‘สุวินัย’ ชี้!! ‘เพื่อไทย’ อยู่ในสถานะได้เปรียบ ‘ก้าวไกล’ ทุกประตู เชื่อ!! หากจับมือ ‘ขั้วรัฐบาลเดิม’ จะเป็นผลดีในระยะยาว

เมื่อวานนี้ (15 ก.ค. 66) ดร.สุวินัย ภรณวลัย นักเขียน นักวิชาการสถาบันทิศทางไทยและผู้บำเพ็ญในวิถีบูรณาการ ได้ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘Suvinai Pornavalai’ โดยระบุว่า…

‘เศรษฐา’ : ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 จากเพื่อไทย?

ข้อมูลล่าสุดที่ผมทราบจาก ‘แหล่งข่าว’ จากพรรคเพื่อไทย คือ
1.) คุณอุ๊งอิ๊ง ยังไม่พร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีในสถานการณ์นี้ และครอบครัว คุณทักษิณก็เห็นตรงกัน
2.) แต่คุณเศรษฐาเองก็ไม่ได้เป็นที่พอใจของคนในพรรคเพื่อไทยนัก แถมเจ้าตัวยังไม่มี สส.ในมือเลยสักคนเดียว นี่ยังไม่นับเรื่องทุกครั้งคุณเศรษฐาที่ออกมาพูดจะดึงเรตติ้งของพรรคตกเสมอ
3.) ถึงกระนั้นพรรค​เพื่อไทยก็จำเป็นต้องเสนอชื่อ​ ‘เศรษฐา’ แต่เจ้าตัวกลับมีเงื่อนไขว่า ถ้าเป็นเขาจะต้องมี ‘ก้าวไกล’​ ร่วมรัฐบาลด้วย ซึ่งสอดคล้องกับข้อเสนอของจตุพร พรหมพันธุ์ (แต่ล่าสุดเขาออกมาปฏิเสธข่าวลือนี้ทางทวิตเตอร์แล้ว)

ทางเลือกของพรรคก้าวไกล ตามทฤษฎีเกม

- ถ้ายังยืนกรานจะชูพิธาเป็นนายกฯ อีกครั้งในวันที่ 19 กรกฎาคม ผลลัพธ์น่าจะเหมือนเดิม มิหนำซ้ำคะแนนที่โหวตให้น่าจะน้อยลงกว่าครั้งก่อนแน่นอน ดีไม่ดีพรรคเพื่อไทยอาจจะไม่โหวตให้ด้วยซ้ำ

- แต่ถ้าพรรคก้าวไกลประกาศว่าจะขอเป็นฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทยจะชิงเสนอชื่อ ‘เศรษฐา’ เป็นนายกฯ ค่อนข้างแน่ แต่จะจับขั้วกับพรรคไหนเพื่อตั้งรัฐบาล อันนั้นยังไม่แน่

แต่มีแนวโน้มว่าเพื่อไทยไม่อยากจับมือกับก้าวไกลตั้งรัฐบาล เพราะก้าวไกลยังยืนกรานเป็นกระต่ายขาเดียวว่า จะชูนโยบายแก้ ม. 112 เป็นนโยบายหลักของพรรค ซึ่งอาจทำให้เหล่า สว.ไม่โหวตให้เศรษฐาเป็นนายกฯ ถ้าเศรษฐายังยืนกรานว่าจะดึงก้าวไกลมาร่วมรัฐบาลด้วย

- พรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายเสนอ ‘เศรษฐา’ เป็นนายกฯ เสียเอง ความเป็นไปได้ค่อนข้างต่ำ ถ้าพิจารณาจากอัตตาและตัวตนของก้าวไกลที่เป็นประเภท ‘ยอมหักไม่ยอมงอ’

‘หมากมือนำ’ ของพรรคเพื่อไทย

- ตอนนี้พรรคเพื่อไทยอยู่ในสถานะที่ ‘ได้เปรียบ’ พรรคก้าวไกลทุกประตู แถมยังถือ ‘หมากมือนำ’ ในการกำหนดเกมอำนาจ เพื่อจัดสรรผลประโยชน์ในระยะยาวต่อจากนี้ได้ พร้อมกับ ‘ทางเลือกทางการเมือง’ มากมาย

- พรรคเพื่อไทยรู้แก่ใจตนเองดีที่สุดว่า พรรคก้าวไกลคือคู่แข่งคนสำคัญที่สุดของตน และน่าจะเป็น ‘ว่าที่ศัตรูหลักในอนาคต’ ของพรรคเพื่อไทยด้วย การเดิน ‘หมากมือนำ’ ของพรรคเพื่อไทย จึงควรเป็นการเดินหมากที่ทำให้พรรคก้าวไกลกลายเป็นฝ่ายค้านและฝ่ายแค้น รวมทั้ง ‘ทำลายพิษสง’ ของพรรคก้าวไกลไปพร้อม ๆ กัน

- ม็อบด้อมส้มที่จะลงถนนเพื่อต่อต้าน ‘รัฐบาลพรรคเพื่อไทย’ ที่กำลังจะเกิดขึ้น พรรคเพื่อไทยน่าจะไม่รู้สึกหนักใจหรือวิตกกังวลเลยแม้แต่น้อย เพราะในอดีตเพื่อไทยเคยเจอทั้งม็อบพันธมิตรฯ และม็อบกปปส. มาแล้ว ซึ่งทั้งอึดกว่าและทรงพลังกว่าม็อบด้อมส้มมาก

- เมื่อเป็นเช่นนั้น ‘การร่วมจับมือกับขั้วรัฐบาลเดิม’ น่าจะเป็นผลดีกับพรรคเพื่อไทยในระยะยาวมากกว่า ในแง่การทำงานบริหารประเทศ ที่พูดภาษาเดียวกันรู้เรื่องทางการเมือง

- ขณะที่พรรคก้าวไกลจะกลายมาเป็นพรรคฝ่ายค้านที่ทรงพลังในรัฐสภาอย่างแน่นอน ในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย

ข้างต้น เป็นบทวิเคราะห์ของผม ถูกผิดประการใด ผมขอน้อมรับคำชี้แนะด้วยจิตคารวะ