเรียกร้องหลักในประเด็นเดียวกับที่ฝ่ายต่าง ๆ เห็นพ้อง นั่นคือการไม่ตั้งงบประมาณอุดหนุนการทำสงครามต่อต้านรัสเซียของยูเครนอยู่ในนั้น

เดิมทีนายแมคคาร์ธีลังเลอย่างมากที่จะอาศัยคะแนนเสียงจากพรรคเดโมแครตในการผ่านร่างกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรจนถึงนาทีสุดท้าย เพราะรู้ดีว่าจะทำให้สมาชิกพรรครีพับลิกันฝ่ายอนุรักษนิยมโกรธเคือง

อย่างไรก็ตาม ในร่างงบประมาณชั่วคราวนี้ พรรคเดโมแครตก็ไม่ได้รับทุกสิ่งที่ต้องการเช่นเดียวกัน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้มีการชัตดาวน์เกิดขึ้น สุดท้ายเดโมเครตก็ยอมละทิ้งความหวังที่จะจัดเงินเพื่อให้ความช่วยเหลือทางทหารเพิ่มเติมแก่ยูเครน

เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน (Joe Biden) เตือนว่า ในระยะสั้นความพยายามในการทำสงครามของยูเครนอาจหยุดชะงัก และแสดงความคาดหวังว่าแมคคาร์ธีซึ่งสนับสนุนการให้เงินอุดหนุนยูเครนในการต่อสู้กับรัสเซียจะนำร่างกฎหมายแยกต่างหากในเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาในเร็ว ๆ นี้