‘หมอวรงค์’ เปรียบ!! เรื่องสถาบันฯ หากไม่ ‘ศรัทธา’ ก็ควรต้อง ‘เคารพ’ อย่าเป็นแบบตะวันตก ‘ไม่ศรัทธา-ไม่เคารพ’ พระพุทธรูป แถมยังหมิ่น!!

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 66 ที่รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน บนเวที ‘THE STANDARD DEBATE: เลือกตั้ง 66 ENDGAME เกมที่แพ้ไม่ได้’ ซึ่งจัดโดย THE STANDARD ที่มีตัวแทน 10 พรรคการเมืองร่วมประชันวิสัยทัศน์นั้น

ในช่วงหนึ่งของดีเบต ซึ่งดำเนินมาสู่ ‘Round 3 : The Last Stand ตอบชัด วัดจุดยืน’ กับคำถามที่ว่า...

“นพ.วรงค์ มีความคิดอย่างไร เมื่อคนรุ่นใหม่ก็มีสังคมในฝันแบบหนึ่งต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ผู้ใหญ่ก็มีสังคมที่ยึดถืออีกแบบหนึ่ง และสองความคิดนี้กำลังปะทะกันอย่างรุนแรงในสังคม ภาพฝันของสังคมที่จะสามารถอยู่ร่วมกันได้ในแบบของคุณเป็นอย่างไร และการเสนอเพิ่มโทษ ม.112 จะทำให้ภาพฝันนั้นเป็นจริงได้อย่างไร”

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี และหัวหน้าพรรคไทยภักดี ก็ได้ตอบว่า “จริงๆ แล้วผมว่า ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะฝัน เกี่ยวกับเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่อย่างไรก็ตาม ทุกคนต้องเคารพกฎหมาย นี่คือ ‘หัวใจหลัก’ นอกจากเคารพกฎหมายแล้ว ทุกคนต้องเคารพศรัทธาซึ่งกันและกัน ยกตัวอย่างเช่น องค์พระพุทธรูปของศาสนาพุทธ ที่ต่างชาติเขาอาจจะไม่ได้มีความเข้าใจ เขาก็นำมาล้อเล่น แต่คนไทยมีความรู้สึกว่าคุณกำลังละเมิดความศรัทธาของเรา ก็เหมือนกันกับความศรัทธาต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ผู้อยู่เบื้องสูง ที่อยู่คู่กับสังคมไทยมากว่า 700 ปี เราต้องเคารพซึ่งกันและกัน เพราะฉะนั้น วันนี้เราอยู่ร่วมกันในรูปแบบนี้ ภายใต้มิตินี้ ถ้าน้องๆ ทุกคนบอกว่าเคารพสถาบันฯ ต้องการให้สถาบันฯ มีความเข้มแข็ง ถ้าในเมื่อเรามีความรู้สึกจริงใจต่อสิ่งเหล่านี้ ผมว่าเราสามารถเจรจา พูดคุยกันได้ และมันเคารพซึ่งกันและกันได้”

นพ.วรงค์ กล่าวต่ออีกว่า “แต่ในความเป็นจริง วันนี้เราต้องยอมรับว่า มีน้องๆ กลุ่มหนึ่งกระทำผิดกฎหมาย แม้แต่การไปทำโพล ผมไปอ่านบทความของการทำโพลมา ก็ได้เห็นคำถามชัดเจน ผมขออ่านให้ฟังเลยแล้วกัน ด้วยความบริสุทธิ์ใจ อย่างเช่นคำถามที่ถามว่า “คุณเห็นด้วยหรือไม่? ที่รัฐบาลอนุญาตให้พระมหากษัตริย์ใช้อำนาจได้ตามอัธยาศัย” นี่เป็นการทำโพลที่บิดเบือน เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ อยู่ภายใต้กฎหมาย แต่การทำโพลแบบนี้จงใจบิดเบือน เพื่อที่จะทำลายสถาบันฯ

หรือแม้แต่การที่ทำโพลตั้งคำถามว่า “คุณต้องการจ่ายภาษีเลี้ยงราชวงค์หรือไม่?” ซึ่งนี่ก็เป็นการตั้งคำถามขึ้นมาเพื่อมีเจตนาที่จงใจจะทำให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีต่อสถาบันฯ และผมคิดว่า สิ่งที่น้องๆ ต้องเรียนรู้ข้อเท็จจริง คือ พระมหากษัตริย์ท่านไม่ได้รับเงินอะไรเลย งบประมาณปีที่แล้วที่รัฐบาลตั้งให้ 60 ล้านบาทต่อปี พระองค์ท่านไม่ได้รับและคืนให้กับรัฐบาล และงบประมาณรายปีของพระราชินีก็ไม่มี งบประมาณรายปีของราชวงศ์ก็ไม่มี”

“ดังนั้น การอยู่ร่วมกัน เราต้องเคารพซึ่งกันและกัน และสิ่งที่สำคัญที่สุด ผมอยากจะเห็นน้องๆ ทุกคนมีอนาคตที่ดี มีปากท้องที่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดี แต่เราต้องไม่เป็นเครื่องมือของการเมือง และกลุ่มขบวนการต่างชาติ ซึ่งผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้คือ อันตรายต่อประเทศชาติ นี่คือจุดยืนที่ชัดเจนของพวกเรา พรรคไทยภักดี และผมยืนยันว่า ผมอยากจะให้น้องๆ ได้รับสิ่งดีๆ กับชีวิตของเขา และผมเชื่อว่า พรรคไทยภักดีมีความจริงใจ วันนี้ไม่รักไม่ว่า แต่วันหนึ่ง น้องๆ จะรักผมแน่นอน ขอบคุณครับ” นพ.วรงค์ ทิ้งท้าย