‘เดชอิศม์’ นำทีม 16 สส.ปชป. แจงหลังแหกมติพรรคโหวตนายกฯ ชี้!! ไม่อยากเอาความแค้นในอดีตมากำหนดอนาคตประเทศชาติ
(24 ส.ค. 66) นายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมเพื่อน สส.กลุ่ม 16 (ยกมือเลือกเศรษฐา ทวีสิน สวนมติพรรค) ร่วมกันแถลงข่าวถึงการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีว่า ต้องขอโทษสื่อมวลชนที่ติดต่อขอสัมภาษณ์ แต่ติดต่อไม่ได้ เนื่องจากติดภารกิจสำคัญ
นายเดชอิศม์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์เริ่มไม่มีเอกภาพมาตั้งแต่การประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ มีการล้มการประชุมถึงสองครั้ง ซึ่งเป็นเจตนาของใครบางคนที่ต้องการให้ล่ม สร้างความเสียหายให้กับพรรค สมาชิกพรรคที่ต้องเดินทางมาประชุม พรรคก็เสียหาย ต้องจ่ายค่าจัดการประชุมครั้งละ 3 ล้านบาท จนถึงขณะนี้เราก็ยังกำหนดวันประชุมเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ไม่ได้
นายเดชอิศม์ กล่าวอีกว่า มาถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี มีการประชุม สส.ของพรรคเพื่อกำหนดแนวทางในการโหวต ซึ่งที่ประชุมมีความเห็นออกเป็นสองแนวทาง คือไม่เห็นชอบ และงดออกเสียง
“ฝ่ายไม่เห็นชอบก็ยกเหตุผลจากความโกรธแค้นในอดีตที่รัฐบาลในยุคก่อนจัดสรรงบประมาณอย่างไม่เป็นธรรม จัดงบพัฒนาภาคใต้ แต่ สส.น้อง ๆ รุ่นใหม่ เสนอให้แยกเรื่องความแค้นกับการเดินหน้าทางการเมืองออกจากกัน ฝ่ายที่เสนอให้เห็นชอบก็มองว่า เมื่อประเทศมาถึงทางตัน จึงควรจะมีทางออก บ้านเมืองจะเกิดศูนย์ยากาศทางการเมืองนานไม่ได้ แต่เสียงจำนวนมาก เห็นว่าควรงดออกเสียง”
นายเดชอิศม์ กล่าวอีกว่า เมื่อมาถึงจุดนี้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคจึงตัดบทว่า เรื่องนี้ไม่อยากให้มีการโหวต การลงมติเป็นเอกสิทธิ์ของ สส. วันนั้นจึงไม่มีการโหวต จึงไม่รู้ว่ามติเป็นอย่างไร
“วันโหวตพวกเราส่วนใหญ่มานั่งคุยกันถึงคุณสมบัติของนายเศรษฐา พร้อม ๆ กับนั่งดูการโหวตไปด้วย นายจุรินทร์โหวตงดออกเสียง นายชวน นายบัญญัติ โหวตไม่เห็นชอบ ซึ่งจะเห็นได้ว่า การโหวตไปคนละทิศคนละทางกัน”
นายเดชอิศม์ กล่าวอีกว่า พวกเรามานั่งพูดคุยกัน ก็เห็นตรงกันว่า การจัดตั้งรัฐบาล รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลสมานฉันท์ จะทำให้ชาติเดินหน้าไปได้ จึงควรสนับสนุนนายเศรษฐา เป็นนายกรัฐมนตรี
“วันนี้เราเป็นฝ่ายค้านเต็มตัว เราไม่กระเหี้ยนกระหือรือเป็นรัฐบาล การร่วมรัฐบาลต้องเป็นไปตามระเบียบพรรค มติเป็นอย่างไรทุกคนต้องปฏิบัติตามนั้น หลักของเรายังเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง”
เมื่อถูกถามว่า เมื่อการโหวตเป็นการโหวตสวนมติพรรค ไม่กลัวจะถูกขับออกจากพรรคหรือ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า ตามระเบียบพรรค การขับสมาชิกพรรคต้องใช้เสียง สส. 3 ใน 4
“ตอนนี้เสียงส่วนใหญ่อยู่ฝั่งนี้หมดแล้ว แล้วใครจะขับใครเราไม่อยากให้เอาความแค้นในอดีตมาส่งมอบให้กับพวกเราคนรุ่นใหม่ แต่ถ้าเป็นนโยบายดี ๆ เรายินดีรับต่อ” นายเดชอิศม์ กล่าว