'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' ยก 'ลุงตู่' ที่รู้จัก ต่างจากนักการเมืองทั่วไป 'แข็งนอก-อ่อนใน-ไม่สร้างวาทกรรม' ผู้ร่วมงานด้วยล้วนหลงเสน่ห์

ไม่นานมานี้ นายนันทิวัฒน์ สามารถ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Nantiwat Samart ดังนี้…

ลุงตู่ที่รู้จัก

วันนี้จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีซึ่งอาจจะเป็นนัดสุดท้ายของรัฐบาลลุงตู่ จะเล่าเรื่องลุงตู่ที่ผมรู้จัก

แม้จะไม่ใกล้ชิดสนิทสนมกับลุงตู่มากนัก แต่มีแง่มุมที่พอเล่าสู่กันฟังได้ แต่จะไม่เขียนถึงผลงานของลุงตู่ เพราะมีหลายท่านเขียนผลงานลุงตู่กันมากพอสมควรแล้ว เดี๋ยวจะกลายเป็นการสร้างกระแสลุงตู่

แน่นอน ในสมัยแรกลุงตู่เป็นนายกมาจากการยึดอำนาจ แต่ลุงตู่ยึดอำนาจเพื่อยุติการเผชิญหน้าทางการเมืองระหว่างคนเสื้อแดงและเสื้อเหลือง ที่มีการชุมนุมทางการเมืองด้วยมวลชนจำนวนมากและมีทีท่าที่จะเกิดสงครามกลางเมือง ลุงตู่จัดให้ฝ่ายการเมืองพูดคุยกันเพื่อหาทางออกแต่ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้ จึงนำมาสู่การยึดอำนาจ เพื่อรักษาชีวิตและเป็นการยึดอำนาจที่ไม่มีการเสียชีวิตและเลือดเนื้อของคนในชาติ

ลุงตู่ถูกกล่าวหาว่าเป็นเผด็จการ แต่เนื้อแท้จริง ๆ แล้ว ลุงตู่เป็นคนแข็งนอกอ่อนใน คือภาพของลุงตู่เป็นคนพูดไม่เพราะ พูดแข็ง ๆ ห้วน ๆ ภาษาแบบคนบ้าน ๆ แต่จริงใจ ไม่สร้างวาทกรรม ไม่มีการประดิดประดอยสรรหาถ้อยคำหวานหู ผิดจากนักการเมือง

หากลุงตู่เป็นเผด็จการอย่างที่ถูกกล่าวหา ม๊อบที่ออกมาต่อต้านรัฐบาล และชุมนุมตลอดสมัยการเป็นนายกของลุงตู่ ต้องถูกปราบปรามด้วยการเอาจริงเอาจังมากกว่านี้ เหมือนสมัยรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่จัดการอย่างรุนแรงต่อผู้ชุมนุมมีคนเจ็บคนตาย 

แต่ลุงตู่กลับให้ตำรวจดำเนินการด้วยกฎหมาย ทำงานด้วยความอดทน จนถูกกองเชียร์ลุงตู่บอกว่า หน่อมแน๊ม ไม่มีน้ำยา 

ลุงตู่เป็นทหารมาตลอดช่วงชีวิต แต่เมื่อมาเป็นนักการเมือง ลุงตู่ใจเย็นมากในการทำงานร่วมกับนักการเมืองและฝ่ายต่าง ๆ แต่เมื่อจะจบการประชุมที่เคร่งเครียด คำพูดของลุงตู่ที่ง่าย ๆ แต่ติดหู คือ ขอบคุณ รู้นะว่าทุกคนทำงานหนักและเหนื่อย ความเรียบง่ายและจริงใจของลุงตู่ทำให้คนที่ทำงานด้วยรักลุงตู่

แม้แต่นักการเมืองจำนวนมากก็หลงเสน่ห์ลุงตู่และย้ายพรรคมาร่วมงาน ร่วมหัวจมท้ายกับพรรคลุงตู่ ไม่ไปไหนทั้ง ๆ ที่รู้ว่า พรรคตั้งใหม่เกิดยากถ้าหัวไม่ลง

ขอบคุณลุงตู่ที่เหน็ดเหนื่อย ช่วงนี้ให้ลุงตู่พักเหนื่อยก่อน

เจอกันใหม่เมื่อชาติต้องการ