‘Apple’ เปิดตัว ‘iPhone 15-iPhone 15 Pro’ พร้อมสเปกล่าสุด พอร์ต USB-C และจอ Dynamic Island ทุกรุ่น แถมปุ่ม Action ใหม่

(13 ก.ย. 66) ‘Apple’ จัดงานเปิดตัวสินค้าใหม่ประจำปี 2023 ในชื่อ ‘Wonderlust’ โดยมี iPhone เป็นพระเอก มาครบทั้ง iPhone 15, iPhone 15 Plus, iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max พร้อมบอกลาพอร์ต Lightning เปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB Type-C แทน ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่อย่างเต็มตัว

สรุปข้อมูล iPhone 15 และ iPhone 15 Plus มีอะไรใหม่บ้าง?
รอบนี้ iPhone 15 และ iPhone 15 Plus ไม่มีรอยบากบนหน้าจอแล้ว แต่ได้เกาะหรรษา Dynamic Island มาแทน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกสำหรับ iPhone ในรุ่นที่ไม่ได้อยู่ในซีรีส์ ‘Pro’ โดยจอภาพ Super Retina XDR มีขนาด 6.1 แล้ว 6.7 นิ้ว ตามลำดับ อัตรารีเฟรช 60Hz เท่าเดิม ความสว่างสูงสุด 2,000 นิต

ภายใน iPhone 15 และ iPhone 15 Plus ขยับมาใช้ชิป A16 Bionic แบบเดียวกับที่อยู่ใน iPhone 14 Pro ซึ่งยังทรงพลังอยู่มาก แม้จะตกรุ่นไป 1 ปีแล้วก็ตาม

ข้อมูลด้านแบตเตอรี่ Apple ไม่ได้เปิดเผยความจุเป็นตัวเลขตรง ๆ บอกเพียงระยะเวลาการใช้งานแบบคร่าว ๆ แต่สาระสำคัญคือ iPhone 15 และ iPhone 15 Plus เปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB Type-C แล้ว หลังจากที่โดนเรียกร้องมานาน

กล้องหลัก iPhone 15 และ iPhone 15 Plus เป็นอีกจุดสำคัญที่ได้รับการอัปเกรด โดยเพิ่มความละเอียดขึ้น 4 เท่า เป็น 48MP รองรับเทคโนโลยี quad-pixel รวมแสง 4 จุดเล็ก เป็น 1 จุดใหญ่ มีระบบกันสั่น Sensor-shift และระบบโฟกัสครอบคลุมพื้นที่ 100% ของเซนเซอร์ แตะตรงไหนก็โฟกัสไวเท่ากัน ส่วนกล้องอัลตราไวด์มีความละเอียด 12MP ใช้สำหรับถ่ายภาพหรือวิดีโอมุมกว้าง

สเปก iPhone 15
จอภาพ : Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้ว
– อัตรารีเฟรช 60Hz
– รองรับ HDR
– รองรับ True Tone
– ความสว่างสูงสุด 2,000 นิต (กลางแจ้ง)
ชิป : A16 Bionic
หน่วยความจำ : –
ความจุ : 128GB / 256GB / 512GB
กล้องหลัง : กระจกแซฟไฟร์
– กล้องหลัก 48MP
– กล้องอัลตราไวด์ 12MP
กล้องหน้า :
เครือข่าย : 5G
การเชื่อมต่อ :
– Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac/ax
– Bluetooth 5.3
– NFC
– Ultra Wideband รุ่นที่ 2
พอร์ต : USB Type-C 2 (สูงสุด 480Mb/s)
– รองรับ DisplayPort
แบตเตอรี่ :
– รองรับชาร์จไร้สาย MagSafe
ความทนทาน : มาตรฐาน IP68 (กันน้ำลึก 6 เมตร ไม่เกิน 30 นาที)
ความปลอดภัย :
– SOS ฉุกเฉินผ่านดาวเทียม
– ตรวจจับการชน
ระบบปฏิบัติการ : iOS 17
น้ำหนัก : 171 กรัม

สเปก iPhone 15 Plus
จอภาพ : Super Retina XDR ขนาด 6.7 นิ้ว
– อัตรารีเฟรช 60Hz
– รองรับ HDR
– รองรับ True Tone
– ความสว่างสูงสุด 2,000 นิต (กลางแจ้ง)
ชิป : A16 Bionic
หน่วยความจำ : –
ความจุ : 128GB / 256GB / 512GB
กล้องหลัง : กระจกแซฟไฟร์
– กล้องหลัก 48MP
– กล้องอัลตราไวด์ 12MP
กล้องหน้า :
เครือข่าย : 5G
การเชื่อมต่อ :
– Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac/ax
– Bluetooth 5.3
– NFC
– Ultra Wideband รุ่นที่ 2
พอร์ต : USB Type-C 2 (สูงสุด 480Mb/s)
– รองรับ DisplayPort
แบตเตอรี่ : –
– รองรับชาร์จไร้สาย MagSafe
ความทนทาน : มาตรฐาน IP68 (กันน้ำลึก 6 เมตร ไม่เกิน 30 นาที)
ความปลอดภัย :
– SOS ฉุกเฉินผ่านดาวเทียม
– ตรวจจับการชน
ระบบปฏิบัติการ : iOS 17
น้ำหนัก : 201 กรัม

สรุปข้อมูล iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max มีอะไรใหม่บ้าง?
iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max มาพร้อมจอภาพ Super Retina XDR ขนาด 6.1 และ 6.7 นิ้ว รองรับเทคโนโลยี ProMotion อัตรารีเฟรชสูงสุด 120Hz และรองรับฟีเจอร์ Always On Display สำหรับดูเวลา สถานะ และการแจ้งเตือนต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องเปิดหน้าจอ

ของใหม่ที่น่าสนใจคือ ‘ปุ่ม Action’ ใหม่ เป็นปุ่ม haptic feedback อเนกประสงค์ที่เข้ามาแทนปุ่ม Mute เดิม ปุ่มนี้รองรับการตั้งค่าเป็นชอร์ตคัตที่หลากหลาย ตามแต่ผู้ใช้งานกำหนด เช่น ปิดเสียง เปิดสั่น เปิดไฟฉาย เป็นต้น นอกจากนี้ทั้ง 2 รุ่นยังได้พอร์ต USB Type-C ด้วยเช่นกัน โอนไฟล์เร็วขึ้นสูงสุด 20 เท่า

นอกจากนี้ iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ยังเปลี่ยนวัสดุกรอบตัวเครื่องจากสเตนเลส เป็นไทเทเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศ แข็งแรงกว่า ทนทานกว่า และที่สำคัญน้ำหนักเบากว่า ทำให้เป็นรุ่น ‘Pro’ ที่เบาที่สุดที่ Apple เคยทำมา

iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ขับเคลื่อนด้วยชิป A17 Pro รุ่นล่าสุด พร้อมจีพียู 6 แกนใหม่ รองรับ ray tracing ในระดับฮาร์ดแวร์ โดย Apple เคลมว่าแรงกว่าเดิมมาก ส่วนกล้องหลัง 3 ตัว ทุกเลนส์จะได้รับการโคตติงด้วยเทคโนโลยีนาโน ช่วยลดแสงแฟลร์หน้าเลนส์ กล้องแต่ละตัวประกอบด้วย กล้องหลัก 48MP ระบบกันสั่น Sensor-shift รุ่นที่ 2 กล้องอัลตราไวด์ 12MP และกล้องเทเลโฟโต 12MP ซูมไกล 3 เท่า ในขณะที่ iPhone 15 Pro Max อัปเกรดกล้องเทเลโฟโต เซนเซอร์ใหญ่ขึ้น 25% ซูมออปติคัลไกลสุด 5 เท่า ระยะเทียบเท่า 120 มม.

สเปก iPhone 15 Pro
จอภาพ : Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้ว
– อัตรารีเฟรช 120Hz
– รองรับ Always On Display
ชิป : A17 Pro
หน่วยความจำ : –
ความจุ : 128GB / 256GB / 512GB / 1TB
กล้องหลัง : กระจกแซฟไฟร์
– กล้องหลัก 48MP, ระบบกันสั่น Sensor-shift รุ่นที่ 2
– กล้องอัลตราไวด์ 12MP, ระบบกันสั่น OIS
– กล้องเทเลโฟโต 12MP, ซูมออปติคัล 3 เท่า, ระบบกันสั่น OIS
กล้องหน้า :
เครือข่าย : 5G
การเชื่อมต่อ :
– Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac/ax
– Bluetooth 5.3
– NFC
– Ultra Wideband รุ่นที่ 2
พอร์ต : USB Type-C 3 (สูงสุด 10Gb/s)
– รองรับ DisplayPort
แบตเตอรี่ : –
– รองรับชาร์จไร้สาย MagSafe
ความทนทาน : มาตรฐาน IP68 (กันน้ำลึก 6 เมตร ไม่เกิน 30 นาที)
ความปลอดภัย :
– SOS ฉุกเฉินผ่านดาวเทียม
– ตรวจจับการชน
ระบบปฏิบัติการ : iOS 17
น้ำหนัก : 187 กรัม

สเปก iPhone 15 Pro Max
จอภาพ : Super Retina XDR ขนาด 6.7 นิ้ว
– อัตรารีเฟรช 120Hz
– รองรับ Always On Display
ชิป : A17 Pro
หน่วยความจำ : –
ความจุ : 256GB / 512GB / 1TB
กล้องหลัง : กระจกแซฟไฟร์
– กล้องหลัก 48MP, ระบบกันสั่น Sensor-shift รุ่นที่ 2
– กล้องอัลตราไวด์ 12MP, ระบบกันสั่น OIS
– กล้องเทเลโฟโต 12MP, ซูมออปติคัล 5 เท่า, ระบบกันสั่น OIS
กล้องหน้า :
เครือข่าย : 5G
การเชื่อมต่อ :
– Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac/ax
– Bluetooth 5.3
– NFC
– Ultra Wideband รุ่นที่ 2
พอร์ต : USB Type-C 3 (สูงสุด 10Gb/s)
– รองรับ DisplayPort
แบตเตอรี่ : –
– รองรับชาร์จไร้สาย MagSafe
ความทนทาน : มาตรฐาน IP68 (กันน้ำลึก 6 เมตร ไม่เกิน 30 นาที)
ความปลอดภัย :
– SOS ฉุกเฉินผ่านดาวเทียม
– ตรวจจับการชน
ระบบปฏิบัติการ : iOS 17
น้ำหนัก : 187 กรัม

ราคาและการวางจำหน่าย
- iPhone 15 – ราคาเริ่มต้น 32,900 บาท
- iPhone 15 Plus – ราคาเริ่มต้น 37,900 บาท
- iPhone 15 Pro – ราคาเริ่มต้น 41,900 บาท
- iPhone 15 Pro Max – ราคาเริ่มต้น 48,900 บาท

Apple จะเริ่มเปิดให้พรีออร์เดอร์ iPhone 15 ทั้ง 4 รุ่น ในวันที่ 15 กันยายน ตั้งแต่เวลา 19​:00 น. และจะวางขายตามปกติต่อไปในวันที่ 22 กันยายน