(26 เม.ย.66) เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย โดยระบุว่า…

ปัญหาสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน คือโลกแปรปรวน เกิดน้ำท่วม น้ำแล้งรุนแรงและถี่มากขึ้น สร้างความเสียหายให้ประเทศ การพัฒนาต้องหยุดชะงัก และต้องใช้งบประมาณมหาศาลเยียวยา ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล มิติการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมจะต้องเปลี่ยนไปด้วยวิธีคิดใหม่อย่างเป็นระบบ ประเทศไทยจะต้องไม่ท่วมไม่แล้ง ประชาชนต้องมีน้ำกินน้ำใช้ตลอดปี

พรรคเพื่อไทย มีมิติและการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมจะเปลี่ยนแปลงไปทั้งหมด 14 ข้อ
1. จะมีประมวลกฎหมายสิ่งแวดล้อม จะมีการแก้ไข พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม จะมีพ.ร.บ.อากาศสะอาด จะมี พ.ร.บ.น้ำเสีย และจะมีกฎหมายบริหารจัดการขยะที่มีประสิทธิภาพ ให้อำนาจการเป็น Regulator ที่สมบูรณ์ โดยกฎหมายมีโทษทั้งทางแพ่งและอาญา และมีการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน

2. ใช้เครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์ เช่น Incentive และ Sanctions เช่น Tax ทุน ดอกเบี้ยไปพร้อมๆ กัน

3. ปรากฏการหรือเป้าหมายใหม่ๆ เช่น Carbon Neutrality, Zero GHG Emissions, Good Agricultural Practices (GAP) และ Transboundary Haze Agreement (THA) จะมีแนวปฏิบัติที่ชัดเจน มีเจ้าของเรื่อง และมีการติดตามประมวลผลตลอด

4. Circular Economy จะต้องให้ความสำคัญทางด้านผลประโยชน์ควบคู่ไปกับผลผลิตสุดท้าย (ขยะ) อย่างเท่าเทียมกัน

5. การมองทรัพยากรป่าไม้ จะต้องปรับเปลี่ยนจากการมองแบบแยกส่วนทางด้านระบบนิเวศน์ (Ecological Approach) เป็นการมองแบบภูมิทัศน์ทางสังคม (Landscape Approach) แทน

6. ให้ความสำคัญกับระบบนิเวศน์ทางทะเลมากขึ้น เพราะขณะนี้พบว่า บางจุดจะได้เข้าใกล้Planetary Limit and Tolerance แล้ว โดยใช้นโยบาย Blue Evolution 

7. ปัญหาคนทำลายป่าไม้ จะเปลี่ยนวิธีคิดจากเดิมคนอยู่กับป่า มาเป็นป่าอยู่กับคน เพื่อให้นโยบาย Green ประสบความสำเร็จทั้งในป่าและในเมือง

8. การบริหารจัดการเพื่อแก้ปัญหาต้องทำทั้งในมิติการปรับตัว (Resilience) การเยียวยา (Mitigation) และการเปลี่ยนกลับ (Reversal) ไปพร้อม ๆ กัน

9. การบริหารจัดการน้ำท่วมจะต้องอยู่ในบริบทของน้ำที่มีที่อยู่ที่ไป (Room for the River) และประเทศไทยจะต้องมีระบบระบายน้ำควบคู่ไปกับระบบส่งน้ำ

10. ปัญหาขยะจะต้องแก้ที่โครงสร้างโดยเน้นที่ Recycling, Energy Recovery และการจูงใจที่ต้นทาง (WTE) ต้องทำทั้งคุมการเกิด เพิ่มการลด การนำไปใช้ประโยชน์และการกำจัดไปพร้อมๆ กัน

11. การแก้ปัญหาโลกร้อนและน้ำท่วมพื้นที่ต่ำ จะให้ความสำคัญปัญหาภายใน (Domestic)โดยเฉพาะการป้องกันพื้นที่กรุงเทพฯ และพื้นที่ต่ำ 160,000 ตร.กม. ด้วยโครงการเกาะสร้อยไข่มุกสยาม รวมถึงเร่งให้เข้าถึง Carbon Neutrality โดยการปลูกป่าให้เร็วที่สุด สำหรับเรื่อง Net-Zero GHG Emission จะทำร่วมกับประเทศอุตสาหกรรมต่อๆ ไป 

12. อากาศสะอาด โดยเฉพาะ PM2.5 จะต้องหยุดยั้งให้ได้ภายในปีเดียว การเผาป่าต้องหยุด การเผาตอซังต้องห้ามโดยเด็ดขาด การเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านจะต้องทำอย่างจริงจังและจะต้องมีบทลงโทษบริษัทในประเทศไทย

13. จะมีระบบ Pollutor Pay System อย่างจริงจัง พร้อมๆ กับผู้พิทักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมก็จะต้องได้ประโยชน์ด้วย (เช่น ชาวเขาดูแลป่าต้นน้ำให้ชาวเมือง)

14. ถ้าปัญหายังแก้ไม่ได้ จะแยกเอางานทางด้านสิ่งแวดล้อมมาขึ้นกับนายกรัฐมนตรี (เป็นการชั่วคราว) เหมือน EPA (USA)

#คิดใหญ่ทำเป็นเพื่อไทยทุกคน

ที่มา: https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid07aq7AyUrEvzmdfKtAwACcKW6MEmbKpq7A1XXGAvgpDiiTRr34xa3mNh64RSQ4k3El&id=100044569743646&mibextid=Nif5oz